หรือนี่คือธุรกิจที่ฉันควรทำ 1
"แม่ครับ ทำไมวันนี้แม่ถึงใช้ไข่ไก่ทำอาหารหมด" หลินจื่อมู่ถามด้วยความสงสัยระหว่างเคี้ยวอาหารไปด้วย
หวางเหมิงเหมิงส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู "เคี้ยวให้หมดกลืนก่อนค่อยพูด ที่แม่ใช้ไข่ทำอาหารหมดเพราะพรุ่งนี้พวกเราจะเข้าไปซื้อของในอำเภออย่างไรล่ะ"
อาจเป็นความโชคดีที่หมู่บ้านของเธอนั้นอยู่ติดกับอำเภอพอดี ใช้เวลาเดินทางยี่สิบนาทีก็ไปถึงแล้ว แต่ถ้าเป็นตำบลต้องเดินอ้อมไปอีกทางซึ่งมันลำบากมาก
"แม่จะไปซื้อของเหรอครับ แต่พ่อเพิ่งส่งเงินมาให้นี่"
ทุก ๆ เดือน หลังได้รับเงินเดือนจากสามี หวางเหมิงเหมิงจะพาลูกชายไปซื้อของมาใช้ในบ้านเดือนละครั้ง อาหารที่กินในแต่ละวันก็เป็นผักและไข่ นาน ๆ ถึงจะกินเนื้อที เพราะไม่อยากมีปัญหากับบ้านใหญ่
"ที่บ้านเราพอมีเงินอยู่ลูกไม่ต้องห่วง แม่จะพาไปซื้อของกินดี ๆ มาให้ลูก แต่มีข้อแม้ว่าอย่าไปยุ่งกับหลินจื่อเชียน หลินจิ่งเหยา ทางที่ดีไปเล่นกับเด็กบ้านอื่นดีกว่า"
"ครับ"
หวางเหมิงเหมิงไม่ได้อยากสอนให้ลูกชายเกลียดพี่น้องของตนเอง แต่ว่าดูจากเหตุการณ์ของวันนี้แล้วทางที่ดีควรอยู่ห่างจากสองพี่น้องนั่นจะดีกว่า เพราะพวกเขาก็ไม่ใช่เด็กน่ารักอะไรนิสัยก็ร้ายกาจเพราะถูกตามใจจนเสียคน โตไปคงพบจุดจบไม่ดีแน่ ๆ ยิ่งยุคสมัยนี้กฎระเบียบเคร่งครัดเสียขนาดนี้
ในตอนเช้าทุกคนตื่นมาทำอาหารมื้อเช้าเพื่อไปทำงาน หวางเหมิงเหมิงกลับแตกต่างจากคนอื่น เธอปล่อยให้สะใภ้ใหญ่ทำอาหารให้คนในบ้านก่อน กว่าหล่อนจะทำเสร็จมันก็สายแล้ว ซึ่งเธอไม่ได้เตรียมวัตถุดิบอะไรไว้ให้คนบ้านใหญ่ เพราะถือว่าร่างเดิมแยกบ้านกันแล้ว การอยู่การกินจึงแยกกันมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาร่างเดิมทำให้คนบ้านใหญ่ตลอด
เพราะคิดว่าจะได้ความรักความเมตตาจากแม่สามี เสียงด่าตามหลังมาไม่ได้ทำให้เธอสนใจแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้มีความรักความผูกพันกับพวกเขาเสียหน่อย ถึงแม้เธอจะทำใจยอมรับว่าตัวเองเกิดใหม่ แต่ใช่ว่าจะยอมให้จิกหัวใช้งานเยี่ยงทาส
เช้าวันนี้หวางเหมิงเหมิงได้ทำข้าวตุ๋นไข่จากไข่ที่เหลืออยู่กินกับลูกสองคน หลังอิ่มจึงได้อาบน้ำแต่งตัวก็พากันปิดห้องอย่างหนาแน่น อะไรที่สำคัญนำติดตัวก่อนพากันเดินเท้าเข้าไปในอำเภอเพื่อซื้อของ คนที่บ้านใหญ่ไว้ใจใครไม่ได้สักคนเธอจึงไม่อยากเอาของมีค่าไว้ที่บ้าน
"ถ้าลูกอยากได้อะไรให้บอกแม่ แม่จะซื้อให้ แต่ว่าลูกจะเลือกได้เพียงของอย่างเดียวเท่านั้น" หวางเหมิงเหมิงก้มหน้าลงทำข้อตกลงกับลูกชายก่อนเข้าไปในตัวตลาด ตอนนี้เธอมีเงินไม่มากจึงไม่สามารถซื้อทุกอย่างที่อยากได้ให้เขาได้ อีกอย่างถึงมีเงินมากก็ไม่อาจตามใจลูกชายจนเสียคนเหมือนหลินจื่อเชียนเป็นอันขาด
"ครับ"
ปกติแล้วหลินจื่อมู่ไม่ค่อยได้ตามแม่มาที่ตลาด วันนี้พอได้ยินว่าแม่ให้เขาซื้อของได้หนึ่งอย่างจึงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาทำตัวเป็นเด็กดีเดินตามแม่อย่างไม่อิดออด
หวางเหมิงเหมิงยิ้มบาง ๆ ให้ลูกชาย พลางเดินเข้าไปข้างในตลาด มือด้านซ้ายจับมือลูกชายเอาไว้ ส่วนด้านขวาสะพายกระเป๋าผ้าและมีกระดาษขาวในมือ เพราะหวางเหมิงเหมิงเรียนหนังสือมาก่อน ถ้าไม่ติดว่าต้องดูแลลูกเธอคงไปหางานทำแล้ว
และต้องบอกว่าหวางเหมิงเหมิงคิดมาอย่างดีแล้วที่ไม่ให้แม่สามีดูแลลูกชายให้ ดูได้จากหลานชายอีกคนที่เอาแต่ใจเป็นอย่างมาก และคงถูกโขลกสับยิ่งกว่าตอนนี้แน่ ๆ
"เถ้าแก่ฉิง ฉันเอาข้าว 10 ชั่ง ช่วยตักแยกเป็นถุงละชั่งให้ด้วยนะคะ" เป้าหมายแรกของวันนี้คือร้านขายข้าว และเอ่ยเรียกเถ้าแก่ตรงหน้าตามความทรงจำของร่างเดิม
เถ้าแก่ฉิงมองลูกค้าอย่างแปลกใจ "ปกติซื้อเดือนละ 5 ชั่งเอง และเพิ่งซื้อไปสัปดาห์ที่แล้ว หมดแล้วหรือ!"
ในอำเภอมีร้านขายข้าวสารร้านเดียวแต่จริง ๆ ในแต่ละหมู่บ้านและแต่ในตำบลจะมีร้านขายข้าวอยู่ หรือที่คนอื่นเขาเรียกว่าสหกรณ์ ในตำบลถ้าไปซื้อมันไกลกว่าเดินมาในอำเภออีกทั้งยังมีราคาแพงกว่าสองเฟิน
