บท
ตั้งค่า

2

“เปล่าลูก.....ลูกปริมของพ่อไม่ได้ทำอะไรผิดเลยครับแค่ถามเกินเด็กไปนิดเดียวเอง” คุณชายปฐวีผู้แพ้น้ำตาลูกสาวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดโอบกอดปลอบขวัญในขณะที่ลูกสาวตัวแสบเอื้อมแขนป้อม ๆ มากอดลำคอแกร่ง ซบหน้าอยู่กับบ่าผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน.......ภาพพ่อลูกกอดกันกลมทำให้คนเป็นแม่อย่างบัวบูชาต้องส่ายหน้าเพราะเห็นจนชินตาจนไม่ซึ้ง.......บ้านนี้ไม่มีใครแสบเกินหนูปริมอีกแล้ว ช่างเอาตัวรอดเก่งเหลือเกินคนเป็นพ่อก็ช่างกระไรตามใจกันเข้าไปพอกับตาปกตาป้องพี่ชายฝาแฝดที่มักจะออกรับแทนน้องน้อยเป็นประจำ...ไม่รู้เป็นอะไรกันหมดผู้ชายบ้านนี้แพ้ทางหนูปริมกันหมด......แม่บัวจึงต้องคอยปรามกลายเป็นนางยักษ์อยู่คนเดียว.......

“วันนี้พี่ภูไม่ไปเที่ยวที่ไหนเหรอคะ” บัวบูชาชวนชายหนุ่มคุย หล่อนสังเกตเห็นว่ามารอบนี้อีกฝ่ายหน้าตาท่าทางหม่นหมองชอบกลแต่ก็ไม่กล้าถามละลาบละล้วงถึงแม้จะค่อนข้างสนิทกันแต่เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัวอยู่ดี

“ไม่ล่ะ.....พี่ว่าจะกลับเลยดีกว่าไม่รู้จะอยู่ทำไม” หางเสียงแผ่วเศร้าแต่คงไม่มีใครทันสังเกต

“ตาภู...ไหนว่าจะกลับพรุ่งนี้ยังไงล่ะจ๊ะ” หม่อมเนื้อทองเดินเข้ามาในห้องทันได้ยินหลานชายพูดว่าจะกลับพอดี

“ไม่มีธุระอะไรแล้วนี่ครับหม่อมป้าผมก็เลยคิดว่าจะกลับไปทำงานดีกว่าครับ”

“หืม....ออก มาทั้งทีป้านึกว่าเราจะใช้เวลาอยู่กับคุณหญิงนาน ๆ เสียอีก”

“เจอกันแล้วครับ” เขาตอบสั้น ๆ ไม่ได้ขยายความใด ๆ ผู้สูงวัยอาจจะไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ

“กลับพรุ่งนี้ไม่ได้หรือจ๊ะตาภู ป้าตั้งใจจะฝากลูกสาวพรานบุญมีให้กลับไปด้วยเสียหน่อย”

“งั้นก็ได้ครับ ว่าแต่พรานบุญมี มีลูกสาวด้วยหรือครับ” ชายหนุ่มนึกถึงพรานฝีมือดีที่สุดในปางไม้รู้สึกสงสัยอะไรบางอย่างแต่ก็เลือกที่จะนิ่งเสียไม่เห็นความจำเป็นที่เขาจะเข้าไปสอดเรื่องนั้น

“จ้ะ...เรียนจบมอห้าแล้วด้วยนะชื่อกอหญ้า เสียดายป้าชวนให้เรียนต่อหรืออยู่ทำงานที่นี่ก็ไม่ยอมบอกว่าห่วงพ่อกลัวว่าจะไม่มีใครดูแลก็เลยขอไปทำงานที่โน่น.....ว่าแต่ภูช่วยหางานในสำนักงานให้น้องด้วยนะจ๊ะ” หม่อมเนื้อทองถือโอกาสฝากฝังเสร็จสรรพ ยังไงท่านก็เอ็นดูเด็กสาวไม่น้อยเสียดายที่หลานชายมีคนในใจแล้วจึงไม่อยากจับคู่ให้อีก ความจริงกอหญ้าก็ดูเข้าทีแถมยังชอบอยู่ป่าเหมือนกันอีกต่างหาก...แต่...เฮ้อ..หม่อมเนื้อทองจำต้องปัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกไปเพราะมันเป็นไปไม่ได้....

“ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้น ๆ แล้วก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกเพราะหม่อมเนื้อทองชวนทุกคนไปที่ห้องอาหาร

บริเวณสวนครัวด้านหลัง

หลังจากกอหญ้าขวัญกระเจิงลงมาจากห้องของผู้ชายขนดกอย่างกับหมีแล้วก็ต้องมานั่งลูบหน้าลูบตาใจเต้นไม่เป็นส่ำยังทำให้เป็นปกติไม่ได้จึงต้องหลบมานั่งตรงนี้.....หล่อนถูกส่งไปเรียนในโรงเรียนประจำหญิงล้วนตั้งแต่โตเป็นสาวไม่เคยได้เห็นสรีระของผู้ชายชัดๆ แบบนี้สักครั้งภาพนั้นยังติดตาอยู่เลย....โอย...จะลบออกยังไงดีวะ คิดไปคิดมาหล่อนก็ลุกไปที่โอ่งน้ำ

“จ๊ะเอ๋....พี่หญ้า” เด็กหญิงเดินหาพี่สาวคนใหม่ถึงแม้จะเพิ่งเจอกันไม่นานแต่ก็รู้สึกชอบที่จะมาขลุกอยู่ด้วยเป็นประจำ อาจจะเพราะนิสัยแก่น ๆ ลุย ๆ ไม่ได้เรียบร้อยเนิบนาบจึงถูกใจหนูปริมยิ่งนัก ไม่ว่าจะปีนต้นไม้ กระโดดน้ำพี่หญ้าทำได้หมด

“ว้าย ! น้องปริม” กอหญ้าใช้ขันตักน้ำฝนในโอ่งดินขึ้นมากำลังจะล้างตาหวังลบภาพอุจาดและด้วยความใจลอยจึงตกใจจนขันหลุดมือดังอิโล้งโช้งเช้งไปหมด

“โอ๋ ๆ ๆ ขวัญเอ๋ยขวัญมาน๊าค๊า.........” เรือนร่างอวบของเด็กหญิงวิ่งเข้าไปโอบกอดพี่สาวคนเก่งด้วยแขนป้อม ๆ ทั้งสองข้างพลางเอ่ยอย่างที่ตัวเองได้รับการปลอบจากผู้ใหญ่บ่อย ๆ

“พี่หญ้าหายแล้วจ้ะ น้องปริมมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“คิดถึงพี่หญ้า” เด็กน้อยกอดพี่กอหญ้าของหล่อนแน่น ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเจอกันไม่นาน แต่เด็กหญิงก็ถูกชะตารู้สึกผูกพันกับอีกฝ่ายเหลือเกิน

“อ้าว !...พี่หญ้าก็อยู่ตรงนี้ไงคะน้องปริม” หญิงสาวนั่งยองๆ หอมแก้มยุ้ย ๆ อย่างรักใคร่

“พรุ่งนี้พี่หญ้าก็จะไปแล้ว ไม่ไปไม่ได้หรอคะ” หนูปริมพูดเสียงเครือน้ำตาคลอเบ้าลองใช้มุขเก่าเผื่อจะยื้อพี่สาวเอาไว้ได้

“พี่หญ้าต้องกลับบ้านค่ะ”

“หนูปริมไปด้วยนะคะ”

“ที่นั่นลำบากมากนะคะ ไม่สะดวกสบายเหมือนที่นี่ ไม่สนุกหรอกค่ะน้องปริม” ถ้าหล่อนสามารถพาเด็กน้อยไปด้วยได้ ทำไมจะไม่อยากพาไป น้องปริมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ใครไม่รักไม่หลงก็บ้าแล้ว

“จริงหรอคะ.....แต่อาภูก็ยังชอบอยู่ที่นั่นเลยนี่คะ.......” หนูปริมเห็นคนเป็นอานาน ๆ จะออกจากที่นั่นมาสักครั้ง แถมยังเคยเล่าเรื่องช้างเรื่องลิงในป่าอีกต่างหาก

“หะ...ห๊ะ...คุณภูผาอยู่ที่โน่นหรือคะน้องปริม” หญิงสาวตกใจหน้าตาตื่น กอหญ้าไม่รู้มาก่อนเพราะตอนที่หล่อนจากมาเมื่อหลายปีก่อนก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ที่นั่น หล่อนเพิ่งจะได้เจอเขาเมื่อเช้านี้เองรู้แต่ว่าเป็นหลานของท่านเจ้าสัว....ตาย ๆ ๆ ตายแน่ไอ้หญ้า…...ดันไปโกหกเขาไว้อีก...ไม่ใช่สิเขาเข้าใจไปเองต่างหากหญิงสาวปลอบใจตัวเอง

“ค่า......น้องปริมเคยได้ยินคุณพ่อบอกว่าอาภูอยู่กับช้างส๊วยสวย ค่า....” หนูน้อยช่างจดช่างจำเก็บเอาคำที่ผู้ใหญ่แซวกันมาคิดเป็นจริงเป็นจัง

“เอ่อ....ขนาดนั้นเลยหรือคะ” หญิงสาวรู้สึกลำคอตีบตันกลืนน้ำลายลำบากขึ้นมาทันที.....หวังว่าคงไม่ต้องเจอกันบ่อยหรอกกระมังพรุ่งนี้หล่อนก็จะกลับแล้วยังมีเวลาไปตั้งหลักอีกหลายวัน เผลอ ๆ เจอกันอีกครั้งเขาอาจจะจำเรื่องไอ้หนูกะเทยนั่นไม่ได้แล้ว....เฮ้อ ! อย่าคิดมากน่า......

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel