บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 14 เปลี่ยนที่นอนคืนแรก2

“นั่งรอข้าอยู่นานเจ้าคงเมื่อยไปหมดแล้วกระมัง” เป็นเว่ยมู่เหยียนที่เป็นผู้เอ่ยทำลายความเงียบก่อนเป็นคนแรก เขายังคงมองไปยังเจ้าสาวของเขาไม่ได้ละสายตาไปจากนาง

“เมื่อยนิดหน่อยเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบพลางก้มหน้ามองเท้าตนเอง ไม่กล้ามองไปยังบุรุษหนึ่งเดียวในห้อง แต่แม้นางจะไม่กล้ามองไปยังเขาแต่นางก็รู้ได้ว่าตัวนางนั้นกำลังถูกเขามองจับจ้องอยู่

“มา ข้าจะประคองเจ้ามาที่โต๊ะอาหาร” เขาเอ่ยพลางเดินเข้ามาหานาง

ยามนี้ซูเมิ่งๆทำสิ่งใดไม่ถูกได้เพียงพยักหน้าและขยับตัวลุกขึ้นปล่อยให้เขาพยุงพานางมานั่งที่โต๊ะอาหารที่ห้องด้านหน้า

ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่พวกนางนั่งลงที่โต๊ะอาหาร เหล่าอาหารหลายอย่างก็ถูกลำเลียงขึ้นโต๊ะโดนสาวใช้ของจวนสกุลเว่ยเพียงไม่นานอาหารหอมกรุ่นทั้งยังหอมน่ารับประทานหลายอย่างก็ปรากฎอยู่เบื้องหน้าของนางแล้ว

เหล่าสาวใช้เองก็ยืนรอท่ารับใช้อยู่ไม่ไกล ดูเหมือนว่าด้านหลังนางจะมีติงหยู่และสาวใช้ที่นางพามาจากจวนสกุลเหลียงของนางอยู่อีกหนึ่งคน ส่วนที่ยืนรอท่าอยู่ด้านหลังของเขาก็เป็นสาวใช้ของจวนสกุลเว่ยแห่งนี้อีกสองคน

“ไม่ได้กินอะไรทั้งวันเจ้าคงหิว ลงมือกินเถอะ” เขาเอ่ยกับนางพลางคีบปีกไก่น่องหนึ่งมาวางเอาไว้ที่ถ้วยข้าวของนาง

นางเอ่ยขอบคุณเขาไปคำหนึ่ง ก่อนจะลงมือกินข้าวกับเขาอย่างมึนงง ตลอดมื้ออาหาร เว่ยมู่เหยียนคอยตักนั้นคีบนี่ให้นางอยู่ตลอด จนเผลอไปครู่หนึ่งถ้วยข้าวของนางก็ถูกอาหารที่เขาคีบถมจนล้น

จำได้ว่านางมองถ้วยข้าวตัวเองด้วยสายตาว่างเปล่า ความอยากอาหารในยามนี้ไม่มีเหลือแม้สักนิด ความจริงหากเป็นไปตามปกตินางอิ่มตั้งแต่อาหารจานที่สามที่เขาส่งมาให้แล้ว

เพราะฉะนั้นอาหารทั้งหมดในถ้วยนางจึงเหลืออยู่มากกว่าเก้าในสิบส่วนเสียอีก เมื่อทานอาหารเสียแล้วสามีมาดๆของนางก็ให้คนปรนนิบัตินำน้ำมาให้เขาและนางเช็ดทำความสะอาดร่างกาย นางถูกพามาที่ห้องอาบน้ำเพื่อปรนนิบัติ ส่วนเขาดูเหมือนจะใช้บริเวณหน้าเตียงนอน

ติงหยู่และสาวใช้ช่วยนางนำเครื่องประดับผมออกและหวีให้เรียบปล่อยให้ผมของนางนั้นทิ้งปลายลงอย่างสบายๆ ด้านชุดก็ถูกถอดออกเหลือเพียงแค่ชุดตัวในเหมาะสำหรับใส่นอนได้เลยเท่านั้น

เมื่อตัวนางถูกจัดการเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมายังห้องนอน ซึ่งก็คือห้องหอของนางนั่นแหละ เมื่อมาถึงจึงพบว่าเว่ยมู่เหยียนนั้นก็อยู่ในชุดตัวในไม่ต่างจากนาง ส่วนผมของเขายังมีปิ่นไม้ปักเอาไว้อย่างสบายๆ

“เจ้า มานั่งนี่ก่อน” เขาเอ่ยเมื่อหันมาเห็นนาง

นางเองก็เดินอย่างช้าๆไปนั่งที่บนเตียงข้างๆเขาอย่างเกร็งๆ นางเห็นเขายกมือเรียกสาวใช้ผู้หนึ่งที่ถือถาดอยู่เขามา ในถาดรู้สึกว่าจะมีชามใบหนึ่งที่มีไอร้อนลอยออกมาวางอยู่

“นี่เป็นน้ำผึ้งต้มกับพุทราเจ้าดื่มมันแก้อ่อนเพลียเสียหน่อยเถิด” คนพูดยัดเยียดถ้วยชามมาให้นางถือในมือจนได้

ตัวนางยามนี้รู้สึกขยาดเล็กน้อยต่อของกินที่ถูกยัดเยียดใหญ่จากเขา หรือจะเป็นเพราะเมื่อครู่นางถูกยัดเยียดอาหารจนมากเกินไป อะไรที่กังวลจึงหายไปสิ้นแม้กระทั่งความรู้สึกตื่นเต้นก็หายไปไม่มีหลงเหลือแล้ว ทั้งที่ด้านข้างนางคือสามี คือบุรุษที่นางแอบหลงรักมานาน แต่เมื่อได้อยู่ใกล้เขายามนี้กับมึนงงไปหมดแล้ว

นางจำไม่ได้ว่าตัวเองยกถ้วยชามนี้ดื่มจนหมดหรือไม่รู้ตัวอีกทีตัวนางก็นอนอยู่ด้านในเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหล่าสาวใช้ออกไปหมดในห้องหอเทียนทุกเล่มถูกดับ ม่านเตียงถูกดึงลงเมื่อไหร่นางก็ไม่ทราบได้

อ่า นี่นางมึนงงหลุดลอยไปถึงไหนต่อไหนกัน นางในยามนี้คงจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ก็เป็นได้หากไม่ได้รับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากบุรุษที่นอนอยู่ข้างกาย

เหลียงซูเมิ่งยามนี้นอนตัวแข็ง นางไม่กล้าแม้จะขยับตัวแม้สักเล็กน้อย นางในยามนี้ทำได้ดีที่สุดคือการหลับตาลงอย่างแน่นหนา จนกระทั่งผ้าห่มบนร่างของนางถูกดึงมาคลุมให้นั่นแหละเหลียงซูเมิ่งที่ตั้งใจจะรีบนอนหลับให้รีบผ่านคืนนี้ไปจึงได้เผลอหายใจเข้าลึกๆจนเกิดเสียงดัง

“ค่อยๆหายใจ อย่าได้เร่งรีบนัก”

เสียงเรียบเอ่ยขึ้นในความเงียบ น้ำเสียงของเขาที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้เหลียงซูเมิ่งนั้นแน่นใจในที่สุดว่ายามนี้การที่นางได้นอนเคียงข้างอยู่กับบุรุษที่นางแอบมีใจมานานไม่ใช่ความฝัน

ยามนี้การที่นางแต่งงานเป็นภรรยา เป็นฮูหยินของเขาคือเรื่องจริง เรื่องที่นอนบนเตียงเดียวกันข้างๆเขาก็เป็นเรื่องจริง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel