9 ขอโทษ
ภูดิศนอนหลับไปด้วยความเพลีย รสรินซบอกชายหนุ่มหลับไปด้วยกัน ไม่นานนักก็มีเสียงโทรศัพท์ของภูดิศดังขึ้น
“สวัสดีครับน้าดวงใจ”
“ภู เธอไปแกล้งลูกสาวน้าทำไม?”
“ผมไม่ได้แกล้งนี่ครับ”
“ก็ยิหวาโทรมาฟ้องน้า ว่าภูไปลวนลามเธอ”
“ยิหวารู้ได้ยังไงครับว่าเป็นผม”
“น้าโทรไปถามเอียด น้ารู้ความจริงหมดแล้ว ภูอย่ามาปิดน้า” อย่างน้อยดวงใจก็เคยเลี้ยงภูดิศมาแต่เด็ก นิสัยของเขาเป็น อย่างไรทำไมเธอจะไม่รู้
“ยังไงผมก็ต้องแต่งงานกับยิหวาอยู่แล้ว ผมทำแค่นี้ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ครับ”
“ภู...ให้เกียรติลูกสาวน้าบ้างสิ” ดวงใจดุลูกเลี้ยงของเธอ
“ก็พินัยกรรมของคุณพ่อต้องการให้ผมแต่งงานกับยิหวาอยู่แล้วเธอกับคุณน้ามีแต่ได้กับได้ คุณน้าจะกังวลไปทำไมครับ” ภูดิศเถียงข้าง ๆ คู ๆ
“ตอนนี้ภูกับยิหวายังไม่ได้แต่งกัน แล้วน้าก็ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับยิหวาเลยนะ น้าบอกแค่ว่าจะให้เธอมาช่วยงานที่ไร่เท่านั้น” ดวงใจยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับลูกสาวของเธอ เพราะอยากให้ดู ๆ ใจกันไปก่อน อีกอย่างภูดิศก็เจ้าชู้มาก ถ้าหวันยิหวาไม่ชอบดวงใจก็คงจะไม่บังคับลูกสาว
“ทำไมคุณน้าไม่บอกยิหวาไปตรง ๆ ละครับ ถ้าเธอมารู้ทีหลังจะพาลมาโกรธเอาได้นะครับ”
“ภูก็ใจเย็น ๆ ก่อนสิ อย่าเพิ่งไปทำรุ่มร่ามกับยิหวา”
“ก็ได้ครับผมจะพยายามครับ”
“แล้วภู..ล่ะคิดยังไงกับลูกสาวน้า ถ้าจะมาเล่น ๆ เหมือนพวกผู้หญิงของภูละก็...น้าไม่ยอมนะ”
“ใจเย็น ๆ สิครับคุณน้า พินัยกรรมคุณพ่อให้เวลาผมตั้งหนึ่งปีนะครับ”
“เดี๋ยววันพรุ่งนี้ภูมารับน้าด้วยนะ
“คุณหมออนุญาตให้คุณน้าออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอครับ?”
“อนุญาตหรือไม่ น้าก็หายแล้ว” ดวงใจไม่อยากให้ภูดิศอยู่ใกล้ยิหวาเลย ดูเขาเป็นคนใจร้อนเกิดรวบหัวรวบหางยิหวาขึ้นมาต้องเป็นเรื่องแน่ รายนั้นยอมใครเสียที่ไหน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเธอจะต้องรู้สึกผิดแน่ ๆ ที่ให้ลูกสาวมาที่นี่
“ได้ครับ”
เมื่อวางสายจากดวงใจเสร็จภูดิศกังวลมากรีบขับรถไปหาดวงใจที่โรงพยาบาลทันที คนเป็นแม่เลี้ยงรู้สึกแปลกใจที่เขามาเยี่ยม
“น้าดวงใจครับผมมีเรื่องจะขอร้อง” ชายหนุ่มบอกกับหญิงสูงวัยด้วยท่าทีนอบน้อมแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
“เรื่องอะไรเหรอ?
“น้าอย่าเพิ่งบอกยิหวาได้มั้ยครับว่าผมเป็นใคร”
“นึกสนุกอะไรขึ้นมาเหรอเรานี่ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะภู”
“ผมเข้าใจครับน้า แต่ตอนนั้นผมตกกระไดพลอยโจน”
“ไหนลองเล่าทั้งหมดมาให้น้าฟังสิ เรื่องมันเป็นยังไง?”
ภูดิศเล่าตั้งแต่ที่ได้เจอกับหวันยิหวา แล้วหลอกว่าเขาคือนายเอียดคนงานในไร่ และแกล้งเธอสารพัด
“พรุ่งนี้ยิหวาก็ต้องรู้อยู่ดี น้าช่วยภูปิดไม่ได้หรอก”
“ผมขออีกแค่วันเดียวได้ไหมครับ?” แววตาอ้อนวอนขอร้องดวงใจและสำนึกผิด ทำให้ดวงใจแอบสงสาร
“อืม!..ก็ได้ แต่หลังจากพรุ่งนี้น้าไม่ช่วยแล้วนะ” แม่เลี้ยงถอนหายใจต่อหน้าเขา
“ก็ได้ครับ ขอบคุณครับน้าดวงใจ”
ภูดิศขับรถกลับไร่ด้วยความอารมณ์ดี เย็นนี้เขาตั้งใจจะชวนหวันยิหวาทานข้าวด้วยกัน โดยลืมไปว่าทิ้งเธอไว้ที่เรือนลีลาวดี ชายหนุ่มเดินตรงไปยังห้องอาหารครัวเฟื่องฟ้าก่อนจะไปรับเธอ ป้าชื่นและพ่อครัวคนอื่น ๆ เตรียมอาหารเสร็จพอดี ก็เลยถามภูดิศ
“พ่อเลี้ยงค่ะ คุณยิหวายังไม่ลงมาเลยค่ะ”
“อ่าว!...คุณยิหวากลับมาจากเรือนลีลาวดีตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ก็ได้สักพักแล้วค่ะ ป้าสงสารเลยเอาชุดไปให้เธอเปลี่ยน แล้วก็เลยพามาที่นี่ คุณภูไม่น่าไปแกล้งเธอแบบนั้นนะคะ” ดวงใจเป็นคนโทรหาป้าชื่นให้ช่วยดูแลหวันยิหวา
“ป้าก็รู้นี่ครับว่าผมไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนชุดให้เธอซะหน่อย”
“ป้าบอกความจริงเธอไปแล้วค่ะ”
“ก็ดีแล้วครับ ผมก็ไม่อยากให้ยิหวาโกรธผม”
“คุณภู จะทำอะไรก็เห็นแก่คุณดวงใจบ้างนะคะ”
“ครับป้า!..ผมก็แค่แกล้งเธอเล่นนิดหน่อยเองครับ”
“ถ้าอย่างนั้น...ป้าตั้งโต๊ะได้เลยครับ ผมเดี๋ยวไปตามเธอเอง”
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก
“คุณยิหวาครับ”
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก
“คุณยิหวาครับ...ได้เวลาอาหารเย็นแล้วครับ”
ด้านในห้องหญิงสาวที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง หวันยิหวาคิดว่าจะไปพักกับแม่ของเธอที่โรงพยาบาลเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย แต่หล่อนก็ยังไม่ได้โทรบอกกับดวงใจแม่ของเธอเลย
พอได้ยินเสียงเคาะประตูเรียกจึงเดินไปเปิดประตู พอรู้ว่าเป็นภูดิศโผล่หน้ามา ด้วยความโกรธเธอจึงรีบดึงประตูปิดทันที แต่สู้แรงดึงของชายที่อยู่ข้างนอกไม่ไหว
“คุณยิหวา ผมขอโทษ!” หญิงสาวตรงหน้าพยายามดึงประตูปิดอีกครั้ง แต่ภูดิศสอดมือเข้ามาเลยโดนประตูหนีบ
“โอ๊ย!!!” สิ้นเสียงร้อง คนข้างในเลยรีบเปิดออกกว้าง เห็นคนที่ยืนอยู่ทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บ
“คุณจะรีบปิดทำไมล่ะครับ?”
“ก็ฉันไม่ทันระวัง คิดว่าคุณจะเข้ามาทำอะไรแบบเมื่อกลางวันอีก คุณเจ็บมากมั้ย?”
“ก็เจ็บสิครับ ประตูทั้งบานนะคุณ”
“ฉันขอโทษค่ะ เดี๋ยวฉันเอาทายาให้นะคะ!!!”
หวันยิหวารีบเอายามาทาให้ภูดิศ เขารีบกุมมือเธอไว้
“โอ๊ย!!! เบา ๆ สิค๊าบบ...”
“ถ้าคุณไม่ปล่อยมือฉัน คุณก็ทายาเองแล้วกัน”
“โอเคๆ ก็ได้ครับ” ภูดิศรีบปล่อยมือหญิงสาว เธอทายาพร้อมกับนวดให้เขา เบา ๆ
“ผมขอโทษเรื่องเมื่อกลางวันนะครับ”
“ฉันยังไม่รับคำขอโทษของคุณตอนนี้”
“ถ้างั้นคุณช่วยไปทานข้าวกับผมก่อนได้มั้ย?
“ฉันยังไม่หิว คุณหิวก็ไปทานก่อนสิ”
“คุณยังโกรธผมอยู่เหรอครับ?”
“ฉันไม่ได้โกรธ”
“คุณนี่โกรธเป็นเด็ก ๆ เลยนะครับ”
“นี่คุณ!!!!”
“ทำไมเหรอ?....คุณลืมรสจูบของผมไม่ลงใช่มั้ย?”
“เรื่องวันนี้ฉันลืมไปหมดแล้ว คุณอย่าได้รื้อฟื้นมันอีกเลย”
“ก็ได้ถ้าคุณไม่อยากให้ผมรื้อฟื้นก็ไปทานข้าวกับผมสิ”
“ก็ได้ค่ะ แต่นี่ไม่ใช่เป็นการรับคำขอโทษนะคะ” หญิงสาวทนลูกตื๊อไม่ไหวจึงยอมตกลง แต่หล่อนนึกในใจทำไมยอมเขาง่าย ๆ แค่เขามาง้อไม่นานก็ใจอ่อน
“เดี๋ยวผมลงไปรอคุณข้างล่างนะครับ”
“ค่ะ เดี๋ยวฉันตามไป”
