บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ...จูบนี้เป็นการพิสูจน์...

“ที่นี่เหรอ? ที่ดื่มดีๆที่นายบอก”

หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเธอเดินตามร่างสูงออกจากลิฟต์มายังชั้นดาดฟ้าของคอนโดมิเนี่ยมหรู ซึ่งก็คือคอนโดของนาวินนั่นเอง เขาเช่าดาดฟ้าแห่งนี้เป็นบางครั้งบางคราวเมื่อต้องการจะจัดปาร์ตี้หรือเวลาที่อยากจะดื่มเงียบๆคนเดียว

“อืม” ชายหนุ่มเอ่ยตอบสั้นๆ ก่อนที่จะเดินถือถุงเบียร์และขนมขบเคี้ยวไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาว

“ก็ดีนะ ลมเย็นดี แต่จะไม่มียามมาไล่เราออกไปก่อนใช่ไหม?” เฌอร์ถามต่อ ขณะที่เดินไปนั่งข้างๆเขา รับกระป๋องเบียร์จากเขามาเปิดแล้วจิบเบาๆ

“ไม่มีหรอก...ที่นี่เป็นดาดฟ้าคอนโดฉัน”

“หึ...ไหนบอกว่าแค่ดื่มไง? พาฉันขึ้นคอนโดเฉยเลย” หญิงสาวช้อนสายตามองชายหนุ่มที่กำลังดื่มเบียร์

“อย่าคิดเยอะ เธอสวยก็จริง...แต่ฉันไม่ชอบขืนใจใคร และเธอก็ไม่ใช่สไตล์ฉันเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว” นาวินโกหกคำโต เพราะที่จริงแล้วหมอเฌอร์คือผู้หญิงสไตล์ที่เขาชอบที่สุด ทั้งรูปร่าง หน้าตา กิริยาและความฉลาด

“แต่นายก็เพิ่งชมว่าฉันสวย” แม้จะเขินกับคำชมนั้นแต่เธอก็ทำเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไร

“แล้วเธอว่าฉันเป็นยังไง?” คราวนี้นาวินเอี้ยวไปให้เฌอร์มองอย่างเต็มตา จ้องตาเธอนิ่งอย่างอยากรู้คำตอบ ในเมื่อเขาชมว่าเธอสวย เขาก็อยากจะได้รับคำชอบกลับบ้างก็เท่านั้น

“ก็...งั้นๆ” ทว่าหญิงสาวกลับเลี่ยงสายตาเจ้าชู้คู่นั้นแล้วตอบคำถามอย่างขอไปที

“ได้ไงวะ ตอบมาว่าฉันเป็นยังไง” นาวินไม่ยอม

“นายจะเอาอะไร? ฉันก็บอกไปแล้วไงว่างั้นๆ งั้นๆก็แปลว่าเฉยๆน่ะ”

“หึ! ฉันว่าฉันดูดีกว่าไอ้ดาราตกกระป๋องนั้นนะ” นาวินแสยะยิ้ม พาดพิงถึงธันวา อดีตแฟนหนุ่มของเฌอร์

“นี่! มากไปป่ะ? จะพูดถึงไอ้ห่วยแตกนั่นเพื่อ?” เฌอร์ถลึงตาใส่นาวิน ก่อนที่เธอจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“แต่เดี๋ยวนะ...ฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลย แถมนายก็ยังไม่ได้บอกฉันด้วยว่านายรู้เรื่องของฉันได้ยังไง...”

“นาวิน ชื่อฉัน” เขาตอบเพียงคำถามเดียว

“นาวินเหรอ? อายุล่ะ? ทำงานอะไร?” ที่เธอถามนั่นเป็นเพราะเธอมองเขาไม่ออกเลย ผิดกับที่วิเคราะห์เรียวได้เป็นข้อๆ

“เธอว่าฉันอายุเท่าไหร่ ลองทายมาให้หมดเลย ทั้งอายุ ทั้งอาชีพ...” ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าการได้คุยกับเฌอร์นั้นสนุกกว่าการหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่นเป็นไหนๆ

“อืม...ดูจากริ้วรอยไม่ค่อยมี ทรงผม น้ำเสียงรวมถึงการแต่งตัว ฉันว่านาย...ยี่สิบห้า และนายคงต้องเรียกฉันว่าพี่แล้วล่ะ เพราะฉันยี่สิบหก”

“เธอต่างหากที่ต้องเรียกฉันว่าพี่ เพราะฉันยี่สิบหกและก็เกิดเดือนสิงหา ส่วนเธอเกิดเดือนตุลา ฉันแก่กว่าเธอสองเดือน” และคำตอบของนาวินก็ทำให้เฌอร์นิ่งไป

“นายรู้ได้ไงว่าฉันเกิดเดือนตุลา?”

“รู้ก็แล้วกัน” เขายกยิ้ม จำได้แม้วันเกิดของเธอด้วยซ้ำ เพราะคืนที่เธอสลบในอ้อมกอดของเขา เขาได้ดูบัตรประชาชนของเธอแล้ว

“ชักจะน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ” หมอเฌอร์หรี่ตาจ้องชายหนุ่ม

“ทายอาชีพฉันสิ” นาวินติดใจบทสนทนานี้ไม่น้อย

“โจร สายสืบ พวกรีดไถ บาร์โฮส หรือนายขายตัว? ฮ่ะๆๆๆ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจที่ได้กวนประสาทชายหนุ่ม

“เธอรังเกียจหรือเปล่าล่ะ? ถ้าฉันขายตัว...” นาวินจ้องเขาหญิงสาวนิ่ง

“ไม่น่ะ...ไม่จริงหรอก นายดูไม่เหมือนผู้ชายขายตัวสักหน่อย” เฌอร์ตกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เธอล้อเล่นจะกลายเป็นเรื่องจริง

“ฮ่ะๆๆๆ” แล้วในตอนนั้นนาวินก็หัวเราะออกมา

“ไอ้บ้านี่! นายแกล้งฉันเหรอ?”

“ก็ดูแต่ละอาชีพที่เธอยัดเยียดให้ฉันสิ...ดีๆทั้งนั้น”

“แล้วตกลงนายทำงานอะไร?”

“ขายน้ำน่ะ” นาวินตอบคำถามแบบติดตลก

“สรุปคือนายขายตัวจริงๆดิ?” หมอเฌอร์นิ่วหน้าถามอย่างไม่อยากจะเชื่ออีกครั้ง

“ขายน้ำนี่แปลว่าขายตัวเหรอวะ? ฉันก็แค่ขายเครื่องดื่ม...เธอคิดลึกไปไหน?”

“อ๋อ...ขายเครื่องดื่ม เครื่องดื่มแบบไหนล่ะ? ชูกำลังหรืออารมณ์น้ำส้มคั้น?”

“เธออยากรู้จริงๆหรือไม่มีอะไรจะถาม?” คราวนี้เป็นชายหนุ่มที่สงสัยในตัวหญิงสาว เพราะก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนสงสัยเรื่องอาชีพของเขา พวกเธอเพียงอยากรู้แค่ว่าเขารวยแค่ไหนก็เท่านั้น

“เห้ยนาย...ฉันถามจริงๆ เผื่อบางทีฉันจะอุดหนุนนายบ้าง ช่วยๆกัน...เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไม่ดี มีอะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วย” หมอเฌอร์ตอบด้วยความจริงใจ

“ฉันว่าเธอต้องเคยอุดหนุนฉันบ้างแล้วล่ะ อย่างเบียร์ในมือเธอก็เป็นสินค้าที่ฉันขาย พวกน้ำอัดลม ชาเขียว ซุปไก่ เครื่องดื่มพวกนั้นก็เป็นสินค้าในเครือฉันทั้งหมด”

“อย่ามา...นายเป็นทายาท เจเค กรุปจริงดิ? อย่างงั้น...นามสกุลนายก็ต้องเป็น...จตุรงคจรกุล?” เฌอร์เอ่ยถามอย่างคาดไม่ถึง เพราะเธอไม่คิดว่าวันนึงจะได้มานั่งคุยกับทายาทธุรกิจหมื่นล้าน

“เธอทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ” นาวินยกยิ้ม

“ไม่อยากจะเชื่อ...แต่ นาวิน จตุรงคจรกุล ก็ฟังดูคุ้นๆนะ” ว่าแล้วหมอเฌอร์ก็เสิร์ชชื่อของชายหนุ่มลงในอากู๋อย่างรวดเร็ว ขณะนั้นนาวินก็ลุกออกไปยืนที่ระเบียงดาดฟ้า หยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ

“เห้ย! เป็นนายจริงๆเหรอเนี่ย?” คุณหมอคนสวยมองใบหน้าของนาวินสลับกับภาพถ่ายพร้อมประวัติในมือถือ

“ต้องตกใจเวอร์ขนาดนั้นเลยดิ?” ชายหนุ่มแสยะยิ้มมองหญิงสาว

“ก็ใครจะไปเชื่อล่ะว่านายจะเป็นทายาทตระกูลดัง...ว่าแต่...นี่มันลิปดานี่ มีรูปนายถ่ายคู่กับเพื่อนฉันด้วยอ่ะ...” เฌอร์ที่เลื่อนดูรูปของนาวินไปเรื่อยๆ ได้เจอกับรูปถ่ายที่ชายหนุ่มถ่ายคู่กับลิปดา

“เพื่อนเธอก็เพื่อนฉัน เรามีเพื่อนคนเดียวกันน่ะ”

“เวอร์ไป...โลกกลมไปป่ะ? งั้นแสดงว่าที่นายรู้เรื่องของฉันมันก็เป็นเพราะลิปดาไปเล่าให้นายฟังน่ะสิ!” หญิงสาวพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว

“เปล่า” เขาเอ่ยตอบ ก่อนที่จะดับบุหรี่ทิ้งแล้วเดินลงมานั่งข้างๆหญิงสาวตามเดิม

“ถ้าไม่ใช่ลิปดาเป็นคนเล่า แล้วนายรู้เรื่องของฉันได้ยังไง?” ขณะที่เฌอร์กำลังพยายามหามคำตอบ เธอก็นึกย้อนไปยังคืนนั้น คืนที่เธอสลบไปแล้วตื่นขึ้นมาในห้องของใครก็ไม่รู้ ก่อนที่จะออกมาเจอลิปดาที่ลิฟต์ แล้วลิปดาก็ถามถึงเพื่อนของเขา

“เดี๋ยวนะ...วิน...เหรอ?” เสียงครวญครางที่ปลุกให้เธอตื่นจากการสลบดังขึ้นมาในหัว...

“อะไรของเธอ?”

“นาวิน! งั้นนายก็คือ...ว่าแล้ว! ถึงว่าทำไมฉันถึงได้คุ้นหน้านายนัก...ที่แท้นายก็คือผู้ชายที่นัวกับผู้หญิงในลิฟต์! นายคือ...เจ้าของเสียงครางในห้องนอนนั่นน่ะสิ! อี๋! จะอ้วก!” พอนึกขึ้นมาได้ หมอเฌอร์ก็ทำหน้าตาขยะแขยงชายหนุ่ม

“เห้ย! ต้องรังเกียจฉันขนาดนั้นเลยดิ?! อย่าทำเหมือนว่าเธอไม่เคย...เซ็กส์มันเป็นเรื่องธรรมชาติป่ะวะ?” นาวินรีบแก้ต่างให้ตัวเอง

“ก็ไม่เคยน่ะสิ! และถึงเซ็กส์จะเป็นเรื่องธรรมชาติ! แต่การที่นายเล่นจ้ำจี้กันในห้องที่มีคนอื่นอยู่ด้วยมันผิดปกติ! นายรู้ไหมว่าเสียงครางของพวกนายสองคนมันสยิวจนติดหูฉันมาถึงตอนนี้เลย!” ทันทีที่หมอเฌอร์เอ่ยคำว่าไม่เคยออกไป นาวินก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลยหลังจากนั้น เขาเพียงแค่ไม่เชื่อว่าเธอไม่เคยกับเรื่องอย่างว่า เพราะเธอมีแฟนที่คบกันมานานถึงสองปี แต่ก็นึกหาคำตอบไม่ได้ว่าเธอจะโกหกเขาไปเพื่ออะไร

“...”

“ทำไมนายเงียบ? แล้วแฟนนายไปอยู่ไหน? นี่ถ้าเขารู้ว่านายมาดื่มกับฉันจะเป็นเรื่องหรือเปล่า? บอกไว้ก่อนนะว่าอย่าดึงฉันเข้าไปวุ่นวายกับแฟนนายเด็ดขาด”

“ฉันไม่มีแฟน ไม่เคยคบใครมาก่อน” นาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“แล้วผู้หญิงในลิฟต์นั่นล่ะ? เขาไม่ใช่แฟนนายเหรอ?”

“ไม่ใช่”

“งั้นแสดงว่านายสามารถนอนกับใครก็ได้ที่ไม่จำเป็นต้องคบเป็นแฟน...นายเป็นประเภทเอาไปทั่ว...ใช่ไหม?” อยู่ๆหมอเฌอร์ก็รู้สึกรังเกียจนาวินขึ้นมา

“ฉันสามารถนอนกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟน แต่ฉันไม่ได้เอาไปทั่ว...ฉันไม่เอาแฟนคนอื่น และฉันก็ไม่เคยนอกใจคนที่ฉันรัก อย่าเหมารวม...ฉันไม่เหมือนกับแฟนเธอหรอก” นาวินมองหน้าเฌอร์อย่างไม่วางตา

“แฟนเก่าย่ะ!”

“นั่นแหละ...ฉันไม่เหมือนกับเขา เพราะงั้นเธอไว้ใจฉันได้” ดูเหมือนว่านาวินจะพยายามบอกอะไรกับหมอเฌอร์ ทว่าคนฟังไม่เข้าใจ

“จะไม่เหมือนได้ยังไง...นายอย่าพยายามยกตัวให้สูงกว่าธันวาเลย เพราะเอาไปทั่วก็คือเอาไปทั่ว มันเหมือนกันนั่นแหละ...ประเด็นคือนายสามารถเอากับใครก็ได้ แค่คลำแล้วไม่เจอหางก็เป็นพอ” เพราะหญิงสาวเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ เอาไม่เลือกเป็นสุด เธอเลยหลุดปากต่อว่าเขาไป

“มากไปเฌอร์มารี! อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ยังไม่ได้เอาเธอ นั่นแปลว่า...ฉันไม่ได้เอาไม่เลือกแน่ๆ” นาวินทำเสียงดุ

“เหอะ! เหลือเชื่อเลย...ฉันไม่เข้าใจจริงๆ คนเราคิดอะไรอยู่ ถึงได้นอนกับใครก็ได้โดยปราศจากความรัก!” แม้เธอจะเรียนเรื่องระบบในร่างกายมาเป็นอย่างดี ว่าการสืบพันธุ์นั้นไม่เกี่ยวกับความรัก แต่เธอก็ไม่อยากจะเข้าใจจริงๆ

“แล้วเธอรักแฟนเธอไหมล่ะ?” นาวินจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวอย่างจริงจัง

“ถามทำไม?!”

“ตอบมา...ว่าเธอรักไอ้ดารานั่นหรือเปล่า?”

“เคย! ตอนนี้ไม่ได้รักแล้ว”

“แสดงว่าตอนที่คบกันเธอรักมัน...แล้วทำไมไม่เคยเอากับมันล่ะ ถ้าเธอจะบอกว่าเซ็กส์มันเกี่ยวกับรัก” นาวินหรี่ตามองหญิงสาว

“ถ้าจะเถียงกันเรื่องนี้...ฉันว่าชาตินี้เราเถียงกันไม่จบหรอก เราความเชื่อของนายกับฉันมันไปกันคนละทางเลย...” หญิงสาวส่ายหน้า

“เธอตอบฉันไม่ได้ล่ะสิ ก็เลยคิดจะเลี่ยง”

“ไม่ใช่สักหน่อย!”

“งั้นก็ตอบมาสิ! ว่าถ้าเธอรักไอ้นั่นและทำไมถึงไม่เคยนอนกับมัน ทั้งๆที่คบกันมาตั้งสองปี”

“ก็เพราะฉันไม่ได้รักเขามากขนาดนั้นน่ะสิ! เราคบกันสองปีก็จริง...แต่เราแทบไม่ได้เจอกันเลย กินข้าวกันนับครั้งได้ แล้วฉันก็ไม่พร้อมน่ะ...จริงอยู่ที่มันก็แค่เซ็กส์...อธิบายไปนายก็คงไม่เข้าใจหรอก แต่มองหน้าเขาแล้ว...ฉันคิดว่าแค่นอนกอดกันหรือแค่จับมือก็พอ” สุดท้ายเฌอร์ก็ยอมบอกความคิดของตัวเอง

“ฮ่ะๆๆๆ” แล้วนาวินก็หัวเราะออกมา

“ตลกบ้าอะไรของนาย นี่ฉันจริงจังอยู่นะ”

“ก็เพราะเธอคิดแบบนั้นไง...ไอ้เหี้ยนั่นถึงได้นอกใจเธอไปเอาคนอื่น เพราะชายหญิงมันต่างกัน...ผู้ชายมีความต้องการนะเธอ...มันต้องมีที่ลงกันบ้าง ในเมื่อแฟนไม่ให้เอา มันก็ต้องไปเอาคนอื่น ถ้าลองไม่เอาเธอ...แล้วก็ไม่เอาใครเลย...ไอ้ดารานั่นมันคงเป็นพวกตายด้าน”

“นี่จะบอกว่าที่เขานอกใจฉัน มันเป็นความผิดของฉันงั้นเหรอ?” หมอเฌอร์เริ่มจะไม่พอใจขึ้นมา

“ใจเย็น...เธอไม่ได้ผิด ไอ้เหี้ยนั่นแหละที่ผิด...มันไม่ยับยั้งชั่งใจ และก็คงรักเธอไม่มากพอเหมือนกัน มันเลยทนรอวันที่เธอพร้อมไม่ได้” นาวินพยายามอธิบาย

“แล้วถ้าเป็นนายล่ะ? นายจะทำยังไง...ถ้าแฟนไม่ให้เอา นายจะนอกใจหรือเปล่า?”

“บอกแล้วไงว่าฉันไม่เคยมีแฟน ฉันตอบคำถามเธอไม่ได้หรอก”

“ก็ลองสมมติว่านายมีแฟนดูสิ” พอหญิงสาวตื๊อที่จะเอาคำตอบ ชายหนุ่มก็คิดตาม ก่อนที่จะเขากระดกเบียร์จนหมดกระป๋องแล้วกันมาสบตาเธอนิ่ง

“ถ้าฉันมีแฟน หรือมีคนที่ฉันกล้าพูดออกมาว่ารักเขา ฉันจะไม่สนผู้หญิงคนอื่นอีก...เพราะฉันจะมองแค่คนที่ฉันรักเท่านั้น หรือต่อให้คนที่ฉันรักไม่พร้อม...แบบเธอ...ฉันก็จะทนรอ...ต่อให้ต้องรอไปถึงสิบปีฉันก็รอได้ เพราะฉันรักเขา”

“...” หมอเฌอร์นิ่งไป ทั้งสายตาและคำพูดของเขามันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายเธอต้องเลี่ยงสายตาของเขาแล้วมองไปทางอื่น

“หึ!” นาวินแสยะยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาว

“ละ...แล้วนายจะทนความต้องการของตัวเองได้ยังไง?” เธอถามแก้เขิน

“นี่ไง...มีมือก็ใช้ไปสิ” ชายหนุ่มยื่นมือหนาไปตรงหน้าหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม

“อิวววว์! ฮ่ะๆๆๆๆ” แล้วหญิงสาวก็หัวเราะออกมา

“คราวนี้เธอจะเชื่อหรือยัง...ที่จริงเธอเป็นหมอน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใครนะ ว่าเซ็กส์น่ะมันเป็นเรื่องของร่างกายกับความต้องการ ไม่ต้องมีความรักมาเกี่ยวก็อยากได้...เพียงแค่ฮอร์โมนหลั่ง มันเรียกฮอร์โมนอะไรนะคุณหมอ?”

“เทสโทสเตอโรนกับเอสโตรเจน”

“นั่นไง...แค่ฮอร์โมนหลั่งเอง”

“นายก็พูดแบบพวกเห็นแก่ได้ นายเคยได้ยินฮอร์โมนที่ชื่อออกซิโตซินหรือเปล่า? มันคือ ฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความผูกพัน เวลาที่มีการกอด การสัมผัสหรือการมีเซ็กส์ สมองหลั่งออกซิโตซินมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ เราจะรู้สึกผูกพัน รัก เข้าอกเข้าใจ มีความรักเดียวใจเดียว...ไม่นอกใจน่ะ นั่นแปลว่า...ถ้าเกิดผู้หญิงคนหนึ่งให้เซ็กส์กับใครสักคน ออกซิโตตินจะหลั่งออกมา และเธอก็จะรักเขา”

“งั้นก็แปลว่าคืนนี้ถ้าฉันกับเธอเอากัน...พรุ่งนี้ตื่นมาเธอจะรักฉัน อย่างนั้นสินะ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงท้าทาย

“ตลกละ! ใครจะไปรักนาย...?”

“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไง? เธอจะเอาอะไรมาพิสูจน์ว่าคำพูดของเธอเป็นจริง...” นาวินเพียงต้องการจะกวนประสาทหญิงสาว

“มันพิสูจน์มาแล้วทางการแพทย์ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย!” ทว่าคุณหมอสาวกับแสดงท่าทีเขินอายออกมา

“หลบตาฉันทำไม? ทำเหมือนว่าเธอเขินฉันอยู่อย่างนั้นแหละ?” ยิ่งแกล้งแล้วได้เห็นเธอเขินเขาก็ยิ่งชอบใจขึ้นมา

“เขินบ้างอะไรล่ะ?!”

“งั้นก็มองตาฉันสิ...เธอกล้าสู้ตาฉันหรือเปล่าเฌอร์มารี...” เขายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้เธอ เอื้อมมือไปกุมใบหน้างามนั้นให้เงยขึ้นมาสบตาเขา

“นะ...นายจะทำอะไร?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ยอมสบตาเขาตามที่เขาต้องการ

“เธอบอกว่าออกซิโตซินจะหลั่งเมื่อมีการสัมผัสอย่างนั้นใช่ไหม?”

“อืม”

“ฉันอยากจะลองสัมผัสเธอดูหน่อย...อยากรู้จริงๆว่าแค่จูบ...มันจะทำให้คนเรารักกันได้จริงๆหรือเปล่า”

“อื้อ!”

แล้วชายหนุ่มก็ประทับจูบหนักแน่นลงที่เรียวปากสวยได้รูปของหญิงสาว เขาใช้จังหวะอันรวดเร็ว ช่วงชิงจูบเธอมาครอบครอง สอดลิ้นเข้าโพรงปากเธออย่างหนักหน่วง...กอบโกยทุกสิ่งมาอย่างชำนาญการ

“ฮึก!”

หมอเฌอร์นิ่วหน้ามองชายหนุ่มอย่างสับสน เมื่อเขายอมถอนจูบ

“เป็นไง? รักฉันหรือยัง?” เขายกยิ้มร้าย

“ไม่” เธอตอบเสียงกระเส่า

“งั้นคงต้องลองอีกครั้งแล้วล่ะ...” ว่าแล้วเขาก็กระหน่ำจูบเธออีกครั้งในรูปแบบที่เร่าร้อนมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel