EP04 [โทษทัณฑ์จากสวรรค์]
“เทียนเหอ แม้ท่านไม่กล่าวสิ่งใดออกมา บัดนี้ ตัวข้าก็ได้รู้แจ้งกระจ่างแก่ใจแล้ว” กล่าวจบ หลี่เซี่ยนก็เบือนสายตาจากเทียนเหอด้วยไม่อยากทนเห็นสายตาที่แสนเย็นชาคู่นี้อีกต่อไป
“นำตัวเซียนผู้นี้ไปขังไว้ที่คุกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แม้ไม่ได้รับคำสั่งจากข้า ก็จงห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าออกเป็นอันขาด” เทียนเหอกล่าวข้อสรุปออกมาด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก หากแต่ในน้ำเสียงกลับมีความเย็นชาปนอยู่หลายส่วน
หลี่เซี่ยนที่ได้ยินดังนั้นพลันใจสลายไปสิ้น เทียนเหอไม่เชื่อในตัวเขา อีกทั้งยังกล่าวตัดสินโทษด้วยความเย็นชาถึงเพียงนี้ วาสนาที่เคยร่วมมี เห็นทีจะเทียบไม่ได้กับความสัมพันธ์ที่แสนแน่นแฟ้นของเทียนเหอและเทพธิดาที่อยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายเสียแล้ว
หลี่เซี่ยนทอดถอนใจ ก่อนจะตัดใจให้ขาดกับความรักที่โง่งมแล้วหันมาบอกกล่าวแก่เซียนทั้งหลายในที่แห่งนี้
“นามของข้าคือ หลี่เซี่ยน ตัวข้าไม่ขอยอมรับในความผิดที่ข้าไม่ได้ก่อ และยิ่งจะไม่ร้องขอความเป็นธรรมจากเหล่าเซียนทั้งหลายในที่แห่งนี้ พวกท่านหาได้จำเป็นต้องรบกวนองค์ไท่จื่อผู้นี้ให้มาตัดสินโทษทัณฑ์นี้แก่ตัวข้า” กล่าวจบ หลี่เซี่ยนก็หันหน้าไปมองยังอิงฮวา ที่แม้ไร้เรี่ยวแรงแต่บัดนี้ก็ได้สติฟื้นคืนมาบ้างแล้ว
“นามของเทพธิดาผู้นี้คืออิงฮวาใช่หรือไม่ ท่านคงเป็นผู้ที่ไท่จื่อผู้นี้นั้นรักมากปานดวงใจ ข้าต้องขอบคุณท่าน ที่ทำให้ข้ารู้แจ้งแล้วว่า นอกจากละครงิ้วในแดนมนุษย์ที่ข้าได้เคยชม แท้จริงแล้วแดนสวรรค์แห่งนี้ก็มีให้ชมเฉกเช่นกัน หากแต่เซียนผู้น้อยเช่นข้านั้นกลับคาดไม่ถึง ว่าเทพธิดาเช่นท่านจะลดกายลงมาแสดงละครงิ้วเยี่ยงมนุษย์ อีกทั้งยังแสดงออกมาได้อย่างดียิ่งอีกด้วย” หลี่เซี่ยน กล่าวชื่นชมอีกฝ่ายจากใจจริง เมื่อกล่าวจบก็ได้แต่ยกยิ้มให้กับความโง่งมของตนเองอีกครา
“จิ้งจอกตนนี้ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก กระทำความผิดแล้วยังไปกล่าวโทษผู้อื่น เช่นนั้นก็จงเตรียมตัวรับโทษทัณฑ์จากสวรรค์เพื่อชดใช้ความผิดในครานี้เถิด” เสียงต่อว่าก่นด่ามากมายเริ่มดังขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง
“โทษทัณฑ์จากสวรรค์เช่นนั้นรึ เหตุใดข้าจะต้องก้มหัวยอมรับมันด้วยเล่า” หลี่เซี่ยนพูดพลางหันไปสบตากับเซียนผู้หนึ่งที่ได้กล่าวต่อว่าตนเมื่อครู่นี้
“ช่างพูดจายโสโอหังยิ่งนัก ขอองค์ไท่จื่อโปรดกล่าวตัดสินลงทัณฑ์เซียนน้อยผู้นี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วยเถิด” ดูท่าแล้วเซียนผู้นี้ช่างดูแค้นฝังจิตฝังใจกับหลี่เซี่ยนมากเป็นพิเศษ ก่อนจะมีเซียนอาวุโสอีกผู้หนึ่งที่ก้าวออกมาทวงถามความเป็นธรรมแก่เทพธิดาสาวอย่างอิงฮวาอีกครั้งหนึ่ง
“เทพธิดาอิงฮวาบาดเจ็บถึงปานนี้ อีกทั้งปราณเซียนก็ได้รับความเสียหาย เช่นนั้นขอองค์ไท่จื่อได้ให้เซียนน้อยผู้นี้ชดเชยด้วยปราณเซียนทั้งหมดที่เขามีด้วยเถิด”
เหล่าเซียนทั้งหลายล้วนต่างพากันเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่อิงฮวา ซึ่งนั่นก็ได้สร้างความกดดันแก่องค์ไท่จื่ออย่างเทียนเหอ อยู่ไม่น้อย
อิงฮวาเป็นถึงธิดาแห่งอดีตเทพสงครามของกองทัพสวรรค์ ครั้นเมื่อเทียบกันกับหลี่เซี่ยนแล้วนั้น ความน่าเชื่อถือและน่าเห็นใจของทั้งคู่ช่างดูแตกต่างกันถึงเพียงนี้
ด้วยเหตุนี้ ย่อมไม่มีผู้ใดหาญกล้าที่จะออกหน้าแทนเซียนผู้น้อยเช่นหลี่เซี่ยน แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าจะยังมีเซียนบางกลุ่มที่ไม่ได้ออกความคิดเห็นหรือยังไม่ปักใจเชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ แต่ใครเล่าจะอยากเป็นศัตรูกับธิดาแห่งเทพสงคราม
เช่นนี้แล้ว หากแม้ไม่ได้คล้อยตาม แต่การเงียบปากเก็บถ้อยคำไว้ในยามนี้ เห็นทีว่าจะเป็นการดีที่สุด
“หลี่เซี่ยน เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า ต่อจากนี้ถึงจะอย่างไรข้าก็ยินดีที่จะอยู่ข้างกายเจ้าไม่จากไปไหน” เทียนเหอกล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจบอกได้ว่าแท้จริงแล้วเขานั้นรู้สึกเช่นไร
หากแต่ความรู้สึกของผู้ฟังอย่างหลี่เซี่ยนนั้น แน่นอนว่าย่อมต้องมีแต่ความผิดหวังและความเสียใจที่ไม่อาจข่มไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
“อยู่ข้างกายข้าต่อจากนี้เช่นนั้นรึ เทียนเหอ ข้าเพียงต้องการให้ท่านอยู่เคียงข้างกายข้าในยามนี้ หาใช่ต้องรอภายภาคหน้าหรือภายหลังจากที่ข้าต้องสละปราณเซียนนี้ให้แก่หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของท่าน” หลี่เซี่ยนกล่าวจบก็เว้นระยะเพียงครู่เพื่อปรายตามองไปยังเหล่าเซียนทั้งหลายที่กำลังจับจ้องมาที่ตนอยู่ ณ ขณะนี้ ก่อนที่สายตาจะหยุดจ้องมองไปยังดวงหน้าของอิงฮวาที่ตอนนี้เจ้าตัวนั้นได้ลอบส่งสายตามองมาที่ตัวเขาสักระยะแล้ว
บัดนี้หลี่เซี่ยนล้วนกระจ่างแก่ใจแล้ว แดนมนุษย์ก็ดี แดนสวรรค์ก็ช่าง เหล่านี้ล้วนไม่แตกต่าง ผู้คนแก่งแย่งชิงดีเช่นไร เหล่าเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ก็ไม่สิ้นไร้มารยาเช่นนั้น
เดิมทีตัวเขาก็เป็นเพียงจิ้งจอกน้อยที่ปรารถนาจะบรรลุเป็นเซียนเพื่อหลุดพ้น หากเมื่อเป็นเซียนแล้วยังไม่อาจหลุดพ้น เช่นนั้นปราณเซียนทั้งหมดนี้ก็จงทิ้งมันไปเสียเถิด
“ปราณเซียนเพียงน้อยนิดที่ข้ามี ข้ายินดีสละมันให้ท่าน แม้จะเป็นความผิดที่ตัวข้านั้นไม่ได้ก่อ ทั้งนี้ก็เพียงเพื่อชดเชยในความโง่เขลาของตัวข้าเอง จะตำแหน่งเซียนก็ดี หรือเผ่าสวรรค์ก็ช่าง ข้านั้นล้วนยินดีตัดขาดมันให้สิ้น” หลี่เซี่ยนนั้นกระจ่างแก่ใจแล้วว่า ที่แห่งนี้ล้วนไม่ใช่ที่ของตน และไท่จื่อผู้นี้ก็เป็นเพียงชายแปลกหน้าสำหรับตัวเขาแล้วเช่นกัน
“จงนำตัวเขาไปขัง อีกเจ็ดวันให้หลังเมื่อเสร็จสิ้นพิธีขึ้นทะเบียนเซียนใหม่ค่อยนำตัวออกมารับโทษ” เทียนเหอออกคำสั่งแก่เหล่าทหารสวรรค์ โดยไม่แม้แต่จะหันมาสบตากับหลี่เซี่ยนที่ตอนนี้กำลังจดจ้องไปที่ใบหน้าของเขาด้วยความผิดหวังอย่างไม่วางสายตา
เป็นใบหน้านี้เองที่เขานั้นได้เคยหลงใหล และก็เป็นใบหน้านี้เช่นกัน ที่ทำให้ชีวิตของเขานั้นต้องเวียนมาพบกับจุดจบที่น่าสังเวชใจถึงเพียงนี้
“เทียนเหอ วาสนาของท่านและข้านั้นช่างเปราะบาง หากแม้วันหน้าโชคชะตาของท่านกับข้าเวียนมาบรรจบ ต่อให้ตัวข้านั้นกำลังจะสิ้นไร้ซึ่งลมหายใจต่อหน้าท่าน ข้าก็ขอให้ท่านจงเมินข้าเสีย แลตัวข้าเองนั้นก็จะกระทำต่อท่านเฉกเช่นถ้อยคำที่ข้าได้กล่าวไป” เมื่อพูดจบหลี่เซี่ยน เทียนเหอก็ไม่รั้งรอให้ผู้ใดต้องมากล่าวโทษหลี่เซี่ยนได้อีกครั้ง โดยเขาก็ได้ออกคำสั่งให้องครักษ์ประจำกายนำตัวคนรักไปคุมขังเพื่อรอคำตัดสินโทษในทันที
หลี่เซี่ยนที่ไม่อาจต่อต้าน บัดนี้ก็ทำได้เพียงก่นด่าตนเองอยู่ภายในใจ
แม้เป็นเซียนแล้วแต่ก็ยังไม่อาจหลุดพ้น เช่นนั้นแล้ว ที่ตัวเขาสู้ทนบำเพ็ญเพียรมาเนิ่นนานจะนับได้ว่ามีประโยชน์อันใดเล่า
อดีตนั้นตัวข้าช่างโง่งมนัก เพียงแค่เศษเสี้ยวของความสงสารที่ได้รับจากท่าน ข้ากลับเก็บเอาไปคิดวาดฝันถึงอนาคตอันแสนหวานมากมายเสียแล้ว แต่สุดท้าย แม้ตัวตนที่แท้จริงของท่าน ข้านั้นก็ต่ำต้อยเกินกว่าที่จะมีโอกาสได้รับรู้
ไท่จื่อผู้สูงศักดิ์เช่นท่าน ไหนเลยจะมารักกับจิ้งจอกผู้ต่ำต้อยเช่นข้าได้
