สาม วิกฤตของโรงหมอเซี่ยงเหอ
หยางหลินอี้ให้คนพาผู้ป่วยเข้าไปยังห้องตรวจภายในโรงหมอเซี่ยงเหอ ขณะที่กลุ่มชายจากตระกูลเจ้าเมืองและชาวบ้านบางส่วนยังยืนรอคำตอบอยู่ด้านนอก
ในห้องที่เงียบสงัดนางปล่อยม่านกั้นลงเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ก่อนจะเริ่มตรวจสอบอาการของผู้ป่วย ซึ่งตอนนี้นอนนิ่งบนเตียงไม้ลมหายใจแผ่วเบาไม่ได้สติอยู่
“หมอจาง จะเริ่มรักษาอย่างไรดี” หมอเซี่ยงถามเสียงแผ่วอยู่ไม่ไกล ในใจของชายชราเต็มไปด้วยความกังวล
“ข้าจะตรวจดูก่อนว่าอาการนี้เกี่ยวข้องกับสารพิษหรือไม่ และอวัยวะภายในยังทำงานได้ดีหรือเปล่า”
หยางหลินอี้แสร้งทำท่าควานหาของในย่ามที่สะพายมาซึ่งความจริงแล้วนางแค่ต้องการตั้งสมาธิเพื่อเรียกอุปกรณ์การแพทย์ออกมาจากแหวนมิติของนาง
ใช่แล้ว หยางหลินอี้มีของพิเศษติดตัวมาอีกหนึ่งอย่างคือแหวนมิติพิเศษ
แหวนสีเงินเรียบง่ายบนนิ้วนางข้างขวา แม้จะดูธรรมดา แต่หากมองใกล้ ๆ จะพบว่าแหวนวงนี้มีความเงางามที่ไม่ธรรมดา และลวดลายสลักเล็ก ๆ บนแหวนที่ดูคล้ายอักษรลึกลับไม่ใช่สิ่งที่ช่างในยุคนี้สามารถทำได้
แหวนมิติวงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับธรรมดา แต่คือมิติที่ทำหน้าที่เป็นห้องเก็บเทคโนโลยี อุปกรณ์การแพทย์จากโลกอนาคตก่อนนางตาย
มีประโยชน์มากทีเดียว
สิ่งแรกที่นางหยิบออกมาคือเครื่องตรวจชีพจรแบบพกพา
หลินอี้หยิบเครื่องวัดขนาดเล็กออกมา มันมีลักษณะเหมือนกำไลเรียบง่ายที่สามารถสวมใส่ที่ข้อมือของผู้ป่วยได้ นางแกล้งทำเหมือนกำลังจับชีพจรตามปกติ แต่ในความจริง นางกำลังใช้เครื่องมือวัดการเต้นของหัวใจและระดับออกซิเจนในเลือด
เครื่องนี้แสดงผลด้วยแสงเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นชัดเจนจากระยะไกลทำให้ไม่มีใครสงสัย นางวิเคราะห์ผลที่ปรากฏด้วยสายตาพลางสังเกตลักษณะภายนอกของผู้ป่วยไปด้วย
ต่อมาหยิบชุดตรวจสารพิษแบบรวดเร็วนางหยิบชุดตรวจขนาดเล็กอีกชิ้นหนึ่งออกมา ภายในเป็นแผ่นกระดาษพิเศษที่สามารถวิเคราะห์สารพิษในเลือดหรือสารตกค้างได้ นางใช้เข็มสะอาดสะกิดปลายนิ้วผู้ป่วยเก็บตัวอย่างเลือดเพียงหยดเดียว ก่อนวางลงบนแผ่นกระดาษนั้น
แผ่นตรวจเปลี่ยนสีภายในเวลาไม่กี่ชั่วพริบตา หยางหลินอี้จ้องมองผลที่ปรากฏด้วยความเคร่งเครียด สีที่เปลี่ยนไปยืนยันการมีอยู่ของสารพิษชนิดหนึ่งที่นางคุ้นเคยจากโลกเดิม
“สมุนไพรเจี่ยงหวงชั้นต่ำ...” นางพึมพำเบา ๆ
เมื่อได้ผลจากการตรวจทั้งหมด หลินอี้หันไปอธิบายกับหมอเซี่ยงที่ยืนรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“ผู้ป่วยไม่ได้ป่วยเพราะยาของโรงหมอ แต่อาจเป็นเพราะสารพิษจากสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ถูกใส่ลงไปในอาหารหรือยาที่เขากิน”
หมอเซี่ยงขมวดคิ้ว “สมุนไพรชนิดใดหรือ”
“เจี่ยงหวงชั้นต่ำ” หลินอี้ตอบ “มันมีลักษณะคล้ายสมุนไพรบำรุง แต่หากถูกใช้อย่างผิดวิธีหรือไม่ผ่านการเตรียมที่เหมาะสม จะกลายเป็นสารพิษที่ทำให้ตับทำงานหนักจนล้มเหลวได้”
หมอเซี่ยงมองนางด้วยสายตานับถือ “หมอจางรู้ได้อย่างไร”
หลินอี้เพียงยิ้มบางก่อนเก็บเครื่องมือทุกชิ้นกลับเข้าไปในย่าม นางไม่คิดอธิบายเพิ่มเติม
หยางหลินอี้เริ่มการรักษาโดยใช้สมุนไพรในโรงหมอเซี่ยงเหอผสมกับวิธีที่นางปรับใช้จากความรู้ทางการแพทย์ยุคปัจจุบัน
สมุนไพรล้างพิษนางเตรียมยาล้างพิษจากสมุนไพรชนิดต่าง ๆ โดยใส่สัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบต่ออวัยวะอื่นของผู้ป่วย สมุนไพรเหล่านี้ถูกต้มในน้ำร้อนเพื่อดึงสารสำคัญออกมา และต้องประคองอวัยวะสำคัญด้วยหยางหลินอี้จึงใช้สมุนไพรบำรุงช่วยเสริมการทำงานของตับและไตในระหว่างการล้างพิษ นางกำชับหมอเซี่ยงให้จัดเตรียมน้ำเกลือที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย
วิธีเสริมที่เหนือความคาดหมายในขณะที่ทุกคนคิดว่าหลินอี้กำลังปรุงยา นางแอบใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็กที่นางหยิบมาจากแหวนมิติออกมาเพื่อช่วยฉีดสารช่วยเร่งการล้างพิษเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยโดยตรง
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ป่วยที่เคยมีอาการลมหายใจรวยรินเริ่มกลับมาหายใจได้สะดวกขึ้น ใบหน้าที่เคยซีดขาวเริ่มมีสีเลือดฝาด
“อาการดีขึ้นแล้ว” หมอเซี่ยงอุทานอย่างดีใจ
หลินอี้พยักหน้า “แต่อย่าเพิ่งวางใจ ต้องติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด ฝากท่านปรุงยาที่ช่วยฟื้นฟูอีกหนึ่งชุดแต่ต้องปรุงอย่างระมัดระวังไม่ให้เข็มข้นมากเกินไปนะเจ้าคะ”
“ได้ ขอบใจท่านมาก”
เมื่อหลินอี้ออกมาจากห้องตรวจ เสียงพูดคุยของชาวบ้านรอบข้างค่อย ๆ เงียบลงเมื่อเห็นหมอหญิงปรากฏตัว นางมองไปยังกลุ่มชายจากตระกูลเจ้าเมือง
“อาการของผู้ป่วยเกิดจากสมุนไพรปลอม ไม่ใช่เพราะยาของโรงหมอเซี่ยงเหอ หากเจ้าต้องการหลักฐาน ข้าสามารถแสดงให้ดูได้” นางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง
ชายกลุ่มนั้นเริ่มมีท่าทีลังเลและเงียบงัน
“เจ้ากำลังจะบอกว่าอาการของคุณชายรองของพวกเราไม่เกี่ยวกับโรงหมอนี้หรือ”
เขาถามเสียงเย็น แววตาแหลมคมจ้องตรงมาที่หนางหลินอี้ที่ไม่สะทกสะท้าน นางตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ใช่ สมุนไพรปลอมที่ปนเปื้อนมาในของกินเป็นสาเหตุ หากต้องการหลักฐานเพิ่มเติม ข้ายินดีตรวจสอบดูให้ชัดเจนมากกว่านี้ได้”
ชายคนนั้นยิ้มเย้ย
“หากเจ้าพูดเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าโรงหมอนี้ไม่ได้ใช้สมุนไพรคุณภาพดี สมควรแล้วที่ท่านเจ้าเมืองต้องการปิดมัน”
เสียงถกเถียงของพวกชาวบ้านดังขึ้นอีกครั้งบางคนเริ่มคล้อยตามคำกล่าวหานั้น
“เหอะ ว่าแต่ เจ้าเป็นใครถึงกล้าพูดเรื่องนี้กับเรา” ชายอีกคนในกลุ่มตะโกนแทรก น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกดดันต่อฝ่ายตรงข้าม “มิใช่ว่าเจ้าเป็นแค่หมอเร่ร่อนที่โรงหมอจ้างมาเพื่อปิดบังความผิดพลาดหรอกนะ”
หยางหลินอี้ยิ้มเย็นภายใต้ผ้าคลุม นางก้าวไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียวทว่าท่าทางสงบนิ่งของนางกลับทำให้ชายเหล่านั้นรู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่อาจอธิบายได้
“ข้าคือหมอที่มีความสัมพันธ์อันดีกับโรงหมอแห่งนี้” นางพูดชัดเจน ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังชายที่กล่าวหานาง “หากพวกท่านคิดว่าโรงหมอนี้ไม่มีมาตรฐาน ที่นี่คงไม่สามารถเปิดมาได้นานหลายชั่วอายุคนหรอกกระมัง ความจริงข้าพบสมุนไพรเจี่ยงหวงปลอมในสิ่งที่ผู้ป่วยกินเข้าไป สมุนไพรนี้ไม่ได้มาจากที่นี่ หากจะหาคนรับผิดชอบ คงต้องเริ่มจากแหล่งที่มาของมัน”
“แล้วเจ้ามีหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่าไม่ใช่โรงหมอนี้ที่จ่ายสมุนไพรนั้นมา”
หยางหลินอี้ยกย่ามของนางขึ้นมา และหยิบเศษสมุนไพรเจี่ยงหวงปลอมออกมา “นี่คือสมุนไพรที่ข้าพบในตัวผู้ป่วย มันเป็นเจี่ยงหวงคุณภาพต่ำที่ถูกผสมด้วยสารที่ไม่ควรใช้ในยา โรงหมอนี้ไม่เคยจ่ายสมุนไพรเช่นนี้ออกไป และหากเจ้าต้องการ ข้ายินดีตรวจสอบสมุนไพรทั้งหมดในคลังของโรงหมอเพื่อเปรียบเทียบ”
ชาวบ้านที่ยืนมุงเริ่มซุบซิบกันอีกครั้ง บางคนที่เคยรักษาในโรงหมอเซี่ยงเหอก็เริ่มพูดขึ้นมา
“ข้าก็เคยรักษาที่นี่ พวกเขาดูแลข้าดีมาก”
“ใช่ พวกเขาไม่เคยให้สมุนไพรคุณภาพต่ำเลย”
ชายจากตระกูลเจ้าเมืองดูเหมือนจะไม่พอใจ เขาหันไปมองลูกน้องของเขาก่อนจะหันกลับมาหาหลินอี้
“เจ้าพูดเก่งดียิ่งแต่คำพูดของเจ้ายังไม่พอที่จะลบล้างความผิดของโรงหมอนี้ หากไม่มีหลักฐานชัดเจนโรงหมอแห่งนี้ต้องถูกปิด!”
หลินอี้สูดลมหายใจลึกก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงทรงพลัง
“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอให้เจ้าทำตามเงื่อนไขที่ยุติธรรม หากข้าพิสูจน์ได้ว่าโรงหมอไม่ได้เกี่ยวข้อง เจ้าจะถอนคำกล่าวหาและขอโทษโรงหมอเซี่ยงเหอต่อหน้าชาวบ้านทั้งหมด”
“แล้วถ้าพิสูจน์ไม่ได้ล่ะ” ชายคนนั้นถามกลับ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความท้าทาย
“หากพิสูจน์ไม่ได้ ข้าจะยอมรับผิดและจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก” หลินอี้ตอบอย่างหนักแน่น
เมื่อทุกอย่างถูกตรวจสอบหลินอี้ใช้สมุนไพรจากคลังโรงหมอเปรียบเทียบกับตัวอย่างสมุนไพรปลอมที่นางพบในตัวผู้ป่วย ผลลัพธ์ยืนยันชัดเจนว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ส่งเสียงสนับสนุนนาง บางคนเริ่มตำหนิกลุ่มชายจากตระกูลเจ้าเมืองที่พยายามใส่ร้ายโรงหมอ
“ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด” หลินอี้กล่าวกับชายที่กล่าวหา
ชายคนนั้นกัดฟันแน่นก่อนจะก้มหน้าอย่างไม่เต็มใจ
“ข้าขอโทษที่กล่าวหาโรงหมอโดยไม่มีหลักฐาน”
หลินอี้ยิ้มบางแม้จะเป็นชัยชนะเล็ก ๆ แต่นางก็รู้ว่ามันสำคัญสำหรับชื่อเสียงของโรงหมอเซี่ยงเหออย่างยิ่ง
