ส่งอาหารมื้อกลางวันหรือใจตรงกันไม่น้อย 2
เจียงเยว่ผิงที่ตอนแรกกำลังจับปิ่นโตเพื่อเดินเข้าไปข้างใน เธอวางมันลงที่เดิมและลุกขึ้นยืนมองทั้งสองคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่งด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ถ้ารู้ว่าคนด้านในเป็นอีกฝ่ายคงไม่รอ แล้วนึกว่าเป็นคนสำคัญที่ไหนได้กลับเป็นผู้หญิง
นายตำรวจที่นั่งอยู่ข้างหน้ายิ้มแห้งเดินถูมือเข้ามาหา
"พันตำรวจเอกหยางออกมาพอดีเลยครับ น้องสาวภรรยาของหัวหน้ามารอนานแล้ว"
อีกฝ่ายชะงักมองเจียงเยว่ผิงและทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย เป็นไป๋เสวี่ยหรานที่เห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่นานจึงขอตัว
"ฉันบอกพี่เทียนอีไปหมดแล้วนะคะ ลองเก็บไปคิดดูค่ะยังมีเวลาฉันรอได้ไม่ว่าจะนานแค่ไหน" และหันมามองเจียงเยว่ผิงก่อนจากไปพร้อมปิ่นโต
ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อเขาคงกินข้าวกับผู้หญิงของเขาแล้ว เจียงเยว่ผิงหยิบปิ่นโตก่อนหมุนตัวจะกลับ แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรถึงได้เรียกตัวเธอเอาไว้
"มาส่งอาหารไม่ใช่เหรอเข้ามาก่อนสิยังไม่ได้กินอะไรเลย"
เจียงเยว่ผิงไม่ได้ตอบโต้แต่เธอยอมเดินเข้าไปภายในห้อง เห็นเอกสารที่ค้างอยู่บนโต๊ะคงทำงานยังไม่เสร็จ เธอวางปิ่นโตลงให้เขาก่อนหาที่นั่ง และนั่งไขว่ห้างกอดอกมองหยางเทียนอีกินข้าวมื้อกลางวันด้วยสายตาเรียบเฉย
"มีของเจียงฮวนด้วย?"
"ใช่"
ถึงแม้ว่าโจวอันต้องการให้ลูกสาวนำอาหารมาเอาใจว่าที่ลูกเขย แต่ก็ไม่ได้ลืมว่าลูกชายคนโตทำงานที่นี่ ทั้งคู่เป็นสหายสนิทกันไม่จำเป็นต้องทำแยก หยางเทียนอีพยักหน้าและเดินออกจากห้องไปไม่นานกลับเขามาพร้อมพี่ชายของเธอ
"ทำไมวันนี้เธอถึงมาอยู่ที่สถานีได้ ไม่ใช่แม่บอกว่าจะพาไปตัดชุดหรือ" เจียงฮวนถามอย่างแปลกใจ
"แม่ให้ฉันเข้ามาที่นี่ก่อนค่ะ"
"อืม"เขาพยักหน้าเล็กน้อยและถามสหายต่อ
"คุณครูไป๋มาอีกแล้ว"
"ใช่"
"ระวังหน่อย"
เจียงฮวนรู้จักผู้หญิงคนนี้เธอเป็นครูอนุบาลของหลานสาว และเคยเจอกันอยู่บ่อยครั้ง ถึงจะได้ยินว่าช่วงนี้สหายของเขาสานสัมพันธ์ด้วย แต่ก็ก่อนที่จะตกลงแต่งงานกับน้องสาว ถึงเขาจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานแต่อย่างไรนี่ก็น้องสาวของเขา
ที่ผ่านมาไป๋เสวี่ยหรานไม่เคยปรากฏตัวที่สถานีตำรวจสักครั้งและเจียงฮวนไม่เคยถาม หลังกำหนดแต่งงานออกเขาก็ได้ยินว่าหลายวันมานี้อีกฝ่ายมักจะมาที่สถานีตำรวจในเวลาพักกลางวัน
"ฉันรู้"
ถึงแม้ว่าจะทำเหมือนไม่ได้ฟัง แต่เจียงเยว่ผิงพยายามที่จะฟังคำพูดของทั้งสองคน พี่ชายของเธอที่เห็นว่าไม่สนใจน้องสาวผู้นี้แต่จริง ๆ ก็สนใจไม่น้อย
"อีกไม่นานทุกคนจะได้รู้ว่านายต้องแต่งงานแล้ว ถ้าอีกฝ่ายยังมาหาเห็นทีว่าคงเข้าใจผิดแต่งงานกับเธอแน่ ๆ และนั่นจะทำให้เกิดเรื่อง" เดิมทีเขาเคยสนับสนุนให้สหายของเขาให้หาภรรยาใหม่ เขาเคยสนับสนุนผู้หญิงคนนี้ แต่พอเกิดเรื่องกับน้องสาวก็ไม่ได้สนับสนุนใครอีก
"อืม"
หยางเทียนอีพยักหน้ารับตอบรับคำพูดสหาย ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่เด็กที่จะไม่รู้ว่าชื่อเสียงของหญิงสาวสำคัญแค่ไหน ดวงตาคู่คมหันไปมองว่าที่ภรรยาอย่างเงียบๆ ภายในใจครุ่นคิดบางอย่าง ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือไม่ว่าตั้งแต่คืนนั้นดูเหมือนเธอจะเย็นชามากขึ้น
เจียงเยว่ผิงนั่งรอจนทั้งสองกินข้าวมื้อกลางวันเสร็จก็ขอตัวกลับทันที เมื่อกลับมาถึงบ้านเจียงเยว่ผิงก็นำปิ่นโตไปล้างนี่ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกลับร้องไห้เพราะคิดว่าลูกสาวป่วย ทำเอาเธอถึงกับเหนื่อยใจ
เจียงเยว่ผิงถูกเลี้ยงมาเป็นคุณหนูผู้หนึ่ง ทำอะไรก็ไม่เป็นถ้าแต่งงานกับครอบครัวมีฐานะไม่ต่างอะไรกับรูปปั้นที่พาออกหน้าได้เท่านั้น ส่วนเรื่องหลังบ้านเห็นทีว่าต้องทำเองแล้วและคนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้ไม่มีใครมาทาบทามเธอ เพราะกลัวว่าจะได้สะใภ้ที่ทำอะไรไม่เป็นอย่างนี้ แต่จะทำอย่างไรได้ก็ในเมื่อร่างนี้ถูกตามใจจนเสียคนแบบนี้
