5 ประทับใจ
ดวงใจภรรยาพ่อเลี้ยงแสนคำ เธอเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล ภูดิสในฐานะลูกเลี้ยงก็ดูแลให้การรักษาเธอเป็นอย่างดี อย่างน้อยเธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงของเขา เพราะก่อนที่พ่อเลี้ยงแสนคำจะเสียชีวิต ดวงใจก็ได้ดูแลพ่อของเขาไม่ห่าง
รถแล่นมาจอดตรงที่จอดรถของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มพาหญิงสาวที่นั่งมาด้วยเดินทางขึ้นลิฟต์ไป เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเขาเดินนำเธอไปยังห้องพักของแม่เธอ
ดวงใจ โกมลวิวัฒน์ ป้ายหน้าชื่อห้องผู้ป่วยใน 227 คือเบอร์ห้อง เมื่อหญิงสาวเปิดประตูเข้าไป
“อ้าว! ยิหวามาถึงแล้วหรือลูก?” ดวงใจเรียกบุตรสาว
“สวัสดีค่ะคุณแม่ ทำไมแม่ไม่บอกยิหวาละค่ะว่าไม่สบาย” หญิงสาวก้าวเข้าไปกอดผู้เป็นมารดาด้วยความคิดถึง
“แล้วหนูล่ะ! มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นโทรบอกแม่บ้างเลย”
“โทรศัพท์เสียค่ะแม่ แล้วหนูก็มัวแต่หลงทางกว่าจะเจอไร่ก็ค่ำแล้วค่ะ ดีที่ได้เจอคุณเอียดพาไปพักที่ไร่เสียก่อน”
“หนูพักเรือนไหนล่ะลูก?”
“เรือนเฟื่องฟ้าค่ะแม่...สวยดีนะคะ”
“อ๋อ...แม่ก็พักที่เรือนนั่นแหละ”
ดวงใจเลยเล่าให้หวันยิหวาฟังว่าเธอพักที่เรือนนั้นกับพ่อเลี้ยงแสนคำแต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงแสนคำสามีเธอได้เสียชีวิตไปเมื่อต้นปีที่แล้ว
“แล้วพ่อเลี้ยงเป็นอะไรเสียค่ะแม่”
“พ่อเลี้ยงแสนคำป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”
“หนูเสียใจด้วยนะคะคุณแม่”
“จ้ะลูก”
“แล้วลูกชายของเขาละแม่” หวันยิหวาจำได้เมื่อตอนที่ยังอยู่ที่ไร่กับดวงใจ พ่อเลี้ยงแสนคำมีลูกชายอยู่หนึ่งคน ที่เธอจำได้ดีเพราะเขาจะชอบแกล้งเธอเป็นประจำและก็ล้อว่าหล่อนนั้นอ้วนเหมือนหมู
“ลูกคงหมายถึงคุณภูล่ะสิ!...ก็ทำงานแทนพ่อเขานั่นแหละ คนงานในไร่เรียกเขาเป็นพ่อเลี้ยงคนใหม่แล้วนะ เพราะอย่างน้อยก็มาบริหารไร่นี้แทนพ่อของเขาเอง คนงานก็เห็นคุณภูมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ..ว่าแต่หนูเจอพี่เขาหรือยังล่ะ?”
“ยังเลยค่ะแม่ เจอแต่ลูกน้องของพ่อเลี้ยงชื่อนายเอียดสงสัยเป็นคนสนิทของพ่อเลี้ยง”
“ไม่หรอกจ้ะ...นายเอียดเป็นหัวหน้าคนงานในไร่จ้ะลูก”
“ทำไมนายเอียด ดูไม่เหมือนหัวหน้าคนงานเลยล่ะคะ”
“อย่าเพิ่งคิดมากสิลูก...ถ้าพ่อเลี้ยงกลับมาหนูคงได้เจอเองแหละ นี่แม่ก็ตั้งใจให้หนูมาที่ไร่ก็เพื่อช่วยงานพี่เขานะ หนูเรียนจบมาทางนี้แม่ก็ไม่อยากให้หางานทำ มาช่วยกันทำไร่ดีกว่าอีกอย่างพ่อเลี้ยงแสนคำได้สั่งแม่ไว้ก่อนจะเสียอยากให้แม่ตามให้หนูกลับมาช่วยงานที่ไร่”
“หมอบอกว่าแม่ใกล้จะหายแล้วนะคะ ช่วงนี้ยิหวาจะเฝ้าแม่เอง”
“จ้ะลูก” แม่ลูกที่ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วต่างโอบกอดแสดงความรักผ่านสายตาของคนที่แอบดูอยู่ แววตาดุดันของคนที่มองนั้นเปล่งประกายขึ้นทันทีเหมือนเขาคิดจะทำอะไรขึ้นมาบางอย่าง
“นายเอียดเป็นคนมาส่งหนูใช่มั้ยลูก?” คนเป็นแม่ถามขึ้น ด้วยความสงสัย
“ค่ะแม่”
ดวงใจพลางนึก นี่! ..ลูกเลี้ยงของเธอไปคั่วผู้หญิงคนไหนจนไม่กลับบ้านกลับช่องอีกแล้วหรือ สามีเธอได้สั่งไว้ก่อนตายให้คอยดูแล แต่เมื่อเธอล้มป่วยลง ดวงใจเลยไม่มีเวลาที่จะคอยห้ามปรามภูดิศตามที่ผู้เป็นสามีได้สั่งเสียไว้
“หนูเดินทางมาเหนื่อยมั้ยลูก?”
“ไม่เหนื่อยค่ะแม่ เชียงใหม่แค่นี้เอง”
“แม่หมายถึงที่บอสตันนะ”
“ก็นั่งเครื่องบินมา 13 ชั่วโมงกว่าค่ะแม่”
“แล้วเมื่อคืนหนูหลับสบายมั้ยลูก?”
“หลับสบายอากาศดีเลยค่ะแม่ เรือนเฟื่องฟ้าใหญ่โตมาก”
“พ่อเลี้ยงคงสั่งนานเอียดไว้?” ดวงใจงงมากทำไมภูดิศสั่งให้นายเอียดมาทำงานนี้แทน หรือว่าเขาจะรู้ว่ายิหวาเป็นลูกของเธอ
“ค่ะแม่ เรือนเฟื่องฟ้าเปลี่ยนไปมากเลยค่ะ”
“พ่อเลี้ยงแสนคำใช้เป็นที่พักนักท่องเที่ยว แต่ตอนพ่อเลี้ยงเสียพี่ ภูเขาดูแลไม่ไหวเลยสั่งให้ปิดชั่วคราวจ้ะลูก”
“อ่าว!..แล้วทำไมนายเอียดไม่เห็นบอกหนูเลยคะ”
“เรื่องเจ้านายเขาคงไม่อยากยุ่งละมั้ง”
หวันยิหวา เพิ่งเรียนจบได้ไม่นาน ดวงใจได้โทรหาเธอก่อนที่หวันยิหวาจะได้งานทำทางโน้น คนเป็นแม่ยังไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงที่ให้เธอมาที่นี่ หวันยิหวาก็อยากเจอกับแม่อยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธที่จะกลับมาหาดวงใจ ลงเครื่องเสร็จเธอแวะหาคุณย่าแล้วก็เอารถขับขึ้นเชียงใหม่ทันที
“แม่ตั้งใจว่าจะให้หนูทำหน้าที่แทนแม่ แล้วก็ดูแลแผนกบัญชีไปด้วยเลย หลัก ๆ ก็งานบัญชีพวกเอกสารนั่นแหละ”
“บัญชีก็พอไหวค่ะ แต่งานในไร่หนูไม่ถนัดเลยค่ะ”
“งานในไร่เป็นเรื่องของพ่อเลี้ยงเขา หนูทำแค่บัญชีก็พอจ้ะ” ดวงใจทำตามคำขอร้องของสามีที่ต้องการให้ลูกสาวเธอมาทำงานที่นี่ เพราะพ่อเลี้ยงแสนคำไม่สามารถทำให้ภูดิศลูกชายเลิกเจ้าชู้ได้ จึงอยากวางตัวลูกสาวของดวงใจเมียที่เขารักให้ช่วยดูแลลูกชายของเขา โดยสมบัติทั้งหมดจะถูกโอนเป็นชื่อของภูดิศหากเขาได้แต่งงานกับหวันยิหวา แต่ถ้าหากทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกัน ทรัพย์สินก็จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กันโดยให้ดวงใจครึ่งหนึ่ง และ ภูดิศอีกครึ่งหนึ่ง พินัยกรรมได้ถูกเปิดหลังจากที่พ่อเลี้ยงแสนคำได้เสียชีวิตไป นี่คือเหตุผลที่ดวงใจจึงอยากจะให้ลูกสาวของเธอมาที่นี่
“แต่หนูต้องรอเจ้าของไร่กลับมาก่อนนะคะ นี่ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะให้หนูทำงานนี้หรือเปล่า”
“ได้สิลูก แม่คุยกับเขาไว้แล้ว ปกติเขาก็ไม่หายไปไหนนาน ๆ นะถ้ายังไงหนูรอแม่ออกจากโรงพยาบาลก่อนนะลูก”
“ได้ค่ะแม่ ช่วงนี้ยิหวาจะเฝ้าแม่ไปก่อนนะคะ”
หลังจากวันนั้นหวันยิหวาก็เดินทางไปเฝ้าแม่ทุกวัน ภูดิศคอยรับส่งเธอตลอด ส่วนกลางคืนดวงใจไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเฝ้า เพราะมีพยาบาลคอยดูแลอยู่แล้ว และอีกอย่างเธอหวังว่าลูกสาวจะได้เจอกับภูดิศและได้ตกหลุมรักกัน แต่ตอนนี้หวันยิหวายังไม่รู้ว่าคนที่คอยรับส่งเธอคือลูกชายของพ่อเลี้ยงแสนคำ
“ฉันถามคุณหน่อยวันนั้นฉันบอกมาหาพ่อเลี้ยงแสนคำ ทำไมคุณไม่บอกว่าพ่อเลี้ยงเสียชีวิตไปแล้ว”
“ก็ผมพาคุณไปพักเรือนเฟื่องฟ้า เรือนของพ่อเลี้ยงแสนคำนะครับ ผมคิดว่าถ้าบอกไปคุณจะกลัวไม่กล้าพัก” ภูดิศรีบแก้ตัว
“งั้นเหรอคะ?”
“สรุปคุณรู้จากใครเหรอครับ”
“แม่ฉันบอกเองค่ะ”
“ถ้าคืนนี้คุณไม่กล้านอนคนเดียวเปลี่ยนไปพักเรือนลีลาวดีก็ได้นะครับ เป็นของพ่อเลี้ยงภูครับ”
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ เจ้าของเขายังไม่อนุญาตเลย”
“ถ้าคุณอยากพัก ผมโทรถามพ่อเลี้ยงภูให้ได้นะครับ”
“อย่าเลยค่ะ ฉันเกรงใจ อีกไม่กี่วันแม่ฉันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ยังไงฉันก็อยากพักที่เรือนคุณแม่ค่ะ”
“เห็นพ่อเลี้ยงภูบอกว่าคุณจะมาทำงานที่ไร่เหรอครับ?” ภูดิศเปลี่ยนเรื่องคุย
“คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ? เรื่องนี้คุณแม่เพิ่งบอกฉันเอง”
“พ่อเลี้ยงสั่งผมมาเมื่อเช้านี้เองครับ” ชายหนุ่มแก้ตัวเพราะกลัวโดนจับได้เสียก่อน ซึ่งเขาเองเป็นคนคุยกับแม่ของเธอหลังจากเปิดพินัยกรรม
“ใช่ค่ะ .. ว่าที่พ่อเลี้ยงคนใหม่เขาอยากได้คนช่วยค่ะ” หญิงสาวรีบบอกกับชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ข้างๆ เขาหัวเราะ ฮึ ๆ ในลำคอเบา ๆ
