ส่งอาหารมื้อกลางวันหรือใจตรงกันไม่น้อย 1
กำหนดวันมงคลจะถูกจัดขึ้นอีกสองเดือนข้างหน้า หลังได้นำวันเดือนปีเกิดของทางว่าที่เจ้าบ่าวและว่าที่เจ้าสาวไปให้ผู้ที่นับถือได้ดูชะตา จริง ๆ มีวันที่สามารถจัดงานได้อีกห้าวันที่จะถึงแต่กระทันหันเกินไป และหลังสองเดือนนี้ก็จัดงานได้อีกทีเป็นปี สองเดือนข้างหน้าถึงเป็นวันที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
เจียงเยว่ผิงไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร เธอคือนักแสดงชั้นนำไหน ๆ ได้มาที่นี่พร้อมมีสามีแล้วจะลองให้มันเป็นไปตามสถานการณ์ก็แล้วกัน เพราะที่จริงคนที่แต่งงานคือนางเอกไม่ใช่นางร้ายอย่างเธอ ไม่รู้ว่าหยางเทียนอีปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้เขาจะสามารถดูแลหลานสาวของเธอให้ดีได้ไหม
อย่างที่ทุกคนรู้ว่าต่อให้เป็นคนโปรดมากแค่ไหน หากสมมุติวันหนึ่งไป๋เสวี่ยหรานได้แต่งงานกับหยางเทียนอีแล้วอีกฝ่ายคลอดลูกชายออกพร้อมกับละเลยหยางซือถงบ้านเจียงก็ไม่อาจเข้าไปยุ่งได้
ต่อให้หยางซือถงเป็นหลานรัก แต่ก็เป็นผู้หญิงจะสู้ผู้ชายที่เป็นทายาทได้อย่างไร เจียงเยว่ผิงเชื่อว่าอีกไม่ช้าต่อให้ไม่ได้แต่งเธอเข้าบ้านก็ต้องหาผู้หญิงมาให้หยางเทียนอีอยู่ดี
จริงอยู่ที่ว่าเป็นบ้านยายแต่ว่าคนที่มีสิทธิ์ในตัวหยางซือถิงคือหยางเทียนอี และบ้านหยางคงไม่ยอมส่งตัวหยางซือถงให้บ้านยายแน่ ๆ แต่ที่กล่าวมามันก็คือสิ่งที่เธอคิดเท่านั่น ยังไม่เห็นว่าทั้งสองจะมีความเคลื่อนไหวอะไร
"เยว่ผิงไม่ต้องทำ ๆ แม่จะทำเองลูกไปนั่งรอข้างนอก ไม่สิไปเปลี่ยนชุดสวย ๆ ดีกว่า" โจวอันเข้ามาแย่งตะหลิวจากมือของลูกสาว
"แต่งตัวสวย ๆ ไปหาพี่เทียนอีดีกว่า"
ไม่รู้ว่าแม่ของเธอนึกครึ้มอะไรถึงได้บอกว่าจะทำอาหาร และให้เธอนำไปส่งให้หยางเทียนอีที่สถานีตำรวจ บ้านเจียงมีโจวอันเป็นคนทำอาหาร ส่วนเจียงเยว่ผิงร่างเดิมทำอาหารไม่เป็น ส่วนคนใหม่นั้นช่วยได้แต่ถ้าให้ปรุงก็มีรสชาติแย่
เจียงเยว่ผิงส่ายหน้าเอ่ยตอบ
"ฉันจะให้แม่ทำคนเดียวได้อย่างไรค่ะ"
เจียงเยว่ผิงคนนี้คุณสมบัติช่างเหมาะกับคำว่านางร้ายสุด ๆ เอาแต่ใจ ไม่ทำงาน มีคนตามใจ และสุดท้ายก็คือทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ถึงแม้แต่ก่อนตอนเป็นนักแสดงเธอทำอาหารไม่เป็นแต่ว่าก็หาเงินได้
ถึงจะบอกเช่นนั้น แต่สุดท้ายเจียงเยว่ผิงก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดใหม่ที่เรียบร้อย เพราะทนความรบเร้าไม่ไหว และไม่ต้องห่วงว่าจะไปไม่ถึงสถานีตำรวจแม่ของเธอไปตามคนขับรถของบ้านหยางมาแล้ว
คนขับรถบ้านหยางเป็นคนคุ้นเคยกับบ้านเจียงเป็นอย่างดี แต่ก่อนเวลาที่เจียงเยว่ผิงต้องการไปไหนจะเรียกใช้เสมอด้วยการที่พาหลานสาวไปด้วย นับว่าในจุดนี้ยังฉลาดอยู่บ้าง เธอให้คนขับรถมาส่งที่สถานีตำรวจพร้อมปิ่นโตที่แม่ของเธอจัดแจงให้นำมาส่งว่าที่สามี
"สวัสดีค่ะฉันเจียงเยว่ผิงมาขอพบหยางเทียนอี" ด้วยเพราะจำตำแหน่งงานของเขาไม่ได้เธอจึงเรียกชื่อเต็มแทน
อีกฝ่ายรู้จักเจียงเยว่ผิงดี เพราะเป็นลูกน้องสังกัดของเจียงฮวนพูดด้วยความกระอักกระอวนและเหลือบมองปิ่นโตอย่างหวั่น ๆ
"เอ่อ...หัวหน้าเขามีแขกอยู่ถ้าจะเจอต้องรออีกสักพักครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
เจียงเยว่ผิงมองหาที่นั่ง เธอรู้ว่าห้องไหนเป็นห้องทำงานของหยางเทียนอีก็มานั่งรอหน้าห้องที่มีเก้าอี้รับรอง ได้ยินนายตำรวจกระซิบกระซาบกันแต่ก็ไม่ได้สนใจ
'น้องสาวของพันตำรวจเอกเจียงมาทำอะไรที่นี่หรือ'
'ไม่รู้'
'แต่ว่าเธอมาหาพันตำรวจหยางนะ! พวกเราควรเข้าไปแจ้งหรือไม่ ดูเหมือนว่าเธอนำปิ่นโตมาให้หัวหน้าด้วยแหละ' คนที่มาใหม่ถามด้วยความร้อนใจ
'ไม่ล่ะ'
‘ใช่ ตอนนี้พันตำรวจเอกหยางมีแขกอยู่พวกเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกัน'
'แต่ข้างในเป็นผู้หญิงนะ'
พอเห็นว่าเจียงเยว่ผิงเหลือบมองนายตำรวจที่จับกลุ่มก็ต่างยิ้มแห้งและแยกย้ายกันไป บทสนทนาเธอได้ยินทั้งหมดไม่ว่าอีกฝ่ายคุยธุระกับใคร เธอมีหน้าที่นำอาหารมาส่งก็เท่านั้น
เวลาผ่านไปสามสิบนาที คนด้านในมีความเคลื่อนไหวประตูจะถูกเปิดออก เป็นไป๋เสวี่ยหรานแม่นางเอกที่เดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีพร้อมปิ่นโต และข้างหลังมีหยางเทียนอีเดินตามออกมา เมื่อทั้งสองเห็นเจียงเยว่ผิงที่นั่งพิงเก้าอี้กลับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
