กลายเป็นสะใภ้ปากร้าย 1
“เรียกฉันเหรอคะ?”
สะใภ้ใหญ่ที่ร้องไห้ฟูมฟายฟ้องแม่สามีเมื่อครู่สะอึก หล่อนรีบขยับเข้าไปซ่อนด้านหลังเพื่อไม่ให้เห็นหน้าสะใภ้สาม รอยมือของเฉินซือหยู่เด่นเต็มหน้าหล่อนอย่างชัดเจน
“มาก็ดี! ไร้ประโยชน์แถมยังทุบตีพี่สะใภ้ ลูกชาย
ของฉันมาฉันจะให้หย่า!”
เดิมทีนางหลี่ซินหรานไม่ได้ชอบลูกสะใภ้ผู้นี้มากนัก แต่ที่แต่งให้ลูกชายเพราะค่าสินสอดเพียงร้อยหยวนทำให้เธอหน้ามืดไปชั่วขณะถึงได้แต่งสะใภ้ไร้ประโยชน์เข้าบ้านมา
“ฮ่า ๆ ฉันทุบตีพี่สะใภ้? ทำไมเวลาพี่สะใภ้ทุบตีฉันแม่สามีไม่ให้หย่าบางล่ะ” รอยยิ้มที่มีหายไปและตอนนี้
เฉินซือหยู่รู้สึกว่าเธอไม่สามารถเข้ากับแม่สามีได้จริง ๆ
คนเริ่มก่อนเป็นเธอหรือย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว แต่กลับ
ถูกแม่สามีด่าทอ พอสะใภ้ใหญ่ทุบตีเธอบ้างกลับบอกเพราะอีกฝ่ายคือสะใภ้ใหญ่ ที่ในอนาคตหากแม่สามีเสียไป
ก็จะเป็นเหมือนแม่อีกคนของสามี
“พี่สะใภ้สั่งสอนนับว่าเป็นบุญคุณแล้ว”
หลี่ซินหรานรีบตอบกลับทันที หล่อนมองสะใภ้สามอย่างไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สะใภ้คนนี้ปีกกล้าขาแข็งขึ้นมา ใครทำให้หล่อนมีความกล้ามากขนาดนี้
เฉินซือหยู่หัวเราะบุญคุณ? บุญคุณแบบไหนหรือแบบที่ข่มเหงน้องสะใภ้ใช่หรือไม่ แต่ก็เอาเถอะตอนนี้ใกล้
ถึงเวลาอาหารเช้าแล้วหากนำไข่ไก่กลับมาไม่ทันมันจะ
ยุ่งเอา
“ถ้าอย่างนั้นที่สะใภ้สี่ทุบตีสะใภ้รองก็เป็นบุญคุณ? ฉันได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ” สีหน้าตะลึงของแม่สามีไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเฉินซืออยู่ เธอจัดการถือตะกร้าเดินออกจากห้องโถงให้พวกเขาจัดการกันเอาเอง ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้วอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงทุกคนน่าจะกลับมากินอาหารมื้อเช้า
เฉินซือหยู่ต้องเดินเท้าเกือบสามสิบนาทีกว่าจะถึงสหกรณ์ทำเอาแทบแย่ จัดการแลกเปลี่ยนของที่เคยนำกลับบ้านก็รีบกลับทันที ท้องของเธอยังไม่มีอะไรให้ตกถึงท้อง
แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าเช้านี้พวกเขาจะมีอาหารให้ในส่วนของเธอ เมื่อมาอยู่ในยุค1978แบบนี้มีแต่เธอเท่านั้นที่จะช่วยเหลือตัวเองได้
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเฉินซือหยู่ไม่ช่วยคนอื่นทำงาน
แม้แต้น้อย ยกเว้นส่วนไหนที่เป็นงานที่ได้รับมอบหมาย
จริง ๆ ทำให้มีการแยกส่วนงานที่ต้องทำของทุกคน และการแยกทำอาหาร เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้วัตถุดิบที่มีในบ้านทำอาหารกิน โชคดีที่เธอพอจะมีเงินอยู่ถึงได้ซื้อข้าวมาไว้ที่ห้อง ก่อนจะออกไปหาของป่ามากินนอกจากที่ต้องซื้อข้าวเธอไม่ต้องเสียอะไรอีก หลายวันมานี้ที่เข้าป่าไปอย่างน้อยเฉินซือหยู่จะได้ของกินติดมือกลับมาด้วย แน่นอนว่าไม่ได้แบ่งให้บ้านอื่นด้วย พวกเขามีสมาชิกหลายคนทำไมถึงไม่ยอมไปช่วยกันหา ในขณะที่เธอเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียว
แต่ต้องเข้าป่าหาอาหารเพื่อความอยู่รอด ตั้งแต่ที่เธอไม่ได้ช่วยงานคนอื่นพวกเขาก็ไม่เคยแบ่งอาหารให้เธอเลยแม้จะทำงานส่วนของตัวเองแล้วก็ตาม
บางวันเฉินซือหยู่ได้ปลากลับมาด้วย หลานชายอีกสองบ้านออกมานั่งเฝ้าเพื่อขอกินด้วย แต่คนที่ได้กินจริง ๆ ไม่ใช่เด็กพวกนั้นแต่เป็นหลานสาวจากบ้านรองอย่าง
จางซวี่หรู เพราะหล่อนเป็นเด็กที่น่าสงสารมากเพราะเกิดมาเป็นผู้หญิงที่ยุคสมัยนี้ให้ความสำคัญกับเด็กผู้ชายเธอ
จึงถูกละเลยและถูกรังแกอยู่บ่อยครั้ง
“ซวี่หรูจ๊ะไปเปลี่ยนชุดเหมือนที่เคยไปกับอาสะใภ้”
เฉินซือหยู่กระซิบบอกหลานสาวเสียงเบา แม่สามีของเธอชอบลงมือกับหลานสาวคนนี้บอกว่าเกิดเป็นผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ ทั้งที่หลานสาวอีกคนยังเลี้ยงต่างกันอย่างสิ้นเชิง จางซวี่หรูเป็นเด็กสาวที่น่าสงสารเธอจึงใส่ใจเป็นพิเศษ
“ได้ค่ะอาสะใภ้สาม” เด็กสาวตอบรับอย่างร่าเริง ดวงตาทอประกายสดใสคงมีเวลาที่อยู่กับอาสะใภ้สามเท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกมีความสุข
