บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 Part อดีต…ใครมาส่ง

หลังจากเลิกเรียน ฉันก็มายืนรอพี่ชายของฉัน ‘พี่อคิน กิตติภพ สิริวัฒนา อายุ 20 ปี เรียนวิศวะโยธาปี2’ พี่อคินบอกว่าวันนี้หลังเลิกเรียนจะมารับ นี่ก็เลยเวลาเลิกเรียนมาจะยี่สิบนาทีแล้วก็ยังไม่มา เฮ้อ!ฉันล่ะเบื่อกับความไม่ตรงต่อเวลาของเขาจริงๆ

พี่คินเขาเรียนวิศวะที่มหาลัยดังแห่งหนึ่ง ซึ่งทีแรกแม่ฉันอยากให้เขาเรียนหมอ แต่เขาก็ไม่ยอม ขัดใจแม่ไปหมดซะทุกอย่าง ดื้อหัวรั้น ไม่ฟังใคร จนแม่ต้องยอมแพ้เพราะขี้เกียจทะเลาะกัน

ถึงแม้ภายนอกพี่อคินจะดูดุดัน เย็นชา ไม่ยอมคนในสายตาคนอื่น แต่สำหรับฉันแล้ว เขาคือพี่ชายที่อบอุ่นและรักฉันมากที่สุด ยอมอ่อนข้อให้ฉันเสมอ

ซักพักก็มีรถบิ๊กไบค์มาจอดเทียบริมฟุตบาทข้างหน้าฉัน

“ขึ้นรถเลยครับน้องสาว” พี่อคินจอดรถลงมายืนต่อหน้าฉัน ถอดหมวกกันน็อคใบโต พร้อมกับนำมันมาสวมหัวให้ ฉันมองหน้าพี่ชายยิ้มๆ แต่ในขณะเดียวกันสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นแดนดิน เราสบตากันครู่นึง ก่อนฉันจะหันกลับมาแล้วขึ้นรถกลับบ้านพร้อมพี่คิน

วันถัดมา

วันถัดมา ซึ่งเป็นวันศุกร์ หลังเลิกเรียน ฉันก็มาเรียนพิเศษตามปกติ พอเรียนเสร็จก็เปิดประตูออกมา จังหวะนั้น ก็มีประตูห้องข้างๆครอสเรียนของติวเตอร์อีกคนเปิดมาพร้อมกันพอดี

“พี่อิงฟ้า” ฉันหันไปตามเสียงเรียก เป็นเขานั่นเอง “แดนดิน” ที่เรียกฉัน

“คะ?” ฉันขานรับกลับไปแค่นั้น “พี่ก็เรียนที่นี่เหมือนกันหรอ แล้วนี่กำลังจะกลับบ้านหรอครับ” เขาถามฉันพร้อมยิ้มอบอุ่นส่งมาให้

“ออ ค่ะ” ฉันตอบรับเพียงเท่านั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี

“ให้ผมไปส่งไหมครับ” เขาถามกลับมาพร้อมสายตาร้อนแรงที่ชอบมองกันประจำ

“เอ่อ...ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ เรานั้งแท็กซี่กลับเองได้ไม่รบกวนจะดีกว่า” พูดจบก็เตรียมจะหันหลังแต่เขากลับเดินมาดักหน้าไว้

โดยปกติทุกวันจะเป็นแม่หรือไม่ก็พ่อมารับถ้าไม่ติดงานสอนที่มหาลัย

อ้อ!!ฉันลืมบอกไปว่าพ่อฉันเป็นอาจารย์แพทย์สอนนักศึกษาแพทย์น่ะ ส่วนแม่ฉันเป็นอาจารย์สอนมาร์เก็ตติ้ง ที่มหาลัยด้วยกันทั้งคู่เลย

แต่วันนี้ท่านติดสัมมนาที่ต่างจังหวัดเลยไม่ได้มารับน่ะ ฉันเลยต้องกลับรถแท็กซี่เองบ้างเป็นบางครั้ง

“ให้ผมไปส่งเถอะนะ นี่ก็มืดแล้วนั่งแท็กซี่กลับคนเดียวมันอันตรายนะครับ” ฉันยังไม่ทันได้ตอบปฏิเสธออกไปอีกครั้งเขาก็ถือวิสาสะจับมือฉันพร้อมจูงมายังรถสปอร์ตคันหรู เปิดประตูให้แล้วจับฉันเข้ามานั้งในรถพร้อมปิดระตูให้เสร็จสับเลย

ฉันได้แต่นั่งทำหน้างง อย่างทำตัวไม่ถูกนัก ซักพักเขาก็เข้ามานั่งที่เบาะคนขับสตาร์ทรถ หันมายิ้มอ่อนให้ฉันอย่างเช่นทุกครั้ง

ฉันได้แต่นั้งทำตาปริบๆตัวแข็งทื่อ ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวมาใกล้ ฉันแทบกลั้นหายใจ สองมือกำชายกระโปรงแน่น

เขาโน้มหน้ามาใกล้จนจมูกของเราแทบจะสัมผัสกัน เขาหันมาจ้องหน้าสบตากันครู่นึง แต่ฉันแอบเห็นนะว่าเขายิ้มที่มุมปาก ก่อนเขาจะนำเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ฉัน แล้วกลับไปนั้งประจำที่คนขับเหมือนเดิม

“เพื่อความปลอดภัยครับ” พูดจบก็ออกรถไป เฮ้อ แค่คาดเข็มขัดบอกกันก็ได้มั้ย ไม่เห็นต้องมาใกล้กันขนาดนี้เลย ใจหายใจคว่ำหมด ‘เด็กบ้า’ ฉันได้แต่นั้งเงียบ เกร็งตลอดทาง มีบ้างที่เขาชวนคุยเพื่อถามทางฉันก็ตอบบอกทางกลับไป

จนกระทั่งรถมาจอดที่หน้าบ้าน “ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” ฉันก้มหน้าพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเขาเลยและกำลังจะลงรถ

แต่เขากลับเอื้อมมือมาคว้าที่ข้อมือฉันไว้ ฉันจึงหันไปมองหน้าเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันถามเสียงสั่นเพราะประหม่าและใจสั่นเป็นอย่างมากในตอนนี้

วันนี้จับมือฉันสองครั้งแล้วนะ เด็กคนนี้นี่ถึงเนื้อถึงตัวตลอด ขยันทำให้ฉันใจสั่นได้ตลอดเลยสินะ

“พี่อิงฟ้า…จะเป็นไรมั้ยถ้าผมจะขอถามอะไรพี่หน่อย…ได้มั้ยครับ” เขาทำสายตาเว้าวอน จ้องหน้าฉันอย่างจริงจัง

“ถะ ถามอะไรหรอคะ” ฉันพยายามห้ามใจไม่ให้สั่นไหว จะทำหน้าอ้อนแบบนี้ทำไมเนี่ยยย!!

“เอ่อ…ผู้ชายคนเมื่อวานที่ไปรับพี่ ที่หน้าโรงเรียนคือใครหรอครับ เขาเป็นแฟนพี่หรอ?”

เขาจ้องหน้าฉันอย่างรอเอาคำตอบ น้ำเสียงฟังดูจริงจังมาก

“อ๋อ คนเมื่อวานน่ะหรอ เขาคือพี่ชายเราน่ะ...พี่ชายแท้ๆ” พอจบคำพูดฉัน เขาก็ยิ้มพร้อมพรูลมหายใจออกมา เป็นไรของเขานะฉันได้แต่คิดในใจ

“อ๋าาา พี่ชายนี่เองเนอะ” เขายิ้มกว้างจนเห็นเหล็กดัดฟัน พร้อมลูบท้ายทอยไปมา

“งั้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราขอตัวนะ” พูดจบฉันก็รีบลงจากรถมา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปเลย คนอะไรยิ้มแบบนี้แล้วหล่อเป็นบ้า นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นเขายิ้มแบบนี้ ปกติเขาจะทำเพียงแค่อมยิ้มเท่านั้น

“ใครมาส่งอะ” เสียงพี่ชายดังขึ้นตอนฉันกำลังจะเดินขึ้นบรรได ฉันสดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่บ้าน วันนี้พ่อแม่ฉันไปสัมมนากลับพรุ่งนี้ ส่วนพี่ชายก็ไม่คิดว่าจะอยู่บ้าน ถ้าปกติเวลานี้คงยังไม่ถึงบ้านแน่

“อุ๊ย! น้องตกใจหมดพี่คินอะ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง” ฉันหันมาพูดกับพี่ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องหนังสือ

“ขวัญอ่อนจริงน้องสาวพี่เนี่ย พี่ก็ยืนของพี่อยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว เราเถอะเดินยิ้มอะไรมาคนเดียว พี่ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนยังมองไม่เห็น” พี่ชายฉันยิ้มอ่อนโยนพร้อมเดินมาลูบหัวฉัน

“น้องเปล่ายิ้มซะหน่อย” ฉันรีบปฏิเสธไป

“โอเคๆ ไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้ม แล้วสรุปใครมาส่งเรา รถหรูเชียว” พี่ชายฉันยิ้มกริ่ม พลางหรี่ตามองอย่างจับพิรุธฉัน

“รุ่นน้องที่โรงเรียนน่ะค่ะ พอดีเราเรียนพิเศษที่เดียวกันแล้วเขาเห็นว่ามันมืดแล้ว กลัวจะอันตรายเขาเลยมาส่งเฉยๆค่ะ” ฉันตอบไป แล้วภาพตอนที่เขาเข้ามาใกล้เพื่อคาดเข็มขัดให้ก็ผุดขึ้นมาทำให้หน้าเริ่มแดงขึ้นสีระเรื่อ

“แค่นั้น?” พี่ชายเลิกคิ้วถาม “ใช่ค่ะ แค่นั้น” ตอบไปแล้วก้มหน้าลงมองปลายเท้า ไม่กล้าเงยมองหน้าพี่ชายกลัวจะเผยพิรุธอะไรที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจ

“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย ฮึ เราน่ะ” พี่อคินยิ้มกริ่มพร้อมย่อตัวก้มมามองหน้าฉันอย่างล้อเลียน

“อะไร ใครหน้าแดง น้องไม่คุยกับพี่แล่ว” ฉันยกมือมากุมข้างแก้มสองข้างพร้อมวิ่งขึ้นบ้านทันทีแต่ก็ไม่วายมีเสียงพี่ชายดังขึ้นมาตามหลัง

“วันหลังพามาแนะนำให้พี่รู้จักบ้างล่ะ” บ้า บ้าที่สุดพี่อคินพูดอะไรก็ไม่รู้ ก็บอกว่าแค่รุ่นน้อง จะแซวทำไมเนี่ย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel