ตอนที่3 น้องทำงานที่นี่หรอ
“ หึ!!! เสน่ห์แรงไม่เบานี่ ”
ในขณะที่หนึ่งนั่งอยู่ในรถคันหรูสีดำเงาราคาห้าสิบล้านเตรียมจะขับออกไปอยู่นั้นก็มองไปเห็นสองสาวที่กำลังเดินมาที่รถโดยมีหนุ่มหล่อวิ่งตามหลังมาคาดว่าจะน่ามาขอเบอร์ไม่ใครก็คนนึง
#Big AS ผับ 21:30 น.
“ ไง…มาช้านะมึง ”
กันต์ทักขึ้นหลังจากที่ร่างสูงของหนึ่งนั่งลงที่โซฟาโต๊ะประจำเป็นโซน VIP ที่อยู่ชิดด้านขวาของเวทีมีโซฟายาวสองตัว และโซฟาเดี่ยวอีกสองตัวล้อมรอบโต๊ะหรู ส่วนโซนด้านซ้ายสุดจะเป็นมุมบาร์เครื่องดื่ม โซนกลางเดินลงบรรไดไปสี่ถึงห้าขั้นก็จะเป็นโซนปกติที่เหล่านักท่องราตรีส่ายสะโพกโยกย้ายกันอยู่
ผับแห่งนี้เป็นผับหรูเปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้ได้ยินข่าวว่ารุ่นพี่ที่จบไปแล้วเป็นเจ้าของผับแห่งนี้โดยร่วมหุ้นกันอยู่สองคนแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะพวกรุ่นพี่กลุ่มนั้นเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครหรือออกมาเปิดตัวกันซักเท่าไหร่
“ รถติด ” เป็นหนึ่งตอบสั้นๆเพียงแค่นั้นก่อนจะนั่งที่โซฟาเดี่ยว กลายเป็นตอนนี้พวกเขาทั้งสี่คนนั่งโซฟากันคนละตัว จากนั้นเขาก็ยกมือกวักเรียกพนักงานเป็นสัญญาณให้มาชงเหล้าให้
#อีกด้านของผับ โซนบาร์เครื่องดื่ม
“ หลินๆ ไปดูโซนVIPฝั่งนู้นให้พี่หน่อยสิวันนี้คนมาเยอะกว่าปกติพนักงานชงเหล้าสองโต๊ะกันไม่ทันน่ะครับ หลินไปบริการโต๊ะผู้ชายสี่คนที่อยู่มุมตรงนั้นนะครับ ”
ผู้จัดการร้านเดินมาบอกขณะที่หลินกำลังจะนำถาดเปล่าไปเก็บเนื่องจากเธอเพิ่งไปเสิร์ฟที่โซนกลางเทวีมา
“ ได้ค่ะพี่ตี๋ ” เธอรับคำ ยิ้มค้อมหัวให้ผู้จัดการ ก่อนจะหุบยิ้มฉับหลังเดินพ้นมา
เมื่อเดินมาถึงเธอก็ก้มหน้าลงก่อนจะเข้าไปชงเหล้าตามปกติเหมือนที่เคยทำ
“ ขอโทษนะคะ ดิฉันขออนุญาตชงเหล้าให้นะคะ ”
เธอเอ่ยขออนุญาตโดยไม่ได้มองหรือสบตากับใครบนโต๊ะเลยว่าเป็นใครอะไรยังไง เธอคิดแค่ว่ามาทำงานไม่ได้จำเป็นต้องพูดคุยหรืออะไรให้มากความ
“ เอ้า!! น้องคนสวยที่ถามทางนี่ ”
กึก!!เธอชะงักน้ำแข็งที่กำลังจะคีบใส่แก้วเหล้าทันที พร้อมกับคิด ‘ใครวะ’ ก่อนจะหันไปมองทางคนพูด
“ อ้าว!! พี่นั่นเอง เอ่อ…สวัสดีค่ะเจอกันอีกแล้ว ” เธอยกมือไหว้พร้อมแสร้งยิ้มออกไปอย่างเป็นมิตร
“ น้องทำงานที่นี่หรอครับ…พี่ชื่อกันต์นะ เรียนวิศวะยานยนต์ปีสองครับ ”
กันต์ได้ทีก็เอ่ยแนะนำตัวทันทีเพราะอยากทำความรู้จักกับสาวสวยน่ารักตรงหน้า
“ อ่อค่ะ ” เธอพยักหน้ารับรู้
“ ส่วนนี่ไอ้ชื่อเป็นหนึ่งเรียนวิศวะยานยนต์เช่นกันครับ ไอ้คนที่นั่งโซฟายาวชื่อแดนดิน ไอ้นั่นชื่อขุนเขาพวกมันสองคนเรียนบริหารครับ ” กันต์พูดไปยิ้มไป อยากให้เธอรู้จักพวกเขามากขึ้น
“ อ่อค่ะ ” เธอยังคงยิ้มให้ ประหยัดคำพูดเช่นเดิมทำเพียงแค่มองตามแต่ละคนที่พยักหน้าทำความรู้จักเท่านั้น
“ เอ่อ…ว่าแต่น้องชื่อ? ” แม้ว่าเขาจะรู้ชื่อเธออยู่แล้วจากการแนะนำต้วเมื่อตอนเย็นที่รับน้องแต่ก็อยากถามอีกครั้ง
“ หลินค่ะ เรียนวิศวะโยธาปีหนึ่ง ” เธอยิ้มบอกพร้อมนำเหล้าที่เพิ่งชงเสร็จมาวางไว้ตรงโต๊ะด้านหน้าของเป็นหนึ่ง และเผลอหันไปสบตากับเขาครู่หนึ่ง ซึ่งเขาก็มองเธออยู่ก่อนแล้วเช่นกัน แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็รีบยืดตัวขึ้นยืนตรงเช่นเดิมแล้วถอยห่างออกไปสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างจากลูกค้า
“ เก่งจังนะครับพี่ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักๆอย่างน้องจะเรียนวิศวะเลย ” กันต์ยังคงพูดต่อโดยไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะเลยซักนิด
“ ค่ะ ” เธอตอบรับเพียงแค่นั้นเพราะไม่ค่อยชอบคุยกับคนที่ไม่สนิท
“ พูดน้อยจังครับ พี่พูดไปตั้งเยอะแหนะ ” กันต์พูดขึ้นโดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากร่างบางเลย
“ หนูพูดไม่เก่งน่ะค่ะ ” เธอยิ้มรับ
“ จะเงียบได้ยัง…รำคาญ!!! ” เป็นหนึ่งพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่านใจ หลินจึงหันไปมองเขานิ่งๆก่อนจะเอ่ยขอโทษเขาออกไปตามมารยาท
หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเธอก็ทำหน้าที่ชงเหล้าปกติ จนล่วงเลยเวลามาเที่ยงคืนคือเวลาเลิกงานของเธอเลยขอตัวออกมาแล้วให้พี่พนักงานประจำเข้าบริการแทน
พอเปลี่ยนชุดเสร็จเธอก็กำลังจะเดินไปที่รถเก๋งคู่ใจ แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อเจอผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงรถเธออยู่เขาคนนั้นก็คือ ผู้ชายที่ชื่อเป็นหนึ่งนั่นเอง
“ พี่คะรบกวนหลบหน่อยได้ไหมคะหนูจะขึ้นรถค่ะ ” เธอพูดกับเขาอย่างสุภาพ
“ นี่รถเธอ? ”
เขาเลิกคิ้วถาม ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นรถเธอแต่ก็แค่อยากถามเพื่อไม่ให้เธอเห็นพิรุธจากเขาได้
“ ค่ะ ”
เธอพยักหน้าตอบนิ่งๆ ทำแววตาใสซื่อเหมือนไม่รู้ว่าเขาตั้งใจมายืนตรงนี้เพราะที่ลานจอดรถของมหาลัยเธอก็เห็นเขาตอนที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถเช่นกัน และเธอก็รู้ว่าเขาจอดมองเธออยู่ตอนนั้น
“ เชิญ ” เขาผายมือพร้อมขยับออกนิดหน่อย
“ ขอบคุณค่ะ ” เธอค้อมหัวตอบก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับแต่ทันใดนั้นก็...
ปึกกกก พรึบบบบ!!!
เสียงเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับพร้อมกับเป็นหนึ่งที่เข้าไปทิ้งตัวลงนั่งที่เบาะ ปิดประตูเสร็จสรรพ
