บท
ตั้งค่า

บทที่5 นามของข้าคือ อวี่เซวียน

“นามของข้าคือ อวี่เซวียน ตัวข้าไม่ขอยอมรับในความผิดที่ข้ามิได้ก่อ และยิ่งจะไม่ร้องขอความเป็นธรรมจากเหล่าเซียนทั้งหลายในที่แห่งนี้ พวกท่านหาได้จำเป็นต้องรบกวนองค์ไท่จื่อผู้นี้ให้มาตัดสินโทษทัณฑ์แก่ตัวข้า” กล่าวจบ อวี่เซวียนก็หันหน้าไปมองยังอิงฮวา ที่แม้ไร้เรี่ยวแรงแต่บัดนี้ก็ได้สติฟื้นคืนมาบ้างแล้ว

“นามของเทพธิดาผู้นี้คืออิงฮวาใช่หรือไม่ ท่านคงเป็นผู้ที่ไท่จื่อผู้นี้นั้นรักมากปานดวงใจ ข้าต้องขอบคุณท่าน ที่ทำให้ข้ารู้แจ้งแล้วว่า นอกจากละครงิ้วในแดนมนุษย์ที่ข้าได้เคยชม แท้จริงแล้วแดนสวรรค์แห่งนี้ก็มีให้ชมเฉกเช่นกัน หากแต่เซียนผู้น้อยเช่นข้านั้นกลับคาดไม่ถึง ว่าเทพธิดาเช่นท่านจะลดกายลงมาแสดงละครงิ้วเยี่ยงมนุษย์ อีกทั้งยังแสดงออกมาได้อย่างดียิ่งอีกด้วย” อวี่เซวียน กล่าวชื่นชมอีกฝ่ายจากใจจริง เมื่อกล่าวจบก็ได้แต่ยกยิ้มให้กับความโง่งมของตนเองอีกครา

“จิ้งจอกน้อยตนนี้ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก กระทำความผิดแล้วยังไปกล่าวโทษผู้อื่น เช่นนั้นก็จงเตรียมตัวรับโทษทัณฑ์จากสวรรค์เพื่อชดใช้ความผิดในครานี้เถิด” เสียงต่อว่าก่นด่ามากมายเริ่มดังขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง

“โทษทัณฑ์จากสวรรค์เช่นนั้นรึ เหตุใดข้าจะต้องก้มหัวยอมรับมันด้วยเล่า” อวี่เซวียนพูดพลางหันไปสบตากับเซียนผู้หนึ่งที่ได้กล่าวต่อว่าตนเมื่อครู่นี้

“ช่างพูดจายโสโอหังยิ่งนัก ขอองค์ไท่จื่อโปรดกล่าวตัดสินลงทัณฑ์เซียนน้อยผู้นี้เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วยเถิด” ดูท่าแล้วเซียนผู้นี้ช่างดูแค้นฝังจิตฝังใจกับอวี่เซวียนมากเป็นพิเศษ ก่อนจะมีเซียนอาวุโสอีกผู้หนึ่งที่ก้าวออกมาทวงถามความเป็นธรรมแก่เทพธิดาสาวอย่างอิงฮวาอีกครั้งหนึ่ง

“เทพธิดาอิงฮวาบาดเจ็บถึงปานนี้ อีกทั้งปราณเซียนก็ได้รับความเสียหาย เช่นนั้นขอองค์ไท่จื่อได้ให้เซียนน้อยผู้นี้ชดเชยด้วยปราณเซียนทั้งหมดที่นางมีด้วยเถิด”

เหล่าเซียนทั้งหลายล้วนต่างพากันเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่อิงฮวา ซึ่งนั่นก็ได้สร้างความกดดันแก่องค์ไท่จื่ออย่างเทียนเหออยู่ไม่น้อย

อิงฮวาเป็นถึงธิดาแห่งอดีตเทพสงครามของกองทัพสวรรค์ ครั้นเมื่อเทียบกันกับอวี่เซวียนแล้วนั้น ความน่าเชื่อถือและน่าเห็นใจของทั้งคู่ช่างดูแตกต่างกันถึงเพียงนี้

ด้วยเหตุนี้ ย่อมไม่มีผู้ใดหาญกล้าที่จะออกหน้าแทนเซียนผู้น้อยเช่นอวี่เซวียน แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าจะยังมีเซียนบางกลุ่มที่ไม่ได้ออกความคิดเห็นหรือยังไม่ปักใจเชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ แต่ใครเล่าจะอยากเป็นศัตรูกับธิดาแห่งเทพสงคราม

เช่นนี้แล้ว หากแม้มิได้คล้อยตาม แต่การเงียบปากเก็บถ้อยคำไว้ในยามนี้ เห็นทีว่าจะเป็นการดีที่สุด

“อวี่เซวียน เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า ต่อจากนี้ถึงจะอย่างไรข้าก็ยินดีที่จะอยู่ข้างกายเจ้าไม่จากไปไหน” เทียนเหอกล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจบอกได้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าตัวนั้นรู้สึกเช่นไร

หากแต่ความรู้สึกของผู้ฟังอย่างอวี่เซวียนนั้น แน่นอนว่าย่อมต้องมีแต่ความผิดหวังและเสียใจที่ไม่อาจข่มซ่อนไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

“อยู่ข้างกายข้าต่อจากนี้เช่นนั้นรึ เทียนเหอ ข้าเพียงต้องการให้ท่านอยู่เคียงข้างกายข้าในยามนี้ หาใช่ต้องรอภายภาคหน้าหรือภายหลังจากที่ข้าต้องสละปราณเซียนนี้ให้แก่หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของท่าน” อวี่เซวียนกล่าวจบก็เว้นระยะเพียงครู่เพื่อปรายตามองไปยังเหล่าเซียนทั้งหลายที่กำลังจับจ้องมาที่ตนอยู่ ณ ขณะนี้ ก่อนที่สายตาจะหยุดจ้องมองไปยังดวงหน้าของอิงฮวาที่ตอนนี้เจ้าตัวนั้นได้ลอบส่งสายตามองมาที่นางสักระยะแล้ว

บัดนี้อวี่เซวียนล้วนกระจ่างแก่ใจแล้ว แดนมนุษย์ก็ดี แดนสวรรค์ก็ช่าง เหล่านี้ล้วนไม่แตกต่าง ผู้คนแก่งแย่งชิงดีเช่นไร เหล่าเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ก็ไม่สิ้นไร้มารยาเช่นนั้น

เดิมทีนางก็เป็นเพียงจิ้งจอกน้อยที่ปรารถนาจะบรรลุเป็นเซียนเพื่อหลุดพ้น หากเมื่อเป็นเซียนแล้วยังมิอาจหลุดพ้น เช่นนั้นปราณเซียนทั้งหมดนี้ก็จงทิ้งมันไปเสียเถิด

“ปราณเซียนเพียงน้อยนิดที่ข้ามี ข้ายินดีสละมันให้ท่าน แม้จะเป็นความผิดที่ตัวข้านั้นไม่ได้ก่อ ทั้งนี้ก็เพียงเพื่อชดเชยในความโง่เขลาของตัวข้าเอง จะตำแหน่งเซียนก็ดี หรือเผ่าสวรรค์ก็ช่าง ข้านั้นล้วนยินดีตัดขาดมันให้สิ้น” อวี่เซวียนนั้นกระจ่างแก่ใจแล้วว่า ที่แห่งนี้ล้วนไม่ใช่ที่ของนาง และไท่จื่อผู้นี้ก็เป็นเพียงชายแปลกหน้าสำหรับนางอีกเช่นกัน

“นำตัวนางไปขัง อีกเจ็ดวันให้หลังเมื่อเสร็จสิ้นพิธีขึ้นทะเบียนเซียนใหม่ค่อยนำตัวนางออกมารับโทษ” เทียนเหอออกคำสั่งแก่เหล่าทหารสวรรค์ โดยไม่แม้แต่จะหันมาสบตากับอวี่เซวียนที่ตอนนี้นางกำลังจดจ้องไปที่ใบหน้าของเขาด้วยความผิดหวังอย่างไม่วางสายตา

เป็นใบหน้านี้ที่นางนั้นได้เคยหลงใหล และก็เป็นใบหน้านี้เช่นกัน ที่ทำให้ชีวิตของนางนั้นต้องเวียนมาพบกับจุดจบที่น่าสังเวชใจถึงเพียงนี้

“เทียนเหอ วาสนาของท่านและข้านั้นช่างเปราะบาง หากแม้วันหน้าโชคชะตาของท่านกับข้าเวียนมาบรรจบ ต่อให้ตัวข้านั้นกำลังจะสิ้นไร้ซึ่งลมหายใจต่อหน้าท่าน ข้าก็ขอให้ท่านจงเมินข้าเสีย แลตัวข้าเองนั้นก็จะกระทำต่อท่านเฉกเช่นถ้อยคำที่ข้าได้กล่าวไป” เมื่อพูดจบอวี่เซวียน เทียนเหอก็ไม่รั้งรอให้ผู้ใดต้องมากล่าวโทษนางได้อีกครั้ง โดยเขาก็ได้ออกคำสั่งให้องครักษ์ประจำกายนำตัวนางไปคุมขังเพื่อรอคำตัดสินโทษในทันที

อวี่เซวียนที่ไม่อาจต่อต้าน บัดนี้ก็ทำได้เพียงก่นด่าตนเองอยู่ภายในใจ

แม้เป็นเซียนแล้วแต่ก็ยังมิอาจหลุดพ้น เช่นนั้นแล้ว ที่ตัวนางสู้ทนบำเพ็ญเพียรมาเนิ่นนานจะนับได้ว่ามีประโยชน์อันใดเล่า

อดีตนั้นตัวข้าช่างโง่งมนัก เพียงแค่เศษเสี้ยวของความสงสารที่ได้รับจากท่าน ข้ากลับเก็บเอาไปคิดวาดฝันถึงอนาคตอันแสนหวานมากมายเสียแล้ว

แต่สุดท้าย แม้ตัวตนที่แท้จริงของท่าน ข้านั้นก็ต่ำต้อยเกินกว่าที่จะมีสิทธิ์ได้รับรู้

ไท่จื่อผู้สูงศักดิ์เช่นท่าน ไหนเลยจะมารักกับจิ้งจอกผู้ต่ำต้อยเช่นข้าได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel