ตอนที่3 Part อดีต...เอามาให้เองสิ
“เอาหน้าเหี้ยไร ก็แค่ช่วยพี่เค้าเฉยๆ แม้แต่ชื่อกูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ” ผมส่ายหน้าตอบอย่างเอือมระอาความคิดของเพื่อน
“คนที่มึงช่วยเมื่อกี้อะ ชื่อพี่อิงฟ้า ส่วนคนที่หน้าตาออกหมวยๆหน่อยนั่นน่ะ ชื่อพี่กิ๊ฟ แล้วก็คนที่หน้าออกไปทางลูกครึ่งๆอะ ชื่อพี่โบวี่แต่ก็มักจะเรียกสั้นๆว่าโบว์ แล้วผู้ชายคนเดียวในกลุ่มอะ พี่พอลหรือพอลลี่ อีกคนคงไม่ต้องบอก มึงก็คงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว”
เป็นไอ้กันต์ที่พูดแนะนำชื่อของแต่ละคนให้ได้รู้จัก ที่มันรู้ชื่อของทุกคนก็คงไม่แปลก เพราะมันมาเรียนที่นี่ตั้งแต่ม.1 ทำให้รู้จักทุกคนเป็นอย่างดี ส่วนผมกับไอ้หนึ่งเพิ่งจะย้ายมาต่อ ม.4 ที่นี่ด้วยกัน
แต่เราทั้งสามคนก็ยังสนิทกันดี เพราะรู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เรียนอนุบาล เพิ่งจะมาแยกกันตอน ม.1 พอจบ ม.3 พวกผมก็ย้ายตามมันมาเรียนที่นี่
“อือ...รู้ดีไปหมดทุกเรื่องจริงๆ” ผมพยักหน้าเข้าใจพร้อมชมมันขึ้นมาบ้าง
“แน่นอนอยู่แล้วครับเพื่อน” มันตอบพลางยักไหล่กวน ๆ
“น่ารักใช่ไหมล่ะ พี่อิงฟ้าน่ะ สนใจอยากจีบป่าวเดี๋ยวกูจัดให้...เอาป่าวๆ”
ไอ้กันต์มันยิ้มล้อ พร้อมยักคิ้วถามผม เพราะมันรู้ดีว่าผมยังไม่เคยชอบหรือจีบใครมาก่อน เลยเสนอตัว คงอยากจะเป็นพ่อสื่อ
“ไม่ต้อง…จีบบ้าบอไรล่ะ ทำไมกูต้องอยากจีบพี่เค้าด้วย ไม่ใช่สเป็ก”
ผมตอบออกไปแต่ปลายคำพูดเสียงเบาแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ พร้อมหันหน้าหนีไปมองทางอื่น
ถึงพี่เขา เธอจะน่ารักมากก็เถอะ แต่ก็ขี้อายดูนุ่มนิ่มไปหน่อย คงไม่เข้ากับคนอย่างผมหรอก แค่ช่วยหลบรถเอง ทำไมต้องคิดว่าผมอยากจีบด้วย ไม่ได้ชอบสักหน่อย…มั้ง
“กูก็แค่ถามดูเฉยๆ เห็นมองพี่เค้าอยู่เป็นนานสองนาน”
มันว่าแล้วตบไหล่ผมสองสามที ก่อนจะพากันแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
.
.
ช่วงเที่ยงของวันถัดมา
ผมนั่งกินข้าวกับไอ้กันต์ และไอ้หนึ่ง สักพักก็มีกลุ่มผู้หญิงสามคนมาขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย พวกเธอเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน เคยเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.1 ที่โรงเรียนเก่า
เพราะโต๊ะในโรงอาหารวันนี้เต็มแทบทุกโต๊ะเลย พวกผมไม่ค่อยซีเรียสอะไรอยู่แล้ว จึงให้พวกเธอนั่งด้วยกัน
ระหว่างนั่งกินข้าวก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งพี่แป้งหอมเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะพวกผม ทั้งโต๊ะจึงเงียบแล้วหันไปมอง
“ดิน อะนี่...เพื่อนพี่คนที่ดินช่วยไว้เมื่อวานอะ ฝากมาให้ เป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิตไว้น่ะ”
พี่แป้งยื่นแก้วน้ำแดงมาให้ พร้อมบอกว่าใครฝากมา แล้วพยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะที่อยู่ถัดจากพวกผมไปสองโต๊ะ
“พี่คนที่ชื่ออิงฟ้าน่ะหรอครับ”
ผมถามพร้อมหันไปมองตามที่พี่แป้งบอก จึงได้เห็นว่าพี่อิงฟ้าก็กำลังมองมาทางนี้อยู่เช่นกัน พอเธอเห็นผมหันไปมอง ก็รีบหันหนี ก้มหน้าลงหลบสายตาผมทันที
“หึ...ขอบคุณครับ” ผมค้อมหัวรับ
“แต่ฝากบอกพี่คนสวยหน่อยนะครับว่า ถ้าอยากขอบคุณจริงๆ…เอามาให้เองน่าจะดีกว่านี้”
ผมบอกออกไปพร้อมอมยิ้ม ‘หึ หลบสายตาเก่งนักใช่ไหม ดูซิจะทำยังไงต่อ’ ผมได้แต่คิดสนุก อยากจะแกล้งเธอขึ้นมาแล้วสิ
“ได้สิ เดี๋ยวพี่จะบอกให้”
พี่แป้งยิ้มกริ่มเหมือนมีเรื่องสนุกให้ไปแกล้งคนยังไงอย่างนั้น ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะกลุ่มพวกเธอ แล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างพี่อิงฟ้า โน้มตัวไปกระซิบข้างหู สักพักเธอก็หันมามองทางผมแวบหนึ่งแล้วหันไปคุยกับเพื่อนตรงข้าม ทำหน้านิ่ง ๆ เหมือนไม่ได้สนใจอะไร
“หึ ดูออกเลย ว่าพี่อิงฟ้าเค้าไม่ได้อยากจะคุยกับมึง”
ไอ้หนึ่งที่นั่งข้าง ๆ ผมพูดขึ้นพร้อมกับเอาไหล่มาชนไหล่ผมเบาๆ
“แต่เอ้! ไหนมึงบอกไม่ได้ชอบพี่เค้า ไหงอยากให้พี่เค้าเอาน้ำมาให้เองล่ะ ย้อนแย้งนะมึง” ไอ้กันต์ถามต่อ หรี่ตามองจับพิรุธผม
“ก็กูช่วยเค้าไว้ ถ้าเค้าจริงใจจริงๆ ก็ควรเอามาให้เองไหมวะ”
ผมตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก ก่อนจะตักข้าวเข้าปาก ทำตัวปกติไม่ได้เผยพิรุธใดๆออกไป อันที่จริงพี่อิงฟ้าก็น่ารักดีแหละ แถมตัวก็หอม ผิวก็นุ่มนิ่มราวกับผิวเด็ก เมื่อคืนผมน่ะ นอนนึกถึงแต่กลิ่นตัวหอมๆของพี่เค้าแทบทั้งคืนเลย
หลังเลิกเรียนวันเดียวกัน
ผมนั่งรอไอ้กันต์กับไอ้หนึ่งเล่นบาสที่โต๊ะหินอ่อนข้างโรงยิม วันนี้ผมรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากออกแรง เลยมานั่งเล่นเกมส์เพื่อฆ่าเวลารอพวกมัน จริงๆหลังเลิกเรียนแม่ก็อยากให้ผมเรียนพิเศษเพิ่มนะ แต่ผมขี้เกียจเลยยังไม่ได้ไปสมัคร
“น้องคะ”
ผมนั้งเล่นเกมส์ไปได้ซักพักราวๆสิบนาทีได้มั้ง ก็ได้ยินเสียงหวานดังขึ้นที่ข้างโต๊ะ ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง...ก็เห็นเป็นพี่อิงฟ้ายืนอยู่ ในมือเธอถือแก้วชานมไข่มุขเจ้าดังหน้าโรงเรียนสองแก้ว
“ครับ?”
ผมเลิกคิ้วตอบรับ ก่อนจะยืนขึ้นแล้วขยับตัวเดินออกจากโต๊ะเล็กน้อย เพื่อไปยืนข้างหน้าเธอ แต่เหมือนจะใกล้เกินไปหรือเปล่านะ ในความคิดเธอ
พี่อิงฟ้ารีบขยับตัวถอยห่างจากผมไปหนึ่งก้าว แล้วยื่นแก้วชานมไข่มุขมาให้ผม บางทีผมก็คิดนะว่าเธอดูจะระวังตัวเกินไปหรือเปล่า หรือว่าผมตัวเหม็นวะ...ก็ไม่น่านะ
“เราเอาชานมไข่มุขมาให้น่ะ ที่น้องฝากแป้งหอมไปบอกเมื่อตอนกลางวัน แต่เราไม่รู้ว่าน้องชอบแบบไหน เลยซื้อแบบปกติมาให้”
“....” ผมได้แต่นิ่งคิด
ผมบอกไปแบบนั้นหรอ จำได้ว่าไม่เคยบอกนะว่าชอบชานมไข่มุข สงสัยเธอคงโดนพี่แป้งแกล้งเข้าให้แล้วล่ะ ผมได้แต่คิดอมยิ้มในใจ แต่ผมจะตามน้ำไปก่อนก็แล้วกัน
“อ่อ…ชอบครับ…”
“ผมชอบแบบปกติ แบบนี้ พอดีเลย”
ผมเว้นจังหวะ เน้นคำว่าชอบ พร้อมกับอมยิ้ม แล้วยื่นมือไปรับแก้ว ตอนที่หยิบแก้ว ปลายนิ้วผมสัมผัสกับนิ้วเธอเล็กน้อย เธอเม้มปากแน่นตอนมือเราแตะกัน ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ผมยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็รีบพูดขึ้นซะก่อน
“เอ่อออ...งั้นเราไปก่อนนะคะ”
ว่าจบเธอก็เดินหันหลังจากไปเลย แต่เหมือนจะเดินเร็วมากเลยนะนั่น ผมล่ะกลัวว่าเธอจะสะดุดขาตัวเองหกล้มไปซะก่อน ‘คงเขินผมสินะ’ ผมได้แต่คิดเข้าข้างตัวเอง
