บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 18 ฮูหยินน้อย2

ติงหยู่ที่เห็นคุณหนูของนางมีทีท่าไม่สบายใจเช่นนี้จึงเรียบเอ่ยให้เข้าใจหวังว่าคุณหนูของนางจะคลายความกังวลที่มีลงบ้าง

“คุณหนูท่านอย่าได้กังวลไป คุณชายรองบอกว่าเวลาคาราวะของท่านให้เปลี่ยนไปเป็นก่อนมื้อกลางวันแทนเจ้าค่ะ”

“จริงรึ” นางถามย้ำ

“เจ้าค่ะ เป็นเช่นที่บ่าวได้เอ่ยบอกคุณหนูไปเจ้าค่ะ” ติงหยู่เอ่ยยื่นยันชัดเจน

เหลียงซูเมิ่งถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจก่อนจะย่อมให้ติงหยู่ประคองนางไปยังห้องอาบน้ำเพื่อจัดการความเรียบร้อยเตรียมการให้พร้อมสำหรับการไปเข้าพบพ่อแม่สามีของนางเป็นครั้งแรกหลังจากที่แต่งเข้ามาเป็นวันแรก

ยามนี้เหลียงซูเมิ่งกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังโถงกลางซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านแม่สามีให้คนมาเรียกให้นางไปพบที่นั่น โถงกลางกับเรือนหอดูห่างกันอยู่พอสมควร จึงต้องใช้เวลาเสียหน่อยกว่าที่จะเดินมาถึง

ติงหยู่ติดตามนางมาเช่นปกติ ส่วนสาวใช้อีกสองคนที่ติดตามนางมาจากเรือนด้วยนั้นคนหนึ่งคอยกางร่มบังแดดให้นาง ส่วนสาวใช้อีกผู้หนึ่งคอยถือของขวัญที่นางเตรียมมามอบให้ทางครอบครัวของสามีตามมาด้วยโดยที่มีติงหยู่ช่วยแบ่งไปถือเช่นกัน

ทันทีที่นางก้าวผ่านประตูโถงกลางเข้าไปนั้นเสียงสนทนาที่ดังอยู่ภายในก็เงียบลงฉับพลัน

ตัวของนางถูกจับจ้องจากทุกคนภายในโถงแห่งนี้

อาจเป็นเพราะนางรวบรวมสติและเตรียมใจเอาไว้แล้วจึงสะกดตัวเองให้ไม่รู้สึกตื่นเต้นจนรนรานออกไปได้ นางย่อตัวลง ณ กลางห้องโถงแห่งนี้อย่างนอบน้อม พร้อมกล่าวอย่างเป็นการเป็นงานจนดูหนักแน่นยิ่ง (ในความคิดของนาง)

“ลูกสะใภ้ขอคาราวะท่านพ่อสามี ท่านแม่สามีเจ้าค่ะ”

สิ้นเสียงหวานของลูกสะใภ้อยู่อึดใจก็ดูเหมือนท่านพ่อสามีกับท่านแม่สามีอย่างเว่ยจิ่งหยวนและอี้เหม่ยหลันจะได้สติ จึงรีบร้อนพากันพูดกับลูกสะใภ้ของพวกตนอย่างขบขันหวังจะช่วยให้เด็กสาวตรงหน้าซึ่งยามนี้ได้มาเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขาแล้ว ผ่อนปรนตัวเองไม่ต้องรู้สึกเกร็งกับพวกตนนัก

“ลูกสะใภ้เช่นเจ้าช่างเรียบร้อยอ่อนหวานยิ่ง แม่มองเจ้าทีไร ยิ่งได้มองยิ่งชมชอบนัก”

แม่สามีบ้านอื่นเป็นเช่นไรมิอาจทราบได้ และตัวอี้เหม่ยหลันเองก็ไม่อยากจะทราบเช่นกัน ยามนี้รู้เพียงว่านางเป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบลูกสะใภ้ของตนนัก เรียกได้ว่าเอ็นดูมากประหนึ่งลูกสาวแท้ๆของตนก็ว่าได้

“เมิ่งเมิ่งเจ้าอยู่ที่หากมีสิ่งใดที่อยากจะได้ก็ให้บอกมาได้เลย หรือหากมีใครบังอาจรังแกเจ้าก็อย่าได้ทนเก็บไว้ บอกแม่มาแม่จะจัดการให้เจ้าเอง” นางเอ่ยกับลูกสะใภ้ของนาง สายตาก็หันไปมองลูกชายตนที่นั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้ด้านข้างอย่างเอาเรื่อง (ความจริงคือสายตาที่แฝงไปด้วยความหาเรื่องลูกชายไปกว่าครึ่งก็ว่าได้)

ด้านซูเมิ่งก็เพียงแค่ยิ้มรับคำของท่านแม่สามีตนโดยไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใด จำได้ว่าเหมือนท่านแม่สามีจะพูดสิ่งใดออกมาอีกหลายประโยคกับนางแต่นางฟังแล้วช่างเหมือนการกล่าวกระทบไปยังสามีของนางเสียเป็นส่วนใหญ่

นอกจากยิ้มรับแล้วแน่นอนว่าซูเมิ่งเลือกที่จะไม่เอ่ยขัดหรือเห็นด้วยกับสิ่งใดทั้งสิน เพราะต่างอยู่ท่ามกลางสายตาเช่นนี้ยากนักหากจะไม่ถูกขุ่นเคืองหากเอ่ยพูดสิ่งใดขัดใจฝ่ายใดออกไป

นางยืนฟังจนกระทั่งรู้สึกว่ามือข้างซ้ายของนางถูกมือใหญ่เข้ามากุมเข้ากับมือของนางก่อนจะกิ่งประคองกิ่งจูงนางออกมาจากกลางโถงมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งซึ่งเป็นตัวที่อยู่ข้างๆกับที่เขานั่งอยู่เมื่อครู่

“ดื่มชาก่อนเถิด”

เสียงทุ้มเอ่ยกับนางพร้อมกับยื่นถ้วยชาที่เขารินชาด้วยตัวเองเมื่อครู่มาส่งให้ถึงมือนาง ซึ่งแน่นนอนว่านางย่อมต้องรับถ้วยชามาถือเอาไว้เองอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ข้ากำลังพูดคุยกับลูกสะใภ้อย่างสนุกสนานยิ่ง เจ้ามาลากนางไปเช่นนั้นช่างเป็นการไม่สมควรยิ่ง”

แน่นอนว่าเจ้าของประโยคนี้จะเป็นผู้ใดไปไม่ได้นอกจากท่านแม่สามีของนางนั้นเอง ซูเมิ่งทำได้เพียงแค่ส่งยิ้มไปให้ท่านแม่สามีหวังให้นางคลายความขัดข้องต่อสามีนางลงหน่อย แต่ก็ดูเหมือนรอยยิ้มของนางนั้นจะไม่เป็นผล ท่านแม่สามีส่งยิ้มคืนกลับมาให้นางอย่างอ่อนโยนยิ่งแต่ก็เพียงครู่เดียว หลังจากนั้นท่านแม่สามีก็หันไปตีหน้าไม่พอใจใส่สามีของนางต่อในทันที

“ข้ากับเห็นว่าสมควรยิ่งแล้วท่านแม่”

“เหลวไหลนักเจ้าลูกคนนี้”

สองแม่ลูกยังคงต่อปากต่อคำกันต่อ สามีของนางตอบกลับท่านแม่ของเขาด้วยใบหน้าเย็นราวน้ำแข็ง ท่านแม่สามีก็เหมือนกับถูกเขายั่วยุด้วยใบหน้าเรียบเฉยนี้จนแทบจะถึงจุดเดือดดาลสุดทนแล้ว

โชคดีที่สาวใช้ผู้หนึ่งเข้ามารายงานว่าตั้งโต๊ะอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ การสนทนาจึงได้จบลงอย่างไม่ค่อยจะดีนัก แต่กลับทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายลดความกังวลตื่นเต้นกับการร่วมทานอาหารกับของครอบครัวใหม่ของลงไปได้กว่าครึ่ง

มื้ออาหารกลางวันจบลงไปด้วยดี ท่านพ่อและท่านแม่สามีพากันกลับเรือนไปพักผ่อน ยามนี้จึงเหลือเพียงนางและสามีของนางอย่างเว่ยมู่เหยียนที่อาสาจะเดินไปส่งนางถึงเรือน ไม่ได้แยกไปที่เรือนหนังสือในทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel