อย่ามองนะคะ
‘เฮีย หนูจะหมดแรงแล้วนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย’ เสียงกรีดร้องในใจ โหยหาเพียงชื่อเดียว ไม่รู้ทำไมต้องคิดถึงคนที่ไม่มีวันจะมาช่วยเราด้วย
ดวงตาคู่สวยปิดลงช้าๆ เมื่อยอมรับความจริงที่ว่า เธอไม่สามารถหนีไปได้อีกแล้ว ปิดกั้นสติตัวเองลงพร้อมกับกั้นลมหายใจ ถ้าต้องถูกไอ้นั่นของคนอื่นทิ่มแทงร่างกายที่เธอหวงแหน เธอยอมตายตอนนี้เลยดีกว่า
พลั่ก! ผวัะ! ผวัะ
ร่างสูงกระเด็ดไปตามแรงถีบจากเท้าปริศนา กำลังจะพลิกตัวกลับไปดู ก็ถูกหมัดซัดเข้าใบหน้าอย่างแรงสองที กำลังจะลุกขึ้นสู้ก็ต้องรีบลนลานหนีออกจากห้อง เมื่อเจอสายตาดุดันตรงหน้า ที่เหมือนจะฆ่าเขาให้ตายอยู่ในนี้
“อย่าคิดว่ามึงจะรอด!”
ภิภพกัดฟันแน่นจนเส้นเลือดข้างขมับขึ้นริ้ว เขาจำหน้ามันได้ดี เพราะมันเป็นคนเดียวกับที่คุยกับเธอตอนที่อยู่ห้าง เขาตามไปตอนนี้ไม่ได้เพราะมีคนที่สำคัญกว่านั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟา แต่ไม่คิดจะปล่อยไอ้คนที่ลนลานหนี มีชีวิตรอดพ้นจากสิ่งที่ทำวันนี้แน่
“มิว! มิว!”
มือหนาประคองใบหน้าซีดเซียวไว้เบาๆ สำรวจร่างกายเธอทุกส่วนพร้อมกับกัดฟันแน่นขึ้น ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาไม่ตามเธอมา เรื่องวันนี้จะจบลงแบบไหน
อมิตาเป็นคนระมัดระวังตัวเรื่องผู้ชายพอสมควร นั่นเป็นสิ่งที่เขารับรู้ได้ตอนที่เธอเอาตัวมาผูกติดอยู่กับเขาตลอดสองปี ช่วงนั้นเธอไม่เคยให้เบอร์ใครเลย แทบจะไม่เคยให้ผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขาเฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ แต่ไม่คิดว่าวันนี้เธอจะกล้าให้ที่อยู่คอนโดกับผู้ชายคนอื่นไป
ภิภพอุ้มร่างที่หมดสติเข้าไปในห้องนอน วางเธอลงช้าๆ แก้มัดให้เธอเป็นอิสระ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวชุบน้ำ เช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอก่อนเป็นอันดับแรก
เขาไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกชอบใจกับสิ่งที่ทำเลย ยิ่งเห็นรอยพวกนั้นตามลำคอยิ่งไม่ชอบใจ มือหนาถูตามรอยแดงหวังจะให้มันหายไป แต่ยิ่งถูดูเหมือนมันจะยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม
“แม่ง!” ภิภพปล่อยมือออกจากผ้า เสยผมตัวเองแรงๆเพื่อเรียกสติ ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่นา ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย รู้สึกโกรธ โมโห เห็นใจ สงสาร อยู่กับเธอแล้วเขาเหมือนจะเป็นบ้าตลอดเวลา
Tru Tru Tru
ภิภพเดินออกไปหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเธอ จัดการปิดเสียงดังน่ารำคาญของมันแล้วโยนทิ้งไปบนโซฟา ทิ้งตัวเองลงไปบนโซฟาพลางหลับตาแน่น เพื่อปิดกั้นสติของตัวเองออกจากเรื่องของเธอ
เขาควรออกไปตอนนี้ ถ้าไม่ไปเขาจะไม่สามารถออกไปได้อีก จะไม่สามารถหนีจากความรู้สึกที่มีต่อเธอได้ เขาต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้
‘เฮีย วันเกิดปีนี้ขออะะไรที่พิเศษๆหน่อยได้ไหม’
‘….’
‘น่านะ แค่ปีละครั้งเอง วันเกิดเฮียหนูยังสั่งทำพิเศษให้เลย เอาสร้อยรูปดาวนะเฮีย ใช้ทองคำขาวทำ ถ้าเป็นดาวคู่เดือนด้วยยิ่งดี’
‘ทำไมต้องดาว ไม่มีเดือนไม่ได้รึไง แล้วทองคำขาวมันแพงไม่รู้เหรอ’
‘เหอะน่า แค่ชอบเฉยๆ สร้อยเส้นไม่กี่บาทเอง เงินเดือนเลขาก็ซื้อได้น่า’
‘ไม่รับปากหรอก อย่าคาดหวังเลย’
ภิภพหยิบสร้อยทองคำขาวที่มีจี้รูปดาวกับจี้กลมๆที่เหมือนกับเดือนขึ้นมาดู สร้อยที่เขาเป็นเดินทางไปที่ร้านขายเครื่องประดับเพื่อสั่งทำมันขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเขามีดีตรงไหนเธอถึงได้ยึดติดขนาดนี้ พูดดีด้วยเหรอก็ไม่เคยทำเลยสักครั้ง ถ้าเธอไม่วางแผนต่างๆนานามีหรือเขาจะยอมทำดีด้วย ทำร้ายหัวใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ทุกๆอย่างที่เคยอยู่ในห้องนี้ มีแต่ของที่เขาชอบทั้งนั้น ไม่รู้เธอสรรหามาจากไหน และไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ยอมเก็บไปทิ้ง
ภิภพเก็บสร้อยใส่กระเป๋าเหมือนเดิม มันไม่ได้ขาดแต่เขายังไม่อยากคืนเธอตอนนี้ ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เพื่อดูว่าอาการเธอดีขึ้นหรือยัง ถ้าดีขึ้นแล้วเขาจะได้กลับซะที กลัวเหลือเกินถ้าต้องอยู่กันตามลำพัง เขาไม่กลัวเธอ แต่กลัวใจตัวเองนี่แหละ ที่มันหวั่นไหวกับเรื่องของเธอทุกครั้ง ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจบอกลาเธอ
“เห้ย!”
ภิภพยกมือปิดตาแทบไม่ทัน เมื่อกลับเข้ามาในห้องแล้วเห็นเธออยู่ในสภาพล้อนจ้อน ร่างบางแสนเซ็กซี่กึ่งนั่งกึ่งนอน ในขณะที่นิ้วมือเรียวสวยกำลังลูบไล้จุดอ่อนไหวกลางกายสาวของตัวเอง
“ทำอะไร”
น้ำเสียงเบาหวิวถามทั้งๆที่รู้ดีว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ ใบหน้าสวยแดงก่ำเงยสบตา สีหน้าเอียงอายนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้ด้วย ถึงแม้ช่วงสองปีก่อนเขากับเธอจะมีอะไรกันบ่อยๆ แต่ไม่เคยเห็นเธอทำแบบนี้กับร่างกายตัวเองมาก่อน
“เฮีย! อย่ามองนะคะ ถึงจะเป็นความฝันก็ห้ามมอง”
เพราะในความเป็นจริงเขาไม่มีวันมาอยู่ตรงหน้าเธอแน่ๆ ตอนนี้ภาพตรงหน้าเธอคงจะเป็นความฝันอย่างทุกที ทุกครั้งเธอสามารถอดทนต่ออารมณ์วาบวามที่มีร่วมกันกับเขาได้ แต่ครั้งนี้เธอทนไม่ไหวจริงๆ โหยหาทุกสัมผัสของเขา จนต้องทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน
มือเล็กขยับอ้อยอิ่งบริเวณตุ่มเนื้อเล็กกลางกายสาว จนน้ำหวานสีใสไหลออกมาติดตามนิ้วมือ ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่าง แต่กลับไม่รู้สึกอิ่มเอม เหมือนตอนที่แท่งเนื้อของเขาขยับไหวในร่างกายเลยสักนิด
“อ่า!” นิ้วเรียวยาวขยับเข้าไปในร่องเนื้อสีหวาน เพื่อใช้มันทดแทนสิ่งนั้นที่เคยให้ความสุข ขยับช้าเนิบนาบ เพื่อให้ร่างกายอิ่มเอม และขยับนิ้วเร็วขึ้นเมื่อร่างกายใกล้ถึงฝั่งฝัน
“…”
อ่า~
ภิภพเบือนหน้าหนีจากภาพนั้น หลังจากที่มองดูเธอทำทุกอย่างจนเสร็จ ภาพน่าอายนั่นทำให้เขาขบกรามแน่น ไอ้พวกนั้นมันเอายานั่นให้เธอดื่มแน่ๆ รู้สึกสะใจนิดๆที่คนแบบเธอ ได้รับรู้ความรู้สึกแบบที่เขาเคยรู้สึกบ้าง ว่าเวลาที่ความต้องการมันอยู่เหนือยการควบคุม มันทรมานมากแค่ไหน แต่กลับรู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน ที่ดูจะทรมานกับร่างกายตอนนี้
“อือ อ่า”
เสียงครางหวานดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเริ่มทำแบบเดิมใหม่อีกรอบ ภิภพที่ทนดูไม่ไหว ได้แต่ฉุดดึงมือเล็กออก ยื้อกันอยู่สักพักเขาก็ทำสำเร็จ ก่อนจะโดยมือนั้นฟาดลงกลางอก
“อย่ามายุ่งน่า ยังไม่เสร็จเลย รอก่อน” อมิตาดุเบาๆ มองใบหน้าใต้กรอบแว่นด้วยแววตาขุ่นเคือง ไม่ช่วยก็ดูเฉยๆ คนเขาจะหาม จะเอาคานมาสอดทำไมก็ไม่รู้
“รอบ้าอะไร ไปอาบน้ำ ทำแบบนี้มันไม่ช่วยอะไรหรอก” เพราะเขาเคยสัมผัสความรู้สึกนี้มาก่อนเธอ ต่อให้ทำจนหมดแรง มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด ถ้าไม่หมดฤทธิ์ยาก็ไม่มีทางหายจากอารมณ์วาบวามนั้นได้หรอก
“ไม่เอา!”
“มานี่!”
ภิภพ ดึงเท้าที่ขยับหนีไปที่หัวเตียงมาชิดลำตัว ลงมืออุ้มเธอขึ้นแบบอก เดินดุ่มไปทางห้องน้ำ เมื่อถึงอ่างน้ำสุดหรูที่เจ้าของห้องแสนจะภูมิใจก็วางเธอลงไปแรงๆ พร้อมกับใช้น้ำเย็นๆจากฝักบัวมารดไปตามเส้นผมสีชมพูสวยจนเธอเปียกชุ่มไปทั้งตัว
“อ๊าก! ไอ้บ้า อยากตายรึไง”
มือเล็กยกขึ้นลูบสายน้ำเย็นๆออกจากใบหน้า ปากก็ก่นด่าผู้ชายที่ยืนอยู่เหนือหัว อย่าให้เห็นนะว่าเป็นใคร แม่จะตามไปเผาบ้านให้วอดทั้งหลังเลย
“โอ้ย! มันเย็นนะโว้ย”
“โอ้ย! ไอ้บ้ามันหนาว”
“ฮือ พอแล้ว คามิล! ไอ้บ้าเลิกแกล้งสักที”
ชื่อของผู้ชายคนอื่นที่ดังออกมาจากปากที่พ่นคำด่า ทำให้ภิภพเอื้อมมือไปปิดน้ำ นั่งลงข้างอ่างแล้วเชยคางคนที่นั่งก้มหน้าขึ้น
