บท
ตั้งค่า

เจ็บ!!

“อืม”

ริมฝีปากเล็กที่พ่นคำด่าหยาบคายเมื่อครู่ ถูกครอบครองด้วยความรุนแรง อ่อนหวานและเอาแต่ใจ ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปในโพรงปาก บังคับให้ลิ้นเล็กเกี่ยวรัดกันไปมาอย่างที่เธอชอบทำ ดึงรั้งเส้นผมสีสวยเบาๆ เพื่อให้เธอแหงนเงยรับจูบของเขาได้ถนัดถนี่

“อย่าเรียกชื่อผู้ชายคนอื่นต่อหน้าฉัน ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใคร”

“อืม เจ็บ” มือเล็กดึงมือที่กำลังดึงรั้งเส้นผมของเธอออก หยดน้ำเกาะพราวทำให้เส้นผมเปียกชุ่มบางส่วนปิดบังดวงตาเธออยู่ ไม่รู้เลยว่าคนที่ทำอย่างนี้คือใคร แต่น้ำเสียงนั้นคุ้นเคยชะมัด จนเธออยากมองชัดๆว่าใช่คนที่ใจต้องการหรือเปล่า

“เลิกบ้าก่อน แล้วจะปล่อย”

“ฮึก เจ็บ เฮีย มิวเจ็บ” น้ำเสียงสั่นเครือทำให้มือหนาคลายออกนิดๆ แต่ก็ยังไม่ปล่อยเส้นผมสีชมพูสวยที่เขาดึงรั้งมันอยู่ เขาต้องการทำให้เธอมีสติมากที่สุด ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม และการทำให้เธอเจ็บ น่าจะเรียกสติเธอได้ดีกว่าวิธีอื่น

“มีสติขึ้นมาบ้างหรือยัง”

“อือ ปล่อยได้แล้ว คุณภีม ฉันเจ็บ ” อมิตาใช้มือปัดเส้นผมเปียกน้ำออกไปจากใบหน้า ถึงจะไม่มีสติเต็มร้อย แต่คนตรงหน้าคือเขาจริงๆไม่ใช่ความฝัน ไม่รู้เขามาได้ยังไง แต่เธอไม่ได้รู้สึกดีใจสักนิด ที่เจอกับเขาในสภาพแบบนี้

“ฉันหนาว คุณช่วยออกไปก่อนได้ไหม”

น้ำเสียงแห่บพร่าของเธอ ไม่ได้ช่วยให้มือนั้นปล่อยเธอให้เป็นอิสระเลย อมิตาไล้สายตาลงมองตามร่างกายตัวเอง ที่สายตาเขามองอยู่ คดคู้ร่างกายมากขึ้น เมื่อผมยาวสลวยของเธอปิดบังร่างกายเปลือยเปล่าไว้ไม่หมด

ภาพเส้นผมสีชมพูสวยกระจัดกระจายเต็มอ่างน้ำ ปิดบังเรือนร่างเธอได้เพียงน้อยนิด ทำให้ภิภพมองเห็นร่างกายเธอได้ชัดเจน รอยแดงที่ไอ้นั่นทำ มีเยอะจนเขารู้สึกหงุดหงิด ท่าทางของเธอตอนนี้ก็ด้วย ที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ

“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกมาคุยกัน ว่าเธอจะเอายังไงกับ เรื่องนี้” ภิภพเดินออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำสีชมพู วางมันไว้ที่อ่างล้างหน้า เดินออกไปนั่งรอเธอที่โซฟาเงียบๆ

อมิตาลุกขึ้นจากอ่างด้วยความยากลำบาก ร่างกายสั่นระริกเพราะพิษจากน้ำเย็นที่ราดทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไหนจะฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไปอีก จึงใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะออกมาหาคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาได้

“เธอรู้จักไอ้นั่นไหม”

“หมายถึงคนที่ทำรอยพวกนี้เหรอ” อมิตาเสมองไปทางอื่น เช็ดผมที่เปียกชุ่มเบาๆอย่างเก้อเขิน รู้สึกกระอักกระอวนนิดๆที่ต้องมาคุยเรื่องแบบนี้กับคนที่เลิกรากันไปแล้ว

“ฉันจำหน้ามันได้ และคงเป็นคนในคอนโดนี่แหละ ไม่งั้นยามไม่มีทางให้คนนอกเข้ามาได้แน่ จะแจ้งความไหม ฉันจะไปเป็นพยานให้”

“ไม่ได้ ฉันจะจัดการเอง ขอบคุณที่หวังดี แต่ให้มันจบแค่นี้แหละ”

ถ้าแจ้งความมีหวังชื่อเสียของเธอได้ผุดขึ้นมาอีกเยอะแน่ๆ เธอถูกพ่อคุมความประพฤติอยู่ เรื่องที่เธอหลอกท่านว่าคบหาดูใจกับศิวะ ทั้งๆที่ความเป็นจริงเธอมีความสัมพันธ์กับเลขาคนสนิทของเขาแทน ท่านไม่พอใจมากหาว่าเธอใฝ่ต่ำ สั่งคุมความประพฤติเธอขั้นเด็ดขาดไม่ให้เธอก่อเรื่อง ถ้าเธอก่อเรื่องอีกจะสั่งตัดเงินทุนทั้งหมดและส่งตัวออกไปอยู่นอกประเทศ เธอไม่กล้าทำอะไรที่เสี่ยงสร้างชื่อเสียให้ตัวเองหรอก

“เธอจะปล่อยให้ผู้ชายที่เกือบจะข่มขืนตัวเองรอด”

เธอเดาอารมณ์เขาไม่ออกเลย ว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง จึงพยักหน้าขึ้นลงเป็นคำตอบ ไม่ใช่ว่ายินดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ แต่ผู้ชายคนนั้นน่าจะเส้นใหญ่พอสมควร เพราะถ้าไม่ใช่คนในนี้ ไม่มีทางที่รปภ.ปล่อยให้เข้ามาได้แน่ ถ้าไม่โทรแจ้งเธอก่อน และคนที่อยู่ในคอนโดนี้ทั้งหมด มีแต่ลูกหลานคนรวยทั้งนั้น

“เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรนี่นา เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

“ถ้าฉันมาไม่ทันคิดบ้างไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น คิดว่าจะได้มานั่งอยู่ในสภาพนี้ไหม เธอนี่มัน … ช่วยบ้าให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ”

ภิภพพูดอย่างเหลืออด เธอเป็นผู้เสียหายเธอต้องแจ้งความเองถึงจะสามารถเอาผิดไอ้นั่นได้ ส่วนเขาถ้ามันไม่หยุดเข้าหาเธอ เขาจะส่งคนไปจัดการมันทีหลัง

“เห้อ! พูดไปใครจะเชื่อคนเมาแบบฉันละ คนเขาคงคิดว่าฉันให้ท่าผู้ชายอยู่ดีนั่นแหละ ปล่อยไปเหอะ ฉันไม่อยากมีเรื่อง”

อมิตาลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมส่งแขก อยู่กับเขานานกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะสร้างความหวั่นไหวให้เธอเปล่าๆ

“หึ่ย! แล้วแต่เธอแล้วกัน”

ภิภพลุกขึ้นยืน ก่อนจะยืนเคว้งกลางห้องเมื่อเธอไม่พูดสิ่งที่เขากังวล ไม่ถามเขาเลยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่

“คุณจะมาเก็บของที่เอาไปไม่หมดไม่ใช่เหรอ ฉันเก็บรวมของสำคัญไว้ในกล่องนั้นแล้ว คุณหยิบไปได้เลย”

อมิตาชี้ไปที่กล่องใส่พวกเอกสารและแว่นตาสำรองที่เขาลืมทิ้งไว้ เธอเลือกเก็บแต่ของสำคัญที่มันเหลืออยู่ในห้อง ของอย่างอื่นเธอก็ปล่อยไว้อย่างที่มันเคยอยู่ ถึงจะเลิกกับเขา แต่เธอไม่ได้เลิกรักเขา และยังคงอยู่กับความรู้สึกที่เธอมอบให้เขามาตลอด

“อืม”

เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเจ็บในอกเพราะท่าทางเฉยชาของเธอ ภิภพเดินไปหยิบกล่องสีชมพูขึ้นมาถือไว้ เดินออกจากห้องไปเงียบๆ เมื่อเสนออะไรแล้วเธอไม่เห็นด้วย

เป็นครั้งแรกที่เขาอยากขัดใจเธอ ไม่ใช่ขัดเพราะไม่ชอบใจสิ่งที่เธอทำ แต่ขัดเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ ภิภพเดินมาแจ้งกับนิติบุคคลของคอนโด เล่าเรื่องทั้งหมดให้คนที่เป็นลูกน้องของพ่อเธอฟัง หวังว่านิติจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านจะได้ส่งคนมาคุ้มกันเธอ เผลอๆเรื่องทั้งหมดนี้ท่านอาจจะจัดการกับไอ้นั่นด้วยตัวเอง แบบที่ไม่ต้องถึงมือเขาด้วยซ้ำ

วันรุ่งขึ้น 10.30 น.

Tru Tru

กริ่ง กริ่ง

เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวกับโทรศัพท์ภายในห้อง แผดเสียงแข่งกัน เสียงดังระงมทั่วทั้งห้อง สร้างความรำคาญใจให้คนเมาหลับบนเตียงได้เป็นอย่างดี ร่างบางในชุดนอนบางเบาที่มีเสื้อคลุมตัวหนาปิดทับ เดินขยี้ตาพร้อมก่นด่าในใจ ออกมายังจุดที่โทรศัพท์ส่งเสียงอยู่

ใครแม่งโทรมาปลุกแต่เช้า ถ้าเป็นยัยฉัตรฉายโทรมาปลุกเธอเพื่อให้ไปทำงานตรงเวลา เธอจะไล่ออกทันที เพราะเมื่อคืนกว่าเธอจะจัดการกับตัวเองจนได้หลับได้นอน ก็เกือบเช้า

“โหล มีไร”

อมิตาเลือกรับโทรศัพท์บ้านที่อยู่ใกล้ เพราะโทรศัพท์ส่วนตัวของเธอเงียบเสียงลงไปแล้ว เธอไม่รู้ว่ามันไปวางอยู่ส่วนไหน จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากระเป๋าชาแนลที่ใส่มันไว้ข้างใน หยิบมาจากร้านเหล้าด้วยหรือเปล่า

[สร้างเรื่องงามหน้าอีกแล้วใช่ไหมยัยตัวดี กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ อย่าให้แด็ดตามไปลากกลับมานะมิว]

เสียงทรงอำนาจของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ไม่ได้ทำให้อมิตาหวาดกลัวเลยสักนิด เธอจึงตอบกลับไปด้วยเสียงเบื่อๆเซงๆ

“อะไรอีกเนี้ย หนูก็ทำตัวตามที่เราตกลงกันแล้วไง ห้ามมีเรื่อง ห้ามวุ่นวายกับใครหน้าไหนทั้งนั้น แล้วนี่มันเรื่องอะไร โทรมาแค่นี้หนูวางนะ”

อมิตาวางหูโทรศัพท์ลงแรงๆ เดินกลับไปทิ้งตัวนอนบนเตียงเหมือนเคย คดคู้ตัวเองเข้ากับไออุ่นที่ไม่มีเหลือแล้ว ของคนที่เคยนอนอยู่ข้างๆ พลางหลับตานอนต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel