ตอนที่1 เป็นเธอ…ใช่เธอจริงๆ
Dandin Jirayu talk…
ณ Big AS ผับ
“ไอสัส เป็นเหี้ยไรครับ ถ้ามึงจะมาแล้วมานั่งหน้าเป็นตูด นั่งเงียบเป็นเป่าสากแบบนี้มึงจะมาทำเหี้ยไรวะ”
เสียงไอ้ขุนเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ ดังแทรกเข้ามาในความโสตประสาท ขณะที่ผมนั่งเหม่อลอย มองแก้วเหล้าตรงหน้าด้วยความเบื่อหน่าย
“เออ...จริง มานั่งเงียบแบบนี้แปลกๆนะมึง แค่ไอ้หนึ่งเงียบคนเดียวก็พอมั้ง ไม่ต้องเสือกอยากไปเงียบเป็นเพื่อนมันหรอก”
ไอ้กันต์พูดขึ้นสมทบ แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“ขี้เกียจพูด เบื่อ” ผมตอบสั้นๆ พร้อมกระดกเหล้าในแก้วจนหมด แล้ววางแก้วลงเสียงดัง
“ที่มานั่งหน้าเป็นตูด ไม่พูดไม่จาเนี่ย คิดถึงพี่คนนั้นอีกแล้วดิ” ไอ้หนึ่งถามขึ้น จ้องหน้าผมอย่างรอเอาคำตอบ
ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ความรู้สึกในหัวมันสับสนวุ่นวายจนหาทางออกไม่เจอ และคนที่ไอ้หนึ่งเอ่ยถึงก็คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่ยังอยู่ในใจผมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งไอ้หนึ่งกับไอ้กันต์รู้เรื่องราวในอดีตของผมเป็นอย่างดี มีเพียงไอ้ขุนเขาที่ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะพวกผมเพิ่งจะมาสนิทกับมันตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่รู้จักเธอคนนั้น เพราะเธอเรียนโรงเรียนเดียวกันกับพวกผม เพียงแต่อยู่คนละห้อง ไอ้ขุนเขารู้แค่ว่าผมเคยคบกับเธอ แล้วก็เลิกกันไป โดยที่ไม่ได้รู้ถึงสาเหตุ…
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบ แล้วยกกระดกเหล้าลงคอ จนหมดไปอีกแก้ว ก่อนจะส่งแก้วให้เด็กเสิร์ฟทำหน้าที่ชงเหล้าให้อีกแก้ว
“แต่จะว่าไป นี่มันก็นานแล้วนะที่มึงเลิกกับพี่เค้า ทำไมมึงไม่มูฟออนซักทีวะ”
ไอ้กันต์ยังคงพูดถึงเรื่องนี้ไม่เลิก และเอ่ยถึงเธอ คนที่อยู่ในใจผมมาตลอดเจ็ดปี ไม่เคยลบเลือน
“ทำไมกูต้องมูฟออน ในเมื่อกูไม่เคยเลิกคิดถึงเค้าได้เลย”
ผมตอบขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว เพราะผมไม่ได้อยากมูฟออน และไม่ได้อยากลืมเธอ
“เออๆ แล้วแต่มึงละกัน”
ไอ้กันต์พูดจบก็ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ เอนหลังพิงโซฟา พลางกวาดสายตามองหาผู้หญิงที่จะพาไปด้วยในคืนนี้ล่ะมั้ง แล้วก็ยกแก้วชนกับกลุ่มสาวสวยโต๊ะข้างๆ ทำสายตาแพรวพราวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตามสไตล์ของมัน
ไม่นานนัก คนหน้าหม้ออย่างมันก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างเหมือนเจอของที่ถูกใจเข้าแล้ว
“เห้ยๆแม่ง พวกมึงโต๊ะนั้นงานโคตรดีเลยว่ะ โดยเฉพาะสาวชุดเดรสเกาะอกดำคนนั้นอะ อย่างสวยเลยว่ะ”
“แต่เดี๋ยวนะ...พวกมึงช่วยกูดูหน่อย ว่าแม่สาวชุดดำคนนั้น หน้าคุ้นๆไหมวะ…เหมือนเคยเจอที่ไหน?”
ผมไม่ได้สนใจมัน ยกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดอีกแก้ว แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนดู Stories ในไอจีไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจเพื่อนที่กำลังคุยกันเลยสักนิด จนกระทั่งเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ Stories ของผู้ใช้ที่ชื่อ Panghom_Ja หัวใจผมเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก ผมหยุดดูผู้หญิงที่กำลังเต้นอยู่ในคลิปสั้นๆ นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธออยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีดำเข้ารูป ปล่อยผมตรงยาวสลวย
‘เป็นเธอ! เป็นเธอจริงๆ ใช่ไหม’ ผมถามตัวเองในใจซ้ำๆ
“มึงว่าใช่ ใช่ไหมวะไอ้หนึ่ง ไอ้ขุน”
ผมได้ยินเสียงไอ้กันต์ถามเพื่อน แต่สายตาผมยังคงจดจ้องอยู่ที่หน้าจอมือถือ ใช้นิ้วลูบไล้ใบหน้าเธอเบาๆ แล้วยกเหล้าขึ้นจิบ แต่ทันใดนั้น…
“อืม ใช่…พี่อิงฟ้า” (เป็นหนึ่งและขุนเขาตอบพร้อมกัน)
สิ้นเสียงไอ้หนึ่งกับไอ้ขุน ทำให้ผมชะงักไปทันทีที่ได้ยินชื่อนี้
“พรูดดด แค่กๆ”
อาการสำลักเหล้าเกิดขึ้นทันที ที่ผมยกเหล้าขึ้นจิบไปเมื่อกี้แล่นเข้ามา ผมรีบวางมือถือลง คว้าทิชชูมาซับ แล้วหันไปมองหน้าพวกมัน....
“แค่ได้ยินชื่อพี่อิงฟ้า มึงถึงกับสำลักเลยหรอวะไอ้ดิน” ไอ้ขุนแซวผมพร้อมกับยักคิ้วกวนตีน
“นี่ถ้ามึงเห็นหน้าพี่เค้า มึงไม่ช็อกตายเลยหรอวะ ฮ่าๆๆ”
“....”
ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป ทำเพียงตวัดสายตาคาดโทษมองมันนิ่งๆ ที่กล้าเอาชื่อเธอมาพูดล้อเล่นกัน
ชื่อนี้คือชื่อที่ผมไม่เคยเอ่ยถึงเลยเป็นเวลาหลายปี จนมาวันนี้ พอได้ยินชื่อนี้ก็ทำเอาผมเสียอาการ จนเพื่อนพากันมองออก เลยอดที่จะพูดแซวผมกันไม่ได้
“ไอ้ดิน…หันไปทางเก้านาฬิกา” ไอ้กันต์พูดขึ้นพร้อมพยักพเยิดให้ผมหันตาม
“มีเหี้ยไร...” ผมมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย หันหน้าไปมองมัน แต่มันก็ทำเพียงแค่บุ้ยหน้าให้ผมหันไปมองตามที่มันบอก
ผมจึงค่อยๆหันไปมอง...และเมื่อหันไปตามที่มันบอก ผมก็เห็นกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่โต๊ะที่ไม่ไกลจากพวกผมนัก ประมาณสี่ถึงห้าโต๊ะเห็นจะได้ และหนึ่งในนั้นคือคนที่ผมเพิ่งเห็นในไอจี Stories ของพี่แป้งหอม รุ่นพี่ข้างบ้านที่ผมรู้จัก
เธอคือ “อิงฟ้า” ผมพึมพำออกมาเบาๆราวกับคนเหม่อลอย
ภาพในอดีตอันแสนหวานผุดขึ้นมาในสมองเป็นฉากๆ ฉายซ้ำๆ ราวกับจะตอกย้ำเรื่องราวที่ผ่านมา เธอยังคงติดตรึงอยู่ในจิตใต้สำนึก ผมยังคงคิดถึงและโหยหาเธอมาตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา
ที่ผ่านมาผมแทบจะไม่ได้เจอเธอเลย เจอครั้งล่าสุดก็เมื่อสองปีที่แล้ว ที่ทางม้าลายหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เราเดินสวนกัน ไหล่ของเราเฉียดกันเล็กน้อยเพราะคนเดินข้ามถนนเยอะ
แต่เธอกลับมองผ่านผมไปราวกับผมเป็นอากาศธาตุ ดวงตาของเธอแข็งกระด้าง ไม่มีร่องรอยของความอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด ผมไม่แน่ใจว่าอะไรที่ทำให้ผู้หญิงที่เคยอ่อนหวานน่ารักกลายเป็นคนเย็นชาได้ถึงขนาดนี้ ผมได้แต่รู้สึกจุกอยู่ในอก....
“ถ้าอิงเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ดินจะไม่เปลี่ยนไปใช่ไหม ดินจะมีคนอื่นหรือเปล่า?”
“ไม่มีหรอกครับ ดินจะยังเหมือนเดิม ดินสัญญา”
แต่สุดท้ายผมก็เป็นคนผิดสัญญากับเธอ ในขณะที่ผมกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด เสียงของไอ้กันต์ก็ดังขึ้นเรียกสติผมกลับมา
“พี่อิงฟ้าสวยขึ้น แถมเซ็กซี่ขึ้นมากเลยว่ะ ดูเหมือนไม่ใช่พี่อิงฟ้าคนเดิมเลย”
“จริง” ไอ้ขุนเขาตอบอย่างเห็นด้วย
ผมเงยหน้ามองพวกมันนิ่งๆ แล้วหันไปมองทางอิงฟ้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอหันมาสบตากับผมพอดี ผมยิ้มให้เธอเล็กน้อย แต่เธอไม่แม้แต่จะยิ้มตอบหรือพยักหน้าตอบกลับมาเลยสักนิด…เธอเมินผม ไม่กี่อึดใจเธอก็หันไปคุยกับเพื่อนต่อ ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ผมได้แต่กลืนก้อนสะอึกที่คอลงอย่างยากลำบาก
‘เออ…เจ็บดีว่ะ’
