ตอนที่ 7 วิธีของคนขี้ขลาดและอ่อนแอ
ผมใช้วิธีนั้นจนเลเวล 8 ผมไม่รอช้าที่จะเลือกทักษะ [หอก] มาใช้ ตอนนี้ผมก็สามารถยกหอกหนักๆนั้นได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับว่าอยู่ดีๆ น้ำหนักก็เบาขึ้นซะอย่างนั้น ผมจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปจัดการ ค้างคาวปีศาจ กับหมูป่าดำ ซึ่งตอนนี้ถ้าไม่มีโพชั่นคงแย่แน่ๆ เพราะด้วยจำนวนของมอนสเตอร์มีมากขึ้น พร้อมกับพวกสเกเลตันเริ่มออกไปพักเพราะพลังชีวิตเหลือน้อย จึงเหลือแค่ไม่กี่คนที่ยังสู้อยู่
ทุกๆ ครั้งที่เลเวลเพิ่มก็จะมีไอสีดำออกจากพื้นและไหลเข้าสู่ตัวของผม ถึงจะดูชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมากมาย จนกระทั่งผมเลเวล 12 แล้ว ได้เวลาพักซะที
“น้ำผลไม้เจ้าค่ะ ท่านซาชิ”
“เอ๋...อ่ะ...ขอบคุณ...ครับ!”
ไมนด์เองก็ถือน้ำผลไม้มาให้ราวกับอ่านใจผมได้ แน่นอนว่าผมรู้สึกแปลกๆ เขินๆ กับการที่ถูกปฏิบัติอย่างดีแบบนี้ ผมจึงใช้เวลาระหว่างพักนี้ตรวจสอบสถานะของตัวเอง
[ซาชิ (ทหารฝึกหัด): Lv.12]
[ทักษะ: ปรุงยา Lv.3 / ประเมิน Lv.2 / แปรธาตุ Lv.2 / ไอเทมบ็อกซ์ Lv.None / อ่าน Lv.2 / หอก Lv.3]
[รายการทักษะ: [ซ่อน]]
“ทานซาชิเจ้าคะ ท่านอยู่ที่คลาสไหนแล้วเจ้าคะ?”
“ผมเลเวล 12 ก็น่าจะคลาส H แล้วละ”
“เร็วจัง! จะดีหรือเจ้าคะ? ที่บอกเลเวลดิฉันแบบนี้”
“ไม่มีปัญหา ผมไม่ใส่ใจเรื่องนั้นหรอก”
“แม้เดิมทีท่านไม่มีทักษะต่อสู้ ท่านยังสามารถเพิ่มเลเวลได้เร็วขนาดนี้ ท่านมีเคล็ดลับอะไรหรือเจ้าคะ?”
ไมนด์จะทำท่าทีตื่นเต้น แต่ก็น่ารักไม่หยอกเลย ถึงการจ้องหน้าเธอนานๆ จะทำให้ผมหน้าแดงก็เถอะ!
“เคล็ดลับเหรอ? ไม่มีหรอกของแบบนั้น ผมก็แค่สู้ไปเรื่อยๆ หรือเพราะผมมีโพชั่นนะ? ใช่สิ! แบบว่าใช้โพชั่นไปด้วยสู้ไปด้วยไง วิธีแบบนี้ผมทำบ่อยเลยละ”
“อย่างนั้นหรือเจ้าคะ เพราะแบบนั้นถึงได้ทำโพชั่นขึ้นมา ไม่ได้เอาไว้เพื่อรักษาเพียงอย่างเดียว แต่เอามาใช้เพื่อฟื้นพลังชีวิตด้วยสินะเจ้าคะ?”
“ใช่แล้ว ในการต่อสู้จริง หากเราบาดเจ็บเราจะขอพักก่อนไม่ได้นี่น่า การมีโพชั่นจะสร้างข้อได้เปรียบในการต่อสู้อย่างมากเลยละ แบบที่ผมทำนี่ไง แล้วก็...”
“...” ไมนด์ทำท่าทางอยากรู้
“วิธีการ หรือเปล่านะ จะเรียกว่ากลยุทธก็ไม่ถึงขั้นนั้นด้วยสิ”
“วิธีการ...กลยุทธหรือเจ้าคะ”
“ใช่ เป็นการเลือกวิธีการต่อสู้ที่เหมาะสมเช่น เอาการซุ่มโจมตี การเลือกโจมตีจุดอ่อน หรือว่ากับดักอะไรแบบนี้ ส่วนวิธีของผม ถึงจะเรียกว่าทุ่นแรงซะมากกว่า เพราะไม่ได้ดีถึงขนาดจะเรียกว่ากับดักได้ ก็แค่หาของหนักๆ ไปทุ่มใส่สไลม์แค่นั้นเอง”
“แต่นั่นมันดูขี้ขลาดนี่เจ้าค่ะ”
“ฮ่าๆ ถึงมันจะดูขี้ขลาด แต่มันก็เป็นวิธีที่ทำให้ได้ผลลับดีๆ เหมาะสำหรับคนอ่อนแอบแบบผมละนะ”
“...”
“ส่วนกลยุทธ ก็เป็นการเลือกวีธีการที่เรียกว่าขั้นสูงมากๆ เพราะต้องใช้ประสบการณ์มากกว่า เป็นการเลือกวิธีที่ทำให้เราได้เปรียบในการต่อสู้ เช่น การโจมตีจุดบอดหรือจุดอ่อน การซุ่มโจมตี วางกับดัก และวีธีการเคลื่อนที่ระหว่างการต่อสู้ ทำให้แม้แต่คนที่มีเลเวลต่ำก็จะสามารถต่อสู้กับคนที่มีเลเวลสูงได้เลยนะ”
“ดิฉันเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เพราะผลออกมาชัดเจนอย่างนี้ ทั้งๆ ที่วันนี้สเกเลตันที่สามารถขึ้นเป็นคลาส I ยังไม่มีเลยสักคน แถมยังหมดแรงนั่งพักกันหมดแล้ว แต่ท่านกลับใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน แถมยังออกมานั่งดื่มน้ำผลไม้อย่างใจเย็นได้อีก ดิฉันนับถือจริงๆ เจ้าค่ะ”
“แฮะๆ ถ้าอย่างนั้น วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าดรอปไอเทมพวกนี้จะขายได้ไหมนะ?”
ผมเอาของที่ได้จากสู้กับมอนสเตอร์ออกมาให้เธอดู มีทั้ง [เขี้ยวหมูป่าดำ] [เนื้อหมูป่าดำ] [หนังหมูป่าดำ] [ปีกค้างคาวปีศาจ] [เขี้ยวค้างคาวปีศาจ] [เมือกสไลม์] และ [เศษศิลาเวท] เธอเองก็ตกใจไม่น้อยเพราะมีทหารฝึกหัดจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะเก็บดรอปไอเทมได้มากมายขนาดนี้ เนื่องจากการต่อสู้ที่อันตรายจึงไม่มีใครที่สนใจเก็บ และไอเทมพวกนั้นก็จะสลายหายไปในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้าหากมีใครเก็บไอเทมนั้นไว้ ไอเทมนั้นก็จะไม่มีวันหายไปจนกว่าถูกใช้จนหมดอายุไขของมัน
“ไอเทมจำนวนขนาดนี้ ถ้านำไปขายท่านก็จะมีเงินใช้จ่ายได้ทั้งสัปดาห์เลยนะเจ้าคะ!”
“ช่วยเอาไปขายให้ผมหน่อยแล้วกัน แล้วผมจะไปรอที่หอสมุดนะ ว่าจะไปหาหนังสือปรุงยาเล่มใหม่สักหน่อย”
ผมส่ง [เขี้ยวหมูป่าดำ] [หนังหมูป่าดำ] [เขี้ยวค้างคาวปีศาจ] [เมือกสไลม์] ให้ไมนด์ ส่วนที่เหลือผมคิดว่าคงได้ใช้ในโอกาสต่อไปแน่ๆ
“เจ้าค่ะ ดิฉันจะรีบไปรีบมานะเจ้าคะ”
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้” ผมโบกมือให้ไมนด์ และผมก็เดินไปที่หอสมุดเพื่อดูวิธีปรุงยาใหม่ หวังว่าจะได้โพชั่นที่ดีกว่าของเดิม
“นั่นนะหรือผู้กล้า! ช่างเป็นคนที่ท่าทางอวดดีจริงๆ ทั้งที่ท่าทางอ่อนแอแท้ๆ” เสียงปริศนาที่ออกมาหลังกลุ่มสเกเลตันที่นั่งพักอยู่ เพียงแต่ตัวผมนั่นอยู่ห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงที่เป็นดังสัญญาณอันตรายกำลังคืบคลานมาหาตัวผม
[-]
“ท่านซาชิๆ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ!!”
“มีอะไรเหรอ? ท่าทางดูตื่นเต้นขนาดนั้น”
“ดิฉันเอาไอเทมไปขายมาแล้วเจ้าค่ะ ได้มา 4 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดงเลยนะเจ้าคะ”
“แล้ว 4 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดงนี่มันเยอะหรือเปล่า? พอดีผมยังไม่รู้ค่าเงินของที่นี่เลย”
“100 เหรียญทองแดง เท่ากับ 1 เหรียญเงิน 100 เหรียญเงิน เท่ากับ 1 เหรียญทองเจ้าค่ะ 5 เหรียญทองแดงก็ใช้ซื้ออาหารได้หนึ่งมื้อ 25 เหรียญทองแดงก็สามารถเช่าโรงแรมได้หนึ่งคืนประมาณนี้เจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ใช้จ่ายได้ประมาณสี่วันสินะ แล้วหญ้าเลือดเมื่อวานซื้อมาในราคาเท่าไรเหรอ?”
“10 เหรียญทองแดงเจ้าค่ะ!”
“ถูกจัง”
“ที่หญ้าเลือดมันถูกเพราะมันเป็นอาหารไวเวิร์นอยู่นะเจ้าคะ!”
“เอ๋!! แปลว่าคุณค่าของมันพอๆ กับฟางที่ม้ากินเลยนะสิ เฮ้อ!”
“แล้วท่านกำลังอ่านอะไรอยู่เจ้าคะ?”
“[หนังสือปรุงยาระดับ 2] ละ ผมอ่านจบแล้ว กำลังเขียนรายการสมุนไพรที่จะฝากไมนด์ไปซื้ออยู่”
ไมนด์ทำหน้าดีใจจนผมคิดว่าเธอไม่เหนื่อยหรือไง ทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาจากไปขายไอเทมก่อนหน้านี้แท้ๆ
“เจ้าค่ะ เพียงแค่ท่านซาชิสั่งมา ดิฉันจะหาทุกอย่างตามที่ต้องการให้ แม้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ดิฉันก็จะหามาให้ได้เจ้าค่ะ” ผมยื่นรายการสมุนไพรให้กับไมนด์
“แล้วเจอกันที่ห้องพักของผมเหมือนเดิม” ถึงการนัดผู้หญิงคนหนึ่งไปห้องของตัวเองจะไม่ดีก็เถอะ แต่มันไม่มีสถานที่นี่นา
“เจ้าค่ะ”
“อ่อ แล้วอีกอย่าง...ฝากเอาเงินที่ยืมมาเมื่อวานไปคืนปู่บ๊อปด้วยนะ”
“ได้เลยเจ้าค่ะ!” แล้วเธอก็รีปออกไปด้วยท่าทีดีใจ
[-]
ผมกลับมารอที่ห้องพักของผม คงจะต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะซื้อของได้ครบ ผมเลยอยากจะลองทำบางอย่าง บางอย่างที่ไมนด์บอกว่าไม่มีปีศาจคนไหนทำกัน นั่นคือการ “ภาวนาดูดกลืนไอปีศาจ”
เมื่อผมมั่นใจแล้ว ผมก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง หลังพิงผนังห้องแล้วลองทำสมาธิอย่างที่เคยทำในห้องเรียน หายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก ทำแบบเดิมซ้ำๆ แม้ยังไม่ชินสักเท่าไร ผมก็ยังทำต่อไป
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะ ทำไมเหมือนผมล่องลอยอยู่พื้นที่มืดมิด ไม่มีพนัง ไม่มีพื้น ไม่มีแสงลอดเข้ามา ไอสีดำลอยไปมารอบๆ ราวกับว่ากำลังหยอกล้อผม “คงอยากจะเล่นกับผมสินะ!” ผมโบกมือไปทางไอสีดำ เหมือนกำลังจะบอกว่า “เข้ามาสิ!” พวกมันก็ลอยเข้ามาโอบล้อมแขนผม ไปตามตัวผม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร ผมยังคงเล่นกับพวกมันจนกระทั่งพวกมันหยุดเคลื่อนไหว “เบื่อแล้วเหรอ?” ผมถามพวกมัน ทันใดนั้น! ไอสีดำที่ลอยอย่างเชื่องช้าก็พุ่งเข้ามาในตัวผมราวกับว่ากำลังจะยึดร่างของผมไว้ เข้ามาเรื่อยๆ เข้ามาไม่หยุด “อ้ากกกก!!!!” ผมร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเหมือนจะไม่ฟังคำสั่ง ถ้ามากกว่านี้ผมคงจะตายแน่ และในช่วงเวลาสุดท้ายนั้น
“ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ”
“อึก!!!...แฮกๆๆๆ” ผมรู้สึกตัวและพยายามลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยล้า เกือบไปแล้วสิเรา นี่ผมใช้เวลาไปนานขนาดไหนกันนะ แต่อย่างเพิ่งคิดเลย
“ก๊อกๆๆ ก๊อกๆ”
“ครับๆ จะเปิดประตูเดี๋ยวนี้แหละ!”
“ได้ของมาแล้วเจ้าค่ะ เอ๋! ท่านซาชิไม่ทราบว่าเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ? ดูหน้าท่านซีดเชียว”
“ผมลองทำภาวนาอยู่ละ แล้วไมนด์ไปซื้อของใช้เวลานานไหม? คือผมไม่รู้ว่าผมใช้เวลาภาวนาไปเท่าไร!”
“ประมาณสี่ชั่วโมงได้เจ้าค่ะ และช่วงนี้ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว ดิฉันเลยไปหาผลไม้มาให้ท่านด้วย”
“ขอบใจนะ คงต้องขอพักสักหน่อย”
ผมกลับมานั่งที่เก้าอี้ในห้องพักแล้วปล่อยให้ไมนด์เตรียมวางสมุนไพรและอุปกรณ์ต่างๆ ไว้
“ดิฉันอยากจะเตือนท่านสักอย่างนะเจ้าคะ ดิฉันได้ยินมาว่าการภาวนามีความเสี่ยงที่จะถูกกลืนกินอยู่ด้วย เพราะว่าไอปีศาจเป็นพลังภายนอก อาจมีมลทินอยู่มาก ถ้าท่านจะทำการภาวนาครั้งหน้า ช่วยเรียกดิฉันให้มาเฝ้าดูท่านได้ไหมเจ้าคะ?”
“ได้สิ ครั้งหน้าคงต้องขอให้ช่วยแล้วละ”
นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะโดนยึดร่างกายไปสินะ ครั้งต่อไปต้องระวังสักหน่อยแล้วสิ
“ท่านซาชิเจ้าคะ ทำไมครั้งนี้ถึงได้มีสมุนไพรพิษด้วยละเจ้าคะ? ดูท่าทางอันตราย”
“เพราะว่าผมกำลังทำยาพิษน่ะสิ!”
“ยาพิษ…”
ถึงแม้ไมนด์จะสงสัยกับสิ่งที่กำลังจะทำ แต่เธอก็ไม่ทักท้วงอะไร ผมจึงเริ่มลงมือปรุงยาทั้งหมดเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
