ตอนที่2 Partอดีต…จุดเริ่มต้น
(3 มิ.ย. 20XX - 7 ปีที่แล้ว)
Dandin Jirayu talk…
หลังจากหมดคาบพละเป็นคาบสุดท้ายของวัน ผม ไอ้กันต์ ไอ้หนึ่ง ก็พากันมานั่งพักที่โต๊ะม้าหินอ่อนข้างๆสนามฟุตบอล เพื่อนั้งพักให้หายเหนื่อย
“ร้อนชิบหาย ไปซื้อน้ำแดกแป๊ป เดี๋ยวมา” ผมบอกเพื่อน
“เออ กูฝากด้วย/กูเอาด้วย” ไอ้กันต์และไอ้หนึ่งพูดขึ้นพร้อมกันพลางนั่งหอบเหนื่อย
“เออๆ ฝากกระเป๋าไว้ด้วยแล้วกัน” ผมบอกไว้เท่านั้นแล้วหันหลังเดินออกมา
มุ่งหน้าไปที่มินิมาร์ทของโรงเรียน แต่ในขณะที่เดินผ่านหน้าตึก วิทยาศาสตร์ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง กำลังเดินลงมาจากตึกพอดี พวกเธอมีกันห้าคน....
‘คนแรก (กิ๊ฟ) ก็ถือว่าสวยอยู่ ผิวขาวจัด มัดรวบผมหางม้าปล่อยปอยผมข้างหน้าลงมานิดหน่อย หน้าออกหมวยๆหน่อย ตัวเล็กๆส่วนสูงน่าจะไม่เกิน160’
‘คนที่สอง (โบว์วี่) ใบหน้าสวยเฉี่ยวออกไปทางลูกครึ่ง เธอรวบผมเช่นกันแต่ปล่อยหน้าม้าปัดข้าง ผิวขาวจัด หุ่นดี และสูงประมาณ 170’
‘คนที่สาม (อิงฟ้า) เดินอยู่ตรงกลาง แม้จะไม่ได้สวยเปรี้ยวสะดุดตาในทันที แต่เธอน่ารักมาก ถักเปียสองข้างแล้วปล่อยหน้าม้าบางๆ รับกับใบหน้ารูปไข่ มีแก้มน่าหยิก มองนานๆ ก็ยิ่งมีเสน่ห์ ผิวของเธอไม่ได้ขาวเท่าสองคนแรก แต่ก็ขาวอมชมพู ดูตัวเล็กน่ารัก สูงประมาณ 165’
‘คนที่สี่ (แป้งหอม) พี่สาวข้างบ้านผมเอง เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่สนิทกัน พี่แป้งน่าจะสูงพอๆ กับกิ๊ฟ นิสัยของเธอค่อนข้างห้าวๆ สวยสดใส แต่ปากค่อนข้างร้าย โดยเฉพาะกับพี่ชายผม เจอกันทีไรเป็นต้องทะเลาะกันทุกที’
‘ส่วนคนสุดท้าย (พอลลี่) ไม่ต้องบอกก็ดูออกว่าเป็นสาวสองแน่นอน ถึงจะหน้าตาหล่อเหลาแต่ก็ออกสาวแบบชัดเจน หน้าขาว ปากแดงแบบจัดเต็มมาก’
ขณะที่ผมกำลังเดินผ่านหน้าพวกเธอ พี่แป้งหอมก็ทักผมขึ้น
“อ้าว! ดิน…ไปซ้อมฟุตบอลมาหรอ เหงื่อท่วมตัวเชียว”
“ครับ แล้วนี่กำลังจะกลับบ้านกันหรอ”
ผมพยักหน้าพร้อมถามกลับ แต่สายตาของผมกลับเลยไปจดจ้องอยู่ที่อีกคน ที่ถักผมเปียสองข้างอย่างไม่ละสายตา พอเธอเห็นผมมองอยู่ เธอก็ยิ้มกลับมาให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนอีกคนต่อ
“อื้อ ใช่...แต่ก็ว่าจะแวะกินไอติมกันที่หน้าโรงเรียนก่อนกลับอะ ร้อนชะมัดเลยวันนี้ ต้องหาไรเย็นๆมากระแทกปากซะหน่อย...งั้นพี่ไปก่อนนะเพื่อนรอกันแล้ว” พี่แป้งบอกพร้อมกับโบกมือเป็นการลา
“ครับ” ผมพยักหน้าและยืนมองพวกเธอเดินจากไป แต่ชั่วขณะหนึ่ง พี่สาวผมเปียก็หันกลับมามองผม เราสบสายตากันครู่นึงก่อนที่เธอจะหันกลับไปตามเดิม
ผมได้แต่ยืนอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่แน่ใจว่าเพราะอากาศร้อนหรืออะไรกันแน่ แต่ก็ต้องสบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา แล้วเดินไปซื้อน้ำต่อ…
หลังจากซื้อน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็เดินกลับมาที่โต๊ะหินอ่อนที่เพื่อนๆนั่งรอกันอยู่
“โอ้โห! ไอ้ห่าดิน แม่งไปซะนานเลย กูนึกว่ามึงไปเหมาร้านน้ำเค้าซะแล้ว” ไอ้กันต์บ่นอุบให้ผม ตอนมันเห็นผมเดินมา
“บ่นมาก ไม่ต้องแดก” ผมว่าพร้อมกับหย่อนก้นลงนั่ง
“ขอโทษค้าบคุณเพื่อน หิวน้ำจะตายอยู่แล้ว ไม่แดกได้ไง”
มันพูดพร้อมเปิดฝาขวดยกน้ำดื่มจนเกือบจะหมดขวด ดูท่าจะหิวน้ำกันจริงๆ
.
.
หลังจากดื่มน้ำและนั่งพักจนหายเหนื่อย พวกเราก็เก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน เดินไปยังหน้าโรงเรียนเพื่อไปที่โรงจอดรถ พอดีกับกลุ่มสาวๆ ที่คุยกันหน้าตึกวิทย์ก่อนหน้านี้เดินออกมาจากร้านไอติมฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ผมจึงหยุดรอ ว่าจะถามพี่แป้งว่าเธอจะกลับด้วยกันไหม หรือจะรอให้คนขับรถมารับ
ในขณะที่พวกเธอเดินข้ามถนนกันมาแล้ว คนสุดท้ายกำลังใกล้จะถึงริมฟุตบาท ผมก็หันไปเห็นรถมอไซค์ขับคู่กันมาด้วยความเร็ว ไวกว่าความคิดก็เท้าของผมนี่แหละ พุ่งตัวไปอย่างไว งงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน....
.
.
Ingfah Kawintra talk…
“แฮ่ม ยืนเหม่อมองอะไรจ๊ะชะนีน้อย!” พอลลี่กระแอมไอขึ้น
หลังจากเห็นฉันยืนมองไปทางฝั่งตรงข้ามที่มีกลุ่มน้องข้างบ้านของยัยแป้งหอมยืนอยู่อย่างเนิ่นนาน ฉันสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมายิ้มเจื่อนให้พอลลี่
“ปะ เปล่าซะหน่อย ก็เห็นน้องข้างบ้านยัยแป้งมองมาก่อน ฉันแค่สงสัยน่ะ ว่ามองทำไม ก็เลยมองกลับไปก็แค่นั้นเอง หรือว่าน้องเค้าอาจจะรอยัยแป้งอะไรงี้”
ฉันตอบเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่เต็มเสียงนัก พร้อมหยิบยกหาเหตุผลมาตอบเพื่อน พลันหน้าฉันก็ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะอายกับความโป๊ะของตัวเอง เพื่อนทุกคนต่างก็หันมามองฉันเป็นตาเดียวกันหมด พากันหรี่สายตาจ้องหน้าฉันอย่างจับผิดแล้วยิ้มกริ่มส่งมาให้
“จ้า…เชื่อ!” เพื่อนทั้งกลุ่มพูดรับลากเสียงยาวพร้อมกัน ส่วนฉันได้แต่ยิ้มเขินไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“ชอบไอ้เจ้าดินหรอแก ยัยอิง ฉันเห็นนะว่าแกกับดินมองสบตากันตั้งแต่ในโรงเรียนแล้วอะ”
แป้งหอมกระซิบถามฉันเสียงไม่เบานัก แต่ทุกคนก็ได้ยินกันหมด ไม่รู้จะทำท่ากระชิบกระซาบทำไม
“บะ บ้าหรอ พึ่งจะเจอกันเองจะไปชอบได้ไง ไร้สาระน่า” ฉันปฏิเสธน้ำเสียงติดขัด พร้อมหันหน้าหนีไปมองทางอื่น
ระหว่างนั้นเราก็พากันเดินข้ามถนนเพื่อกลับไปฝั่งหน้าโรงเรียน เพื่อนๆฉันพากันเดินนำหน้าไป ส่วนฉันเดินรั้งท้ายสุด ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปถึงริมฟุตบาทหน้าโรงเรียนแล้ว ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว จนฉันมองไม่ทัน
“พี่ครับ ระวังงงง!”
“เห้ยยย ยัยอิง”
“กรี๊ดดด!!”
ฉันได้ยินเสียงใครซักคนร้องเตือนดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของกลุ่มเพื่อนสาวของฉัน
พร้อมกับรู้สึกถึงแรงกระชากดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอดของใครคนหนึ่ง เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันงงไปหมด ได้แต่หลับตาปี๋ ยืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ
ครู่หนึ่งฉันก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มลึกถามขึ้นที่ข้างหู
“เป็นอะไรไหมครับพี่...”
ฉันเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาคมกริบและใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของน้องข้างบ้านยัยแป้งหอมคนนั้น สมองของฉันมึนเบลอไปชั่วขณะ ยืนอยู่ในอ้อมกอดของเขาสบตากันนิ่ง
“พี่ครับ…พี่สาวเจ็บตรงไหนไหมครับ”
ผมมองใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของคนตรงหน้าและถามออกไปอีกครั้ง เมื่อเห็นเธอเอาแต่จ้องมองหน้าผมนิ่ง
รอบนี้เธอน่าจะได้ยินแล้วสินะ เธอกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับผละออกจากอ้อมกอดผม 'คนอะไรวะ ตัวนุ่มนิ่ม แถมผมหอม ตัวหอมชิบหาย ให้ตายสิ! น่ารักเป็นบ้า' ผมได้แต่คิดในใจแล้วก็อมยิ้มออกมาให้กับคนตรงหน้า
“เอ่อ...ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเราไว้
“เราไม่เป็นอะไรค่ะ ไม่ได้เจ็บตรงไหน” เธอตอบกลับ สบตากับผมครู่นึงก่อนจะก้มหน้าลงหลบสายตาจากผม
‘หึ พี่สาวตัวนุ่มนิ่มคนนี้ดูท่าจะขี้อายไม่เบาเลยสินะ’
“ครับ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“....” เธอพยักหน้ารับ
จากนั้นผมจึงเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนตัวเองโดยลืมสิ่งที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรกเลย ว่ายืนรอเพื่ออะไร
“หึ เท่ชิบหายเพื่อนกู วิ่งเข้าไปช่วยสาวแบบไม่คิดชีวิต” หลังจากเดินกลับมาหากลุ่มเพื่อน ไอ้หนึ่งก็พูดแซวขึ้น
“เลือกช่วยสาวสวยซะด้วย ทำคะแนนเอาหน้าปะเนี่ย” ไอ้กันต์นี่ก็อีกคน...แซวกันเข้าไป
“เอาหน้าเหี้ยไร ก็แค่ช่วยพี่เค้าเฉยๆ แม้แต่ชื่อกูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ” ผมส่ายหน้าตอบอย่างเอือมระอาความคิดของเพื่อ
