ปรนนิบัติรับใช้ยามค่ำคืน
ทว่าก็มิมีชุดใดที่ซับซ้อนเช่นชุดที่อยู่ตรงหน้าหยางซีผิงเลย
สุดท้ายด้วยคำสั่งสอนของบิดาว่าอย่าทำสิ่งใดชักช้า
การให้ผู้ใหญ่รอเป็นการกระทำไร้มารยาทอย่างหนึ่ง ฉะนั้น
หยางซีผิงจึงตัดสินใจหลับตาหยิบชุดเหล่านั้นมาสวมตามความคิดของตนเอง
พอสวมใส่เสร็จก็ก้าวเท้าออกมาอย่างมั่นใจ
“ว้าย ตาเถร เจ้าทำสิ่งใดของเจ้าหรือ”
“ชุดเหล่านี้งดงามยิ่ง ทว่าข้ามันเด็กบ้านป่าคงมิเหมาะกับชุดเหล่านี้” หยางซีผิงดวงตาใสแจ๋ว บนใบหน้าขาวผ่องอาจมิขาวบริสุทธดั่งหิมะเหมือนสตรีในวังทว่าพอได้ขัดถูสักเล็กน้อย สตรีผู้นี้นับว่างดงามไม่แพ้ใครเชียวแหละ
งามแต่ประหลาด
มีใครที่ไหนเอาเสื้อตัวนอกสุดใส่ไว้ข้างใน สวมเสื้อตัวในเอาไว้ข้างนอกเช่นนี้บ้าง แล้วนั่นเอาสายคาดเอวชั้นที่สองไปพาดไหล่เช่นนั้นอีก....หัวหน้าสาวใช้เช่นอู๋ชิวอิ่งส่ายศีรษะปวดหัวยิ่ง
ดีนะเพลานี้ยามห้าย ท่านอ๋องไม่ออกมาจากห้องนอนอย่างแน่นอน ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงว่าพระองค์จะพาตนเองโฉบมาที่นี่ แม้ว่าใครต่างก็เข้าใจว่าหยางซีผิงเข้ามาอยู่ในวังในฐานะสตรีของท่านอ๋อง ทว่าคนใน คนเก่า คนแก่เช่นหัวหน้าสาวใช้อย่างอู่ชิวอิ่งย่อมรู้ดีว่า สตรีในวังมีเป็นร้อย มีเพียงไม่ถึงสิบคนที่ท่านอ๋องเดินเข้าออกเรือนพวกนางอย่างแท้จริง
สตรีหน้าตาผู้นี้แม้งดงามทว่ามิได้งามล้ำโดดเด่นขนาดทำให้ท่านอ๋องเสียเวลามาเยี่ยมเยือน
และนี่คือความคิดของอู๋ชิวอิ่ง
“ท่านอ๋องสามเสด็จตำหนักจวี๋ฮวา”
ตำหนักจวี๋ฮวา? นั่นมิใช่ตำหนักนี้หรอกหรือ
อู๋ชิวอิ่งรีบร้อนเดินเร็วออกไปต้อนรับเจ้านายของตน โดยไม่ลืมดึงมือของหยางซีผิงที่กำลังทำหน้าเหวอขณะเดินตามแรงลากของหญิงชรา
ท่านอ๋องมาแถวนี้? ว่าแต่ตำหนักจวี๋ฮวาคือตรงไหน?
คนที่บังเกิดความงงงวยยิ่งกว่าคือหยางซีผิงที่แม้กระทั่งชื่อตำหนักของตนเองยังไม่รู้
ตอนเดินออกมา นางแทบสะดุดชายชุดยาวลากพื้นของตนเองขณะโดนลากให้ออกไปนอกห้องนอน
พอเดินออกมาเห็นบุรุษร่างสูงในชุดนอนสีม่วงเข็มขลิบทองอร่าม ขอบเสื้อตรงหน้าอกแหวกออกเผยลอนกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง เส้นผมยาวสลวยยาวถึงกลางหลังปล่อยสบาย ยามมีสายลมพัดผ่านมาจึงปลิวไสว ช่างเป็นภาพงดงามอันสมบูรณ์แบบเสียนี่กระไร
ท่านอ๋องเหลียงซือห้าว เจ้านายคนใหม่ของหยางซีผิงนั่นเอง
ดวงตาเลื่อมใสราวกับเด็กน้อยมองชื่นชมอาจารย์ของตนเอง ทำให้เหลียงซือห้าวที่กำลังจ้องมองอยู่รู้สึกพึงพอใจ
ในสายตาเขา ดวงตาเจิดจ้าเช่นนั้น เขาคิดว่าอีกฝ่ายคิดชื่นชมร่างกายอันสมบูรณ์แบบของตนเองอยู่
หยางซีผิงเห็นคนอื่นยืนเรียงก้มหน้าอยู่หน้าประตูเรือนของตน นางมิอยากผิดแผกจากพวกเขา นางจึงยกลากชุดเกะกะของตนไปยืนเรียงต่อแถวข้างกายสาวใช้ตัวน้อยคนหนึ่ง
“...”
“ทะ ท่านพยางซีผิง ทำสิ่งใดนั่น!”
“...” หยางซีผิงเงยหน้าเผยดวงตาใสซื่อหันมามองมองหัวหน้าสาวใช้ที่อยากจะบ้าตาย
“ขออภัยท่านอ๋อง แม่นางหยางซีผิงเป็นสตรีชาวบ้านธรรมดา นางมิเคยเข้าวังมาก่อนจึงมิรู้ความ หากวันนี้ให้แม่นางปฏิบัติรับใช้ท่านอ๋อง เกรงว่าจะสร้างความวุ่นวะ...วาย”
“ข้าทำได้ ขออภัยเพคะ หม่อมฉันทำได้ หม่อมฉันต้องการจะปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋อง”
พอหัวหน้าสาวใช้พูดว่า ‘ปรนนิบัติรับใช้’ มีหรือโอกาสได้ทำงานรับใช้ผู้มีพระคุณเช่นนี้ หยางซีผิงมิไขว่คว้าเอาไว้ ดังนั้นนางจึงร้อนรนตะโกนโพล่งออกมา
ข้ารับใช้ทั้งชายและหญิงที่ยืนอยู่บริเวณนั้นจึงพากันตกใจกันเป็นแถบ ใบหน้าหลายคนรู้ความหมายของคำว่า ‘ปรนนิบัติรับใช้’ ยามค่ำคืนเป็นอย่างดีก็พากันหน้าแดงระเรื่อราวกับมะเขือเทศสุก
ทว่าสตรีผู้เป็นเจ้าของคำพูดกับไร้ซึ่งความเขินอายใดใดทั้งสิ้น
“เจ้าปรารถนาปรนนิบัติรับใช้ข้าขนาดนั้นเลยหรือ?” เหลียงซือห้าวหรี่ตาทรงเสน่ห์ของตนมองสตรีเจ้าของวาจาตรงไปตรงมา เขาผู้นี้เพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก
สตรีแปลกประหลาด....
“แน่นอนเพคะ หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่ กินข้าว ใช้ของโดยมิทำงานทำการได้อย่างไร เพียงท่านอ๋องต้องการสิ่งใดบอกหม่อมฉันได้เลยเพคะ หม่อมฉันยินดีปฏิบัติตาม”
ดวงหน้าบริสุทธผุดผ่อง รอยยิ้มซื่อตรงจริงใจทำให้หัวหน้าสาวใช้ที่นับว่าอยู่ด้วยกันกับสตรีผู้นี้มากที่สุดหากเทียบกับคนที่นี่ นางย่อมคาดเดาได้ว่า
คำว่า ‘ปรนนิบัติรับใช้’ ของนางกับของคนที่นี่มิได้มีความหมายเหมือนกันเลยสักนิด
หายนะบังเกิดแน่
หากผู้อาวุโสเช่นนางที่รู้ว่ามีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นจึงได้พูดออกมาเช่นนี้ รู้แล้วยังปล่อยให้เรื่องราวดำเนินต่อไป นั่นอาจเป็นการสร้างเรื่องวุ่นวายให้ท่านอ๋องมิใช่หรือ
หัวหน้าสาวใช้ชราหมายมั่นปั้นมือว่าจะคัดค้านทว่านางยังมิท่านได้มีโอกาสเอ่ย ฝ่ามือแข็งแกร่งของเหลียงซือห้าวก็ยกขึ้นมาปรามดักมิให้ใครพูดสิ่งใดออกมา
รอยยิ้มมุมปากที่นาน ๆ ครั้งถูกนำมาใช้งาน แววตานึกสนุกราวกับได้ของเล่นใหม่ทำให้หัวหน้าสาวใช้มิกล้าเอ่ยต่อ นางทำได้เพียงก้มหน้าลงยอมรับชะตากรรม
“เช่นนั้นวันนี้ข้าพักที่ตำหนักเจ้าเพื่อให้เจ้าได้‘ปรนนิบัติรับใช้’ ข้า ได้สมปรารถนาก็แล้วกัน พวกเจ้ามิต้องเฝ้าแยกย้ายกลับเรือนไปได้เลย”
หยางซีผิงได้ยินเช่นนั้นราวกับมีพวงหางส่ายระริก และมีหูตั้งผึ่ง นางทั้งดีใจและตื่นเต้นยิ่งนักที่จะได้รับใช้ผู้มีพระคุณของตนตั้งแต่วันแรกที่นางเข้ามาในวังแห่งนี้
