บท
ตั้งค่า

EP05 [คุกสวรรค์]

ชั่วชีวิตที่ผ่านมาเนิ่นนานนี้ ที่สุดแล้ว หลี่เซี่ยนไหนเลยจะเคยได้จินตนาการมาก่อนว่าตนนั้นจะถูกชายผู้เป็นที่รักสั่งให้เหล่าทหารชั้นฟ้านั้นมาจับมาขังไว้ที่คุกสวรรค์แห่งนี้ แม้กล่าวว่าเป็นสวรรค์ แต่สุดท้ายแล้ว หลี่เซี่ยนก็กระจ่างแก่ใจในวันนี้แล้วว่า ที่แห่งนี้ก็ยังคงมีสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมย์ถึงเพียงนี้

ในวันแรกนั้น หลี่เซี่ยนก็ล้วนปล่อยวางได้แล้ว โทษทัณฑ์อันใด แม้เจ้าตัวไม่เต็มใจที่จะรับแต่ก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยง แต่ละวันล้วนผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า จวบจนย่างก้าวเข้าสู่คืนที่ห้า ในขณะที่หลี่เซี่ยนนั้นกำลังหลับใหลอยู่ก็ได้มีนางกำนัลสองนางพร้อมด้วยเทพเซียนผู้หนึ่งที่ลดกายลงมาเยี่ยมเยือนตัวเขาถึงในคุกสวรรค์แห่งนี้

“ลำบากเจ้าแล้ว เซียนน้อยเอ๋ย ด้วยว่าเจ้านั้นช่างหาญกล้า ริอ่านเป็นศัตรูหัวใจกับเทพธิดาผู้เป็นที่รักของเซียนทั่วทั้งแดนสวรรค์อย่างเทพธิดาอิงฮวา” เมื่อเซียนผู้นั้นกล่าวจบ หลี่เซี่ยนก็ทำได้เพียงแค่นยิ้มให้กับตัวเอง แม้ตัวเขาจะมีอายุเพียงไม่กี่ร้อยปี แต่เมื่อเทียบกับการแสดงเหล่านี้ก็นับได้ว่าพอจะมองออกได้ไม่ยากแล้ว

“ตัวข้าที่แสนต่ำต้อย คงไม่อาจรบกวนเวลาของพวกท่านให้นานไปเกินไปมากกว่านี้ หากท่านมีสิ่งใดอยากจะกล่าว ก็จงกล่าวมันออกมาอย่างตรงไปตรงมาเสียทีเถิด” หลี่เซี่ยนเบื่อหน่ายกับการเล่นคำของเผ่าสวรรค์นี้เต็มทน

“โทษของเจ้า องค์ไท่จื่อได้ประกาศออกมาแล้ว หากแต่ยามนี้ ทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้านั้นกำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดงานอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นในไม่กี่วันนี้ ด้วยเหตุนี้องค์ไท่จื่อจึงไม่มีเวลาได้ลงมาจัดการโทษทัณฑ์นี้แก่เจ้าก็เพียงเท่านั้น ที่เจ้ายังอยู่รอดได้ถึงวันนี้ ก็นับได้ว่าช่างมีวาสนามากเกินไปแล้ว” เมื่อเทพเซียนผู้นั้นกล่าวจบ ก็ได้โยนฎีกาฉบับหนึ่งให้ตกลงตรงหน้าของหลี่เซี่ยน

ฎีกาฉบับนี้ ระบุโทษทัณฑ์ของเขาเอาไว้อย่างชัดเจน โดยโทษที่ระบุนั้นก็คือการตัดชื่อออกจากบัญชีรายชื่อของเหล่าเซียนพร้อมทั้งส่งตัวเขากลับไปยังแดนมนุษย์ หากแต่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในภพของเดรัจฉานไปอีกสามชาติภพ ไม่มีโอกาสบำเพ็ญเพียรเพื่อกลับขึ้นมาเป็นเซียนได้อีกต่อไป

เมื่ออ่านจบถึงตรงนี้ หลี่เซี่ยนก็พลันแสยะยิ้มให้กับชะตาชีวิตที่แสนต้อยต่ำของตัวเอง

“หึ โทษของข้า?” หลี่เซี่ยนเฝ้าย้อนคิดปราณเซียนที่เขานั้นเฝ้าฝึกฝนมา สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มีค่ามีราคาอันใดมากมาย และตัวเขาเองก็ไม่ปรารถนาที่จะอยู่ในแดนสวรรค์ที่แสนโสมมแห่งนี้อีกต่อไปแม้เพียงแค่อึดใจเดียว เช่นนั้นแล้วหลี่เซี่ยนก็ยินดีที่จะจากไป หากแต่เรื่องอันใดที่เขาจะต้องไปเกิดเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานด้วยเล่า

ในขณะที่หลี่เซี่ยนกำลังไม่พอใจในโทษที่ตนจะได้รับ อิงฮวาก็ได้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าของเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเข้ามาใกล้อีกสักหน่อยแล้วจึงค่อยๆย่อกายลงเพื่อกล่าวสักประโยคอย่างแผ่วเบา

“ตัวข้าเป็นถึงเทพธิดาแห่งแดนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ข้าย่อมไม่ปรารถนาที่จะแบ่งความรักนี้กับผู้ใด หากจะกล่าวโทษ ก็จงโทษที่เจ้าเกิดมาต้อยต่ำเถิด” อิงฮวากล่าวตอกย้ำความเจ็บช้ำให้แก่อีกฝ่ายด้วยชาติกำเนิดที่แสนจะต่างกันถึงเพียงนี้

“ข้าและเทียนเหอรักกันมาเนิ่นนาน เดิมทีงานอภิเษกของข้าและเขานั้นยังไม่ทันได้ถึงกำหนดเร็วพลันถึงเพียงนี้ หากแต่เป็นเทียนเหอ ที่ตอนนี้เห็นแล้วว่าตัวข้าในยามนี้แสนจะอ่อนแอจึงได้ร้องขอให้เลื่อนงานอภิเษกนี้เข้ามาให้เร็วขึ้นอีกสักหน่อย หากว่าเจ้าไม่เชื่อ เช่นนั้นก็เปิดดูฎีกาทั้งสองฉบับนี้ด้วยสองตาของเจ้าเองเถิด” หลี่เซี่ยนได้ยินดังนั้น ก็เปิดฎีกาอีกฉบับที่ตนนั้นรับไว้มาก่อนหน้าออกมาดู

จิตใจที่จวนสลายแล้ว บัดนี้ ได้แตกสลายลงไปแล้วอย่างไม่มีชิ้นดี

ฎีกาสองฉบับนี้ ฉบับแรกคือบทลงโทษที่ยื่นเพื่อสำเร็จโทษให้แก่ตัวเขา และฎีกาฉบับที่สองก็คือการขอให้มีการกำหนดงานอภิเษกของเทียนเหอกับเทพธิดาอิงฮวานั้นไม่ผิดจากที่นางได้กล่าวไว้แม้แต่น้อย

และทั้งสองฉบับนี้ ล้วนแล้วแต่ลงนามด้วยลายมือชื่อที่สลักปราณเซียนของเทียนเหอไว้อย่างถูกต้องทุกประการ

“ที่ข้ามาในวันนี้ ก็เพียงเพื่อเสนอทางออกหนึ่งให้แก่เจ้า โดยปราณเซียนของเจ้าจะยังไม่ถูกทำลาย เจ้าไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเดรัจฉาน หากแต่ชั่วชีวิตนี้จงอย่าได้คิดที่หวนคืนมาสู่แดนสวรรค์แห่งนี้อีกเป็นอันขาด เจ้ายินดีที่จะรับข้อเสนอนี้หรือไม่”

“เดิมทีแดนสวรรค์แห่งนี้ก็ไม่ใช่ที่ที่ข้าควรจะอยู่ เช่นนั้นแล้วตัวข้าก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะจากไป” หลี่เซี่ยนกล่าวออกมาอย่างไม่มีความอาลัยในที่แห่งนี้เลยแม้แต่น้อย ถ้าเพียงแค่จากไปก็ไม่มีสิ่งใดให้ตัวเขาต้องเป็นกังวลอีกต่อไปแล้ว

บุรุษที่ไม่อาจเคียงข้างและไม่แม้แต่จะปกป้องเขาได้ ฝืนทนรักไปก็แลดูจะไร้หนทางเคียงคู่ที่สงบสุข เช่นนั้นแล้ว วาสนานี้ก็ให้มันขาดสะบั้นลงเสียเถิด หลี่เซี่ยนคิดหาทางออกให้แก่ดวงใจที่ปวดร้าวของตนเอง

“การที่เจ้ายินดีที่จะจากไป ข้าก็ไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ หากแต่ตัวข้านั้นบาดเจ็บถึงเพียงนี้ อีกทั้งปราณเซียนที่มีก็ได้รับความเสียหายไปไม่น้อย เช่นนั้นแล้ว...” อิงฮวากล่าวเพียงเท่านั้น ก่อนจะใช้พลังเวทย์ขั้นสูงของตนข่มหลี่เซี่ยนให้คุกเข่าลงตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆย่างก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายในระยะที่ใกล้ชิดเพียงเอื้อมมือ เมื่อประจันหน้ากันอย่างชัดเจนแล้วจึงกล่าวประโยคสุดท้ายที่ตนได้เว้นไว้เมื่อครู่นี้ออกมาให้จบ

“...เช่นนั้นแล้ว ปราณเซียนนี้ของเจ้า ก็จงมอบมันให้แก่ข้าเถิด” กล่าวจบ หลี่เซี่ยนที่ร่างกายถูกผนึกไว้ทั้งเป็นอย่างกะทันหันก็ได้แต่จำยอมรับความเจ็บปวดที่กำลังแล่นผ่านไปทั่วกายอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาไม่อาจเอื้อนเอ่ยสิ่งใด หรือขยับร่างกายใดๆได้เลยแม้แต่น้อย

ยามนี้เห็นจะมีเพียงดวงตาคู่สวยทั้งสองข้างที่กำลังสั่นไหวไปด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่ปราณเซียนขาวบริสุทธิ์ถูกดึงออกมา ก่อนที่เจ้าตัวจะกระอักเลือดด้วยว่าไม่อาจทนทานความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในร่างกายอีกต่อไป

การถูกช่วงชิงปราณเซียนนั้นก็ไม่ต่างจากการถูกเฉือนเนื้อ หักกระดูก เช่นนั้นแล้ว เซียนน้อยที่มีอายุเซียนไม่ถึงหนึ่งเดือนเต็มอย่างหลี่เซี่ยนไหนเลยจะทนความเจ็บปวดนี้ได้นาน

“ปราณเซียนของเจ้า แม้จะมีเพียงน้อยนิด ก็ถือได้ว่าทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาอยู่ไม่น้อย” อิงฮวากล่าวพลางทิ้งร่างของหลี่เซี่ยนที่หมดปราณเซียนแล้วนั้นให้นอนหายใจรวยรินอย่างทุกข์ทรมาน

“ข้าบอกเจ้าว่า เจ้าไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานนั้นเป็นเรื่องจริง หากแต่ข้าไม่เคยกล่าววาจาที่ว่าจะส่งเจ้ากลับไปยังแดนมนุษย์” อิงฮวากล่าวจบประโยคก็หันไปสั่งให้นางกำนัลที่ติดตามมาด้วยนั้น นำเม็ดยาที่เตรียมมาไว้แล้วก่อนหน้านี้บีบบังคับให้หลี่เซี่ยนต้องกลืนมันลงไป ด้วยว่าถึงจะอย่างไร นางก็ไม่อาจให้จิ้งจอกตนนี้ต้องมาจบชีวิตลงที่แดนสวรรค์แห่งนี้ได้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นแล้ว การตายของหลี่เซี่ยนคงไม่แคล้วจะมีผลต่อตำแหน่งเทียวโฮ่วในอนาคตของนางอยู่ไม่น้อย

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องราวต่างๆสาวถึงตัวนางได้ นางจึงจำต้องใช้ยานี้เพื่อช่วยยื้อระยะเวลาการมีชีวิตอยู่ของหลี่เซี่ยนให้ยาวขึ้นอีกสักเล็กน้อย อย่างน้อยก็นานพอที่จะทำให้ร่างของหลี่เซี่ยนนี้ดับสลายที่ภพอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาอยู่อย่างท่วมท้น ถ้าหากว่ากายหลี่เซี่ยนนั้นแตกดับเสียตั้งแต่อยู่แดนสวรรค์แห่งนี้

“เผ่าสวรรค์และเผ่ามารเป็นศัตรูกันมาช้านาน เช่นนั้นแล้ว เจ้าจงลงไปจุติยังภพมารเถิด” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว อิงฮวาก็หันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงร่างของหลี่เซี่ยนที่ตอนนี้สติแสนจะเลือนรางแทบจะดับสิ้นลงแล้ว

ร่างเพรียวบางที่นอนแน่นิ่งในชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดได้ถูกโยนเข้าไปสู่ประตูที่เชื่อมต่อไปยังภพมารอย่างไม่ไยดี ประตูที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกปิดตายมาเนิ่นนานกว่าหนึ่งแสนปีแล้ว

หลี่เซี่ยนที่ในขณะนี้อ่อนแอและไร้ซึ่งปราณเซียน เมื่อต้องข้ามผ่านประตูสวรรค์ก็นับได้ว่าสาหัสแล้ว หากแต่หลี่เซี่ยนนั้นยังต้องทนรับแรงกดดันจากม่านมนตราที่เข้ามาปะทะจากทั่วทุกสารทิศอย่างไม่อาจหลีกหนี

เมื่อร่างกายไม่อาจทนรับความเจ็บปวดจากทุกช่องทางที่ถาโถมเข้ามา ดวงตาที่ปิดสนิทของร่างบางในก่อนหน้านี้ก็ได้เบิกโพลงขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่ในครั้งนี้ ดวงตาคู่สวยกลับมีเพียงสีแดงเพลิงในดวงตาคมที่ดูดุดัน ร่างมนุษย์ที่ได้มาจากการบำเพ็ญเพียรมาเนิ่นนานก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย พร้อมกันนี้ก็ได้มีลำแสงสีขาวที่ส่องประกายสว่างไปทั่วร่างประหนึ่งว่าแสงสีขาวนี้กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องผู้ที่เป็นเจ้าของร่างนี้อยู่อย่างสุดกำลัง

เมื่อแสงสว่างนั้นจวนจะดับลง หางทั้งเก้าก็ได้พลันปรากฏขึ้นพร้อมทั้งแกว่งตวัดไปมาเพื่อคุ้มครองเจ้าของร่างนี้ให้รอดพ้นจากขุมพลังทั้งหลายที่ได้ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน จวบจนร่างนี้ค่อยๆหลุดพ้นจากม่านมนตรานั้นมาได้

จากคราที่ตอนแรกเป็นเพียงร่างของเซียนหนุ่มน้อยที่แสนจะอรชรผู้หนึ่งที่ร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ แต่เมื่อครั้นใกล้จะเข้าสู่ภพมารนั้น หลี่เซี่ยนในยามนี้ก็ได้กลายร่างมาเป็นเพียงจิ้งจอกเก้าหางผู้มีนัยน์ตาสีแดงเพลิงตัวน้อยเสียแล้ว

เมื่อร่างกายได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสจนกระทบถึงแก่นเซียนที่ถูกผนึกไว้ หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ความทรงจำในอดีตที่เคยเลือนรางบัดนี้ก็เริ่มปรากฏชัดเจนในความทรงจำของจิ้งจอกเก้าหางตัวน้อย ก่อนที่ห้วงสุดท้ายของชีวิตเซียนน้อยนามหลี่เซี่ยนนี้จะจบลง

ตัวข้าที่เฝ้าพยายามบำเพ็ญเพียรมาทั้งชีวิต บัดนี้กลับต้องหวนคืนสู่ความว่างเปล่า บุญคุณก็ช่าง ความแค้นก็ดี ตัวข้านั้นล้วนควรปล่อยวางให้หมดสิ้น แต่เหตุใดจิตใจที่ควรจะปล่อยวางกลับยังเต็มไปด้วยความคับแค้นใจเล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel