บท
ตั้งค่า

Episode 04: First experience with an ‘uke’ from novel【1】

นั่งลงบนเก้าอี้หน้าร้านราเมงแบบรถเข็นได้ กัลป์ก็สั่งราเมงร้อนๆ มาเซ่นนายเอกนิยายหิวโซของตัวเองทันควัน ราเมงร้อนๆ ถูกเสิร์ฟตรงหน้าชายหนุ่ม ไม่ถึงห้านาทีดี ราเมงชามแรกก็ถูกจัดการเกลี้ยงชามราวกับเททิ้ง ต่อด้วยชามที่สองและสามตามมา และดูท่าจะไม่หยุดง่ายๆ ด้วยเมื่อเซย์จิชูนิ้วชี้ขึ้นมา เป็นสัญญาณให้ลุงเจ้าของร้านรู้ว่าเอามาเพิ่มอีกหนึ่ง

กัลป์อยากจะปรามเหมือนกันว่ากินจุเกินไปแล้ว แต่ด้วยความสำนึกผิดที่ปล่อยให้เซย์จิหิวโซตลอดวัน เขาเลยให้เซย์จิกินได้มากตามใจชอบ ถึงแม้ว่าเงินในกระเป๋าตังค์เก่าๆ จะดูน่าเป็นห่วงก็เถอะ แต่ก็แค่มื้อนี้มื้อเดียวเท่านั้นแหละ มื้ออื่นๆ จะให้จำกัดการกินลง

ก็ใครมันจะไปเลี้ยงคนกินจุขนาดนี้ไหวกันล่ะ!

“อิ่มแล้ว” น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นหลังจากเจ้าของเสียงซดน้ำซุปจากราเมงชามที่สี่เกลี้ยง

กัลป์หายใจโล่งอีกครั้งที่คนตัวใหญ่ไม่ซัดจนเกินงบที่เขาเอาติดตัวมา ก่อนจะล้วงกระเป๋าเงินขึ้นมา

“อิ่มแล้วก็กลับ ฉันง่วงจะตายอยู่แล้ว อยากนอน”

แต่เหมือนเซย์จิจะไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด โพล่งออกมาหน้าตาเฉย

“แต่เหมือนยังจะไม่อิ่มดีแฮะ ลุงครับ ขออีกชาม”

กัลป์ถึงกับบีบกระเป๋าเงินในมือแน่น อยากจะคว้าตะเกียบมาแทงคนกินจุให้รู้แล้วรู้รอดเหลือเกิน ทว่าก็ต้องอดใจไว้ ไม่กระทำการรุนแรงต่อหน้าคนอื่น

ราเมงชามที่ห้าถูกส่งให้เซย์จิรับ ชายหนุ่มจ้องเส้นราเมงเหนียวนุ่มตาเป็นมัน ร้องออกมาว่า ‘จะกินแล้วนะครับ’ พร้อมคีบราเมงเส้นอวบขึ้นด้วยตะเกียบ หากแต่ไม่ทันจะได้ยัดเข้าปาก เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองถูกรังสีอำมหิตจับจ้องอยู่ เลยเหลือบไปมองยังจุดกำเนิดก็เห็นว่ารังสีนั้นแผ่ซ่านออกมาจากสายตาของกัลป์ ทำให้เขาลดมือที่ถือตะเกียบลงทันใด

“เป็นอะไร มาจ้องหน้าฉันแบบนี้ก็กินไม่ลงพอดี”

“รีบๆ กินไป อย่าพูดมาก” กัลป์ขี้เกียจบอกว่าที่จ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแบบนั้น ก็เพราะเซย์จิทำเขาเสียเวลานอนนี่แหละ ตอนนี้หัวมึนวิ้งไปหมดแล้ว ให้ตาย...

หากแต่เซย์จิไม่ทันสังเกตเห็น หรือสังเกตเห็นแต่ทำเป็นไม่สนใจก็ไม่รู้ เห็นกัลป์ทำหน้ารำคาญอย่างนั้น ก็คีบเอาลูกชิ้นนารูโตะส่งมาให้

“สงสัยจะหิว หิวก็ไม่รู้จักสั่ง อ้ะ แบ่งให้ก็ได้”

หิวบ้าหิวบออะไรกันล่ะ ที่ทำท่าทางรำคาญอย่างนั้นก็เพราะง่วงนอนต่างหาก!

“ไม่เอา” กัลป์สะบัดหน้าหนี ไม่อยากจะเสวนาด้วยสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนกำลังจะหงายหลังตกเก้าอี้ มารู้ตัวอีกทีว่าไม่ได้ตกเก้าอี้ แต่เป็นฝีมือของเซย์จิที่ตวัดแขนมาโอบรอบคอเขาแล้วดึงเข้าไปหาก็ตอนที่ตั้งตัวได้นี่แหละ

“กินๆ ไปเถอะน่า เล่นตัวอยู่ได้” พูดแล้วก็เอาลูกชิ้นที่คีบอยู่มาจ่อตรงเรียวปากสีสวย

“ไม่” กัลป์ปฏิเสธอีกครั้ง

ทว่าเซย์จิก็ไม่ฟัง ว่าหยอกด้วยน้ำเสียงระรื่น

“แน่ะ ยังจะเล่นตัวอีก”

“ไม่ได้เล่นตัว ฉันไม่หิว”

“ไม่หิวแล้วจะทำหน้าเหม็นบูดอย่างนั้นทำไม เห็นฉันกินเยอะแล้วกลัวไม่มีตังค์จ่าย ก็เลยไม่ยอมสั่งของตัวเองล่ะสิ รู้ทันหรอกน่า กินไปเถอะ ฉันแบ่งให้”

กัลป์อยากจะเถียงใจจะขาดว่าไม่ใช่อย่างที่เซย์จิคิด อยากจะต่อยหน้าให้เลิกเร้าหรือเขาเสียทีด้วย แต่เห็นสายตาของลุงเจ้าของร้านที่เหลือบมองเป็นระยะด้วยแล้ว เขาก็ระงับความหงุดหงิดที่พร่างพรายในใจ ยอมอ้าปากงับลูกชิ้นจากตะเกียบไปโดยดี

“กินแล้วก็ปล่อยสักที” แล้วก็หันไปว่าเสียงเขียว

เซย์จิยอมปล่อยแขนจากรอบคอของอีกฝ่ายได้ แต่ก็ไม่วายยื่นมือมายีผมบริเวณท้ายทอยของกัลป์

“ยอมกินง่ายๆ แต่แรกก็สิ้นเรื่อง แล้วนี่ตัดผมทำไม ร้อนหรือไง” ไม่ได้เพิ่งสังเกตเห็นตอนนี้ เห็นตั้งนานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีแรงจะทักเรื่องทรงผมใหม่

“ไม่ใช่เรื่องของนาย” กัลป์สะบัดศีรษะให้พ้นจากมือใหญ่ เขาไม่บอกหรอกว่าที่ตัดผมก็เพราะไม่ต้องการดูเหมือนเป็นเกย์ฝ่ายรับอย่างที่เซย์จิเคยพูด

หากแต่เซย์จิรู้ทัน มองแล้วก็ยกยิ้ม ก่อนละสายตาไปเอาตะเกียบคืบเส้นราเมงเข้าปาก

“ตัดไปก็เสียเปล่าน่า ไม่ได้ทำให้นายดูเป็นฝ่ายรับน้อยลงหรอก”

กัลป์ตวัดดวงตากลมโตไปมองค้อนทันที เซย์จิไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตากิน ได้จังหวะก็พูดขึ้นมาอีก

“ผมยาวดีกว่าแท้ๆ หน้าหวานกว่าตั้งเยอะ แต่ผมสั้นก็ไม่เป็นไร ยังไงก็หน้าหวานอยู่ดี”

“หุบปากแล้วรีบๆ กินเข้า ฉันอยากกลับห้อง” กัลป์ชักรำคาญ กระชากเสียงใส่

เซย์จิยักไหล่ไม่ยี่หระ กินต่อราวไม่รู้สึกรู้สาว่าเมื่อครู่พูดอะไรไป ส่วนกัลป์ก็เสียความมั่นใจไปโดยปริยาย ยกมือขึ้นเท้าคาง มองเงาสะท้อนของตัวเองจากกระจกบนตู้ใส่วัตถุดิบสำหรับทำราเมงอย่างระอา

จริงอย่างที่เซย์จิพูด ถึงจะตัดผมก็ไม่ได้ทำให้ดูแมนขึ้นเลยสักนิด หน้าหวานอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น

เสียเวลา เสียเงินเปล่าจริงๆ!

พอกลับมาถึงห้อง ทิ้งตัวลงบนเตียง หัวถึงหมอนได้ ตาก็ปิด พาภวังค์เข้าสู่ห้วงนิทราปั๊บราวกับปิดสวิตซ์ เซย์จิงุนงงนิดหน่อยที่เห็นกัลป์หลับอย่างง่ายดายประหนึ่งของเล่นถูกถอดถ่านออก แต่ก็ไม่ได้สนใจ พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำเพราะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้อาบมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

หากแต่พออาบเสร็จแล้วออกมาด้านนอก สายตาก็เหลือบไปยังร่างขาวผ่องของชายอีกคนบนเตียงที่นอนกรนเบาๆ อยู่ ถ้าเป็นการนอนแบบธรรมดา เขาจะไม่สนใจเลย แต่นี่คือนอนเสื้อเปิดขึ้นมาเกือบถึงอก แถมมือข้างที่เปิดเสื้อก็เกาหน้าท้องไปมาแกรกๆ อีกต่างหาก หมดคราบหนุ่มหน้าหวานน่ากอดไปหมดสิ้น หนำซ้ำยังกัดฟันกรอดอีกต่างหาก

สงสัยหมอนี่จะเหนื่อยจัดแฮะ นอนหมดสภาพเลยให้ตาย

เซย์จิรู้อยู่แล้วล่ะว่ากัลป์ไปทำอะไรมาถึงได้เหนื่อยจัดขนาดนี้ ก็เมื่อคืน หนุ่มหน้าหวานนั่นไม่ได้นอนเลยสักงีบนี่นา แถมพอเช้าก็เร่งรีบออกจากห้องไปอีก กว่าจะกลับก็ค่ำมืด ไม่เหนื่อยก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ขณะเดียวกัน เซย์จิเองก็เห็นโอกาสในการเอาคืน

ขาทั้งสองข้างก้าวเข้าไปยังขอบเตียง ใบหน้าโน้มลงจนริมฝีปากเกือบจะแตะพวงแก้มใส ทว่าก็ต้องหยุดเมื่อลมหายใจอุ่นของเขารบกวนกัลป์จนอีกฝ่ายส่งเสียงครางอืออออย่างรำคาญ

น่าฟัดชะมัด แต่นอนไม่ได้สติแบบนี้ จะทำก็ละอายใจแฮะ เมื่อกี้หมอนี่ก็เพิ่งจะเลี้ยงราเมงเรามาด้วย งั้นไว้วันหลังแล้วกัน

ชายหนุ่มจำใจผละออก เสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกัลป์ให้สาแก่ใจ แต่เขาไม่ได้มีรสนิยมลักหลับใครต่อใครนี่นา หลับอย่างนั้นมันจะไปสนุกอะไร เสียงครางกระเส่าก็ไม่มี สู้ตอนมีสติครบถ้วนก็ไม่ได้ อันนั้นมันส์กว่าเยอะ

คิดดังนั้น เซย์จิก็ออกห่างจากเตียง เดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เช็ดผมที่ยังเปียกหมาดด้วยผ้าเช็ดตัวอีกผืนที่ได้มาจากตู้เสื้อผ้าไปด้วย ก่อนสายตาดันบังเอิญไปเห็นกองกระดาษบนโต๊ะ เขาเลยละมือจากการเช็ดผมตัวเองไปคว้ากระดาษปึกนั้นมาดู

มันเป็นต้นฉบับของกัลป์... ต้นฉบับที่มีเซย์จิเป็นนายเอกและกำลังถูกทำเรื่องอย่างว่า

“ขยะแขยงชะมัด” เซย์จิถึงกับครางเมื่ออ่านฉากแรกที่เป็นบทนำแล้วเห็นว่าตัวเองโดนกระทำตั้งแต่เริ่มแรกด้วยชายแปลกหน้าที่เจอกันที่บาร์

ถึงจะเป็นแค่นิยายและเป็นแค่ตัวหนังสือ ไม่ได้เกิดกับเขาจริงๆ ในเวลานี้ แต่ตอนที่อยู่ในนิยาย เขาถูกกระทำจริงๆ นี่นา ซ้ำเขายังฝืนตัวเองไม่ได้อีกด้วย ต้องเล่นตามบทบาทที่กัลป์เขียนให้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือ ถ้ากัลป์เขียนแล้วลบ แล้วเขียนใหม่ เขาก็ต้องเล่นตามบทบาทใหม่อีกครั้ง

นั่นหมายความว่าเขาถูกผู้ชายที่เป็นฝ่ายรุกกระทำนับครั้งไม่ถ้วนเลยทีเดียว

ยิ่งคิด เส้นขนทั่วกายก็ลุกชัน ขนลุกชันหนักกว่าเดิมเมื่ออ่านไปถึงฉากที่ตัวเขาในนิยายไปเจอพระเอกและถูกพระเอกจัดหนักแบบซาดิสม์

เซย์จิโยนต้นฉบับทิ้งลงที่เดิมทันที สะบัดหน้าสองสามทีด้วยต้องการสลัดความทรงจำเกี่ยวกับฉากนั้นออกไปด้วย

“เขียนอย่างอื่นไม่เป็นหรือไง อะไรเข้าฝันให้คิดพล็อตแบบนี้เนี่ย”

ริมฝีปากหยักหนาพึมพำ ก่อนจะหันไปมองใครอีกคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ เท่านั้น ความตั้งใจแรกที่คิดไว้ว่าจะไม่ทำอะไรกัลป์ยามหลับก็เปลี่ยนไปทันที

จะหลับหรือตื่นก็ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้เขาอยากให้กัลป์ได้รู้ซึ้งถึงความอัปยศที่เขาเจอมากกว่า เขาลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้า คุ้ยอยู่นานก็หยิบเอาบางอย่างออกมา ก่อนจะเผยอยิ้มร้าย ปรายตามองไปยังคนที่ยังหลับไม่รู้เรื่องอย่างเจ้าเล่ห์

คราวนี้แหละ จะเอาให้เขียนฉากอีโรติกในนิยายคล่องไปเลย

ความที่นอนท่าเดียวเป็นเวลานาน ร่างกายเลยเมื่อยขบ กัลป์พลิกตัวหมายจะนอนตะแคง หากแต่พอทำท่าพลิก แรงยึดจากข้อมือและข้อเท้าก็ทำให้เขาชะงัก ไม่อาจพลิกตัวได้ดั่งใจหมาย พอลองขยับดูอีกทีก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายถูกอะไรบางอย่างตรึงไว้

หัวคิ้วเรียวสวยย่นยู่ทันที ก่อนเปลือกตาบางจะค่อยๆ ขยับและฝืนลืมตาตื่นขึ้นเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แล้วก็ต้องย่นคิ้วหนักมากขึ้นเมื่อเห็นว่าที่เขาขยับไม่ได้เป็นเพราะข้อมือถูกมัดติดไว้กับเหล็กดัดที่หัวเตียงทั้งสองข้าง ส่วนข้อเท้าก็ถูกมัดติดไว้เช่นเดียวกัน อุปกรณ์ที่ใช้มัดก็เป็นเนคไทที่เขาคุ้นตาดีและมั่นใจว่ามันต้องมาจากในตู้เสื้อผ้าเขาแน่

แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับคำถามที่ผุดพรายขึ้นมาในหัวว่า...ใครเป็นคนทำกับเขาแบบนี้!?

ดูเหมือนไม่ต้องถามก็ได้คำตอบแล้ว เพราะแค่ปราดมองไปยังปลายเท้า ก็เห็นคนตัวการยืนแสยะยิ้มร้ายอยู่

“ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกตัวเร็วกว่าที่คิดแฮะ เพิ่งจะมัดเสร็จไปเมื่อกี้เอง”

“นายคิดจะทำอะไร” กัลป์เรียกสติสัมปชัญญะของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว ถึงจะยังงัวเงียอยู่แต่ก็ฝืนทน

อยู่ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ ไม่ใช่เวลาจะมางัวเงียแล้ว!

“แล้วคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ อาจารย์กัน เอ...เหมือนคืนวันที่เราเจอกัน นายกำลังจะหาข้อมูลไปเขียนนิยายไม่ใช่เหรอ ฉันก็กำลังจะช่วยให้ข้อมูลนี่ไง”

พูดมาอย่างนี้ก็รู้เลยว่าเซย์จิคิดจะทำอะไร อันที่จริงไม่พูดก็รู้ ถูกมัดแบบนี้มันคิดไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว นอกจากจะเปิดบริสุทธิ์เขาด้วยวิธีที่ผู้ชายกับผู้ชายทำกันน่ะ!

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” กัลป์ว่าเสียงต่ำ บ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจกับการกระทำของเซย์จิเป็นอย่างมาก

แต่เซย์จิจะสนอะไร แสยะยิ้มยั่วอย่างเดียวเท่านั้น

“ไม่เอาน่า ไหนๆ นายก็ตั้งใจจะลองตั้งแต่แรกแล้ว ก็อย่าเพิ่งเลิกล้มความตั้งใจไปกลางคันเลย เดี๋ยวฉันจะสอนให้ว่ามันรู้สึกยังไง อ้อ จะสอนให้ด้วยว่าความซาดิสม์ที่แท้จริงเป็นยังไง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel