ข้าวไข่เจียว
เวลา 12.20 นาที
ถึงช่วงพักทานอาหารกลางวันของเหล่าพนักงาน น้ำฝนรีบตรงเข้ามาภายในห้องทำงานของเจ้านาย เพื่อชวนลูกพีชออกไปทานข้าวด้วยกัน ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ปฏิเสธ รีบเก็บข้าวของเดินออกจากบริษัทพร้อมกับเลขาข้างกาย
"เอ๊ะ!! น้ำฝนนั้นทีมการตลาดหรือเปล่า?"
"อ้อ!! ใช่ค่ะคุณพีช น้องๆ ทีมการตลาดทั้งหมดเลย แผนกนี้เขาไปเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันดีมากเลยค่ะ"
คำตอบของน้ำฝนทำให้ลูกพีชเกิดความสงสัย เมื่อเห็นว่าในนั้นไร้ซึ่งใครบางคนที่เธอตั้งใจมองหา
"แล้วการ์รันย์ละ?"
"อ้อ!! คนนั้นไม่เห็นง่ายๆ หรอกค่ะคุณพีช"
"ทำไมละ?"
ยิ่งเธอสงสัยยิ่งทำให้ลูกพีชงุนงงกับคำตอบของน้ำฝนกันเข้าไปใหญ่ เมื่อเธอไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลยในตอนนี้ กลับเป็นน้ำฝนเองเสียอีกที่รู้เรื่องของการ์รันย์เยอะกว่าเธอที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน
"คุณการ์รันย์เอาข้าวมากินเองทุกวัน ประหยัดทุกอย่างเห็นบอกว่ากำลังส่งน้องสาวเรียนมหาลัย แต่น่าจะใกล้จบแล้วมั้งคะ"
"สมัยเรียนก็เอามาเอง”
ได้ยินแบบนั้นแล้วก็อดสงสารเขาไม่ได้ เมื่อชีวิตของเธอนั้นอยู่ดีกินดีอย่างสุขสบาย แตกต่างจากเขาที่ยังคงดิ้นเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด
"งั้นวันนี้น้ำฝนไปทานข้าวคนเดียวก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำบางอย่าง"
"อ๊ะ อ้าว คุณพีช!!"
เธอไม่รอขอคำอนุญาตจากเลขา หญิงสาวรีบเดินตรงกลับเข้าไปในตัวตึกของบริษัทอีกครั้ง พร้อมกับกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นของแผนกการตลาดในทันที
ติ่ง!!
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เท้าเล็กเร่งย่างก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ สอดส่องสายตามองหาพนักงานคนอื่นๆ ด้วยท่าทางหวาดระแวง ก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าห้องทำงานของเขาเงียบๆ
"รันย์!!"
เสียงเรียกชื่อของเขาดังขึ้นมาในลำคอ เมื่อดวงตากลมจ้องมองเข้าไปเห็นว่าชายหนุ่มกำลังนั่งทานข้าวอยู่ภายในห้องเงียบๆ เพียงคนเดียว ภาพที่เห็นทำให้หญิงสาวยืนตัวแข็งทื่ออึ้งกับภาพเหตุการณ์ที่เห็นอยู่ๆ ไอร้อนชื้นและหยาดน้ำใสหลั่งไหลออกมาโอบล้อมรอบร่องลึกในทันที เมื่อมองเห็นไข่เจียวเพียงแค่เสี้ยวบางๆ ปกคลุมข้าวสวยอยู่บนจานแค่อย่างเดียว
'โธ่การ์รันย์"
ตั้งแต่เกิดมาคนอย่างเธอไม่เคยทานกินข้าวกับไข่เจียวเลยสักครั้งในชีวิต แต่เมื่อคิดย้อนกลับไปสมัยเรียนมีเพียงเขาที่กินข้าวกับไข่เจียวให้เธอเห็นอยู่บ่อยครั้งจากการเอาข้าวมาเองจากที่บ้าน แต่แล้วความทรงจำบางอย่างกลับไหลย้อนกลับเข้ามาในใจของเธออีกครั้งจนได้
"เฮ้ย!! ไอ้กระจอกไปซื้อข้าวให้กูหน่อยดิ"
น้ำเสียงเข้มของภาคินตะคอกใส่การ์รันย์ดังสนั่น เมื่อเห็นว่าเขายังคงนั่งกินข้าวกับไข่เจียวอยู่ที่โต๊ะห่างจากกลุ่มเพื่อนออกมาไปไกล ตามคำสั่งและเสียงไล่ตะเพิดของลูกพีชและเพื่อนๆ
"มึงจะกินอะไรอะ?"
"ซื้ออะไรก็ซื้อมา เร็วๆ ด้วยนะไอ้สัส"
พรึบ!!
แบงก์ร้อย 2-3 ใบปลิวลอยละล่องตกลงสู่พื้นจากน้ำมือของภาคิน เพื่อให้การ์รันย์ก้มลงไปหยิบมันที่ปลายเท้าของเขา แต่ทว่าเท้านั้นกลับเหยียบแบงก์เอาไว้แน่น เพื่อเย้ยหยันและเหยียบย้ำศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขาราวกับไม่ใช่คน เพียงแค่ฐานะทางการเงินที่ด้อยมากกว่าเท่านั้นเอง
"ส่วนเงินที่เหลือ กูถือว่าทำทานให้คนไอ้กระจอกแบบมึง ฮ่าๆ"
สิ้นเสียงนั้น ภาคินเตะแบงก์ปลิวกระจายไปอีกฝั่งเพื่อให้การ์รันย์ตามไปเก็บขึ้นมา ซึ่งเขาเองก็ยอมทำตามง่ายๆ ไม่ตอบโต้เพื่อนกลับไปสักอย่าง เขารีบเดินกลับมาปิดกล่องข้าวไข่เจียวของตัวเอง และเดินไปหยิบแบงก์ขึ้นมาจากพื้นอย่างง่ายดาย ก่อนจะเดินลับสายตาของเพื่อนๆ ไป
ไม่ถึง15 นาที การ์รันย์เดินกลับมาพร้อมอาหารตามสั่งในเมนูโปรดปรานของภาคิน เขาค่อยๆ ว่างมันลงบนพื้นโต๊ะต่อหน้าของเพื่อนๆ
พลางหันมามองลูกพีชที่ยังคงทำหน้าเมินเขาเฉกเช่นเคย ยื่นเงินทอนและเงินทั้งหมดคืนให้กับภาคินเช่นเคย เมื่อเขาไม่คิดจะเอามันอยู่แล้วตั้งแต่แรก ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะ
"อ้าว!!"
ฝ่ามือทั้งสองข้างพยายามพลิกกล่องอาหารของแม่ เพื่อหาข้าวและไข่เจียวของตนเอง แต่มันกลับหายไป หลังจากที่เขากลับมาจากซื้อข้าวให้ภาคิน
"โคตรคาวเลยไอ้สัส แดกลงไปได้ยังไง?"
"แล้วข้าวอยู่ไหนอะพีช?"
การ์รันย์สะดุ้งตกใจเมื่อเสียงของลูกพีชแทรกขึ้นด้านหลังของเขา
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแดงจากสิวซีดเผือดลง เมื่อเขาพึ่งกินมันลงท้องไปได้แค่ 4 คำ ก่อนจะโดนบังคับให้ไปซื้อข้าวให้ภาคิน แต่ตอนนี้มันกลับหายไปเพียงเพราะส่งกลิ่นคาวไปหาเธอ
"ถ้ามึงอยากแดกต่อนะไอ้โง่ นู้น...ถังขยะ!! ฮ่าๆ"
นิ้วยาวของออสตินชี้ไปยังถังขยะที่มีไว้ทิ้งขวดน้ำ ก่อนที่ร่างสูงจะมองตามนิ้วไปด้วยความตื่นตกใจ เขาค่อยๆ ย่างเท้าก้าวเดินตรงไปหาถังขยะ เพื่อค้นเอาไข่เจียวและข้าวสวยของตนเอง พลางหันมามองเพื่อนที่นั่งหัวเราะกันอยู่ที่โต๊ะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจ็บปวดและน้อยใจ
"อี๋!! แดกต่อลงไปได้ยังไงวะ แหวะ!!"
การ์รันย์ได้แต่เงียบไม่ตอบโต้หรือต่อว่าอะไรเพื่อนสักคำ เขาทำได้แค่เก็บไข่เจียวและข้าวสวยที่เหลือกินได้เพียงน้อยนิดเดินกลับมาที่โต๊ะ และนั่งมองไข่เจียวของตัวเอง
ก่อนจะตัดสินใจกินมันต่อจนหมดเพียงลำพังเช่นเคย ไม่มีแม้ใครสักคนจะเห็นใจและสงสารกัน รวมแม้กระทั่งเธอ
ปัจจุบัน
"เฮ้อ!! เย็นสบายสุดๆ ข้างนอกร้อนฉิบหาย"
ร่างเล็กที่ยืนแอบมองเขาอยู่หน้าห้องของการ์รันย์สะดุ้งตัวตื่นจากความคิดเรื่องอดีตทั้งหมด เร่งยกมือขึ้นเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลมาโดยไม่รู้ตัวออกจากรอบๆ ดวงตาของตัวเอง เมื่อเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพนักงานคนอื่นๆ เริ่มทยอยกันเข้ามาภายในแผนก ลูกพีชรีบถอยหลังออกห่างจากห้องทำงานของเขาและตรงออกจากแผนกไปทันที ก่อนจะมีใครมาเห็นใบหน้าที่แดงก่ำและร่องรอยของคราบน้ำตาที่เปียกชื้นบนใบหน้าของเธอ
ห้องผู้บริหาร
ร่างเล็กทรุดตัวลงบนเก้าอี้ของตัวเอง ด้วยความเหนื่อยล้าจิตใจ เมื่อมันถูกถาโถมเข้ามาด้วยความเจ็บปวดของใครบางคนที่เธอเคยทำร้ายกันมาตลอดเกือบ 4 ปี
"ขอโทษนะรันย์!! กูไม่เคยคิดเลยว่าตอนนั้นมึงจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหนเลยสักนิด อึก ฮือ"
ทุกๆ สายตา และสีหน้าที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาในตอนนั้น มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความบอบช้ำ และความเหนื่อยล้า แต่ทว่าลูกพีชกลับไม่เคยมองเห็นมันเลยสักครั้ง จนกระทั่งข้าวๆ ไข่เจียวบางๆ เพียงแค่เสี้ยวเล็กๆ บนจานข้าวของการ์รันย์ในวันนี้ มันสะกิดใจเธอให้มองย้อนกลับไปในอดีต ถึงเห็นแววตาของเขาชัดเจนขึ้นว่าการ์รันต์เจ็บปวดแค่ไหนจากการกระทำที่ผ่านมา
"อือ ฮือ..ออ"
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจกำลังหลั่งไหลเข้ามากระทบในใจของเธอซ้ำไปซ้ำมา หลายๆ สิ่งที่เธอเคยทำร้ายจิตใจกันมันผุดขึ้นมาราวกับว่ามีบางคนเปิดประตูความทรงจำของเธอและพยายามผลักดันเรื่องราวที่เจ็บปวดของเขาออกมา
1 ชั่วโมงผ่านไป
หยดน้ำตาที่เคยหลั่งไหลออกมาเหือดหายไป เมื่อเธอได้สติ หญิงสาวถึงรู้ว่าตนเองได้ทำบาปทำกรรมกับการ์รันย์ไว้เยอะมากแค่ไหน ไม่เคยเห็นใจ ไม่เคยสงสาร และไม่เคยให้อะไรเขาเลยสักครั้ง มีแค่ทำร้ายจิตใจ และร่างกายของเขามาโดยตลอด
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
"คุณพีชมีอะไรหรือเปล่าคะ?"
เลขาสวยเดินเข้ามาภายในห้อง หลังจากคนเป็นเจ้านายโทรออกไปเพื่อขอให้เธอเขาพบ โดยไม่แจ้งสาเหตุหรือสิ่งที่ต้องการออกไปเช่นเคย
"โทรหารันย์ให้มาพบฉันที่ห้องหน่อยสิ"
"คุณพีชเจอคำผิดอีกแล้วเหรอคะ?"
ใบหน้าสวยของเจ้านายที่ดูแดงก่ำและเปลือกตาบวมช้ำราวกับพึ่งร้องไห้อย่างหนักหน่วงมา ส่ายศีรษะไปมาพลางหลับตาพริ้มลงเบาบาง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเธอไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องเรียกหัวหน้าฝากการตลาดมาพบง่ายๆ แบบนี้โดยที่ไม่มีเรื่องของงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
"ฉันอยากปรึกษาเขาเรื่องโปรโมชั่นใหม่"
"อ้อ ได้ค่ะคุณพีช!!"
ร่างอวบเดินกลับออกไปนอกห้องอีกครั้ง ใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มก็เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของเธอด้วยความลำบากใจ
แม้ว่าการ์รันย์จะรู้สึกอึดอัดใจมากแค่ไหน แต่ทว่าในตำแหน่งที่สูงกว่าด้านหน้าที่การงานของเขา ก็ต้องจำใจยอมมาเข้าพบเธอผู้ที่เป็นความเจ็บปวดทุกอย่างของเขา
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
"เข้ามาสิ!!"
บานประตูค่อยๆ เปิดกว้างออกเพียงเล็กน้อย พร้อมกับหัวใจทั้งดวงของการ์รันย์ที่กำลังเต้นสั่น ด้วยความหวาดหวั่น แต่เขากับต้องทำเป็นนิ่งเอาไว้มากที่สุด คอยก้าวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนเงียบๆ ดวงตาคมเร่งกดต่ำลงพื้นอยู่อีกฝั่งตรงข้ามเธอ
"มึงสบายดีมั้ย?"
คำถามปลายเปิดเอ่ยขึ้นแทรกกลางความเงียบ แต่กลับไร้ซึ่งคำตอบ เมื่ออีกคนเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ
กระทั่งความอึกอักเกิดขึ้นภายในห้องกะทันหัน หญิงสาวจึงค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยืนขึ้นเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง
"แม่กับน้องสาวเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย?"
แม้หัวใจที่กำลังเต้นสั่นอยู่จะกระตุกวูบลงด้วยความดีใจอยู่ลึกๆ ที่คนอย่างเธอถามถึงครอบครัวของเขาเป็นครั้งแรก ตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบ 13 ปี แต่เขากับต้องรีบควบคุมจิตใจของตนเองไม่ให้รู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้ หากทุกอย่างเป็นเพียงคำถามตามมารยาทที่ใครๆ ก็ถามกันได้ทั้งนั้น
"ทุกคนสบายดีครับ!!"
"แล้วมึงละรันย์ สบาย…"
"เรื่องงานที่แก้ไขไป ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะครับ"
ประโยคคำถามนั้นไม่ทันได้จบลง น้ำเสียงเข้มที่คุ้นเคยเอ่ยแทรกขึ้นกลางบทสนทนาในทันที ทุกๆ ประโยคที่พูดออกมาดูเปลี่ยนแปลงไปราวกับว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนในชีวิต เมื่ออีกคนพยายามอยู่ในฐานะลูกน้องที่ไม่อาจจะขึ้นไปเทียบผู้เป็นนายจ้างอย่างเธอได้ ถึงแม้จะเคยเป็นคนเพื่อนที่รู้จักกันมานานก็ตามแต่
"มึงพูดกับกูปกติเหมือนตอนสมัยเรียนก็ได้"
ความนิ่งเงียบของการ์รันย์ ทำให้ลูกพีชเริ่มทำตัวไม่ถูก ถึงแม้เธอจะมีตำแหน่งที่สูงกว่าเขาแต่อย่างน้อยเธอแค่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับมาเป็นเหมือนเดิมเท่านั้นเอง
"งานเรียบร้อยทุกอย่าง ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะครับ"
ร่างใหญ่ค่อยๆ ก้มหัวให้กับตำแหน่งของเธอที่อยู่เหนือกว่า ดึงร่างของตัวเองหันหลังกลับ แต่ต้องชะงักหยุดนิ่งลง เมื่อเสียงของเธอดังขึ้นกลางใจของเขาอีกครั้ง
"มึงเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะรันย์!!"
ดวงตาคมหันกลับมามองหน้าของเธอเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว ก่อนจะกดตาลงต่ำเช่นเคย แต่ทว่ามันกับทำให้หัวใจทั้งดวงของเธอเต้นสั่นด้วยความดีใจที่อย่างน้อยเขายังหันมาชายตามองเธอสักนิด แม้มันจะเป็นแค่เสี้ยวนาทีเดียวก็ตาม
"ศุกร์นี้เพื่อนๆ นัดกินข้าวกัน มึงต้องไปนะ!!"
รอยยิ้มจางๆ เผยขึ้นบนใบหน้าของเขา การ์รันย์ไม่ตอบประโยคใดๆ ออกมา เร่งก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องไปในทันที เหลือไว้เพียงหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่นิ่ง ถึงกับหน้าชาขึ้นมากะทันหัน เมื่อไม่คิดว่าเขาจะนิ่งและเปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดนี้
Talk
โอ๊ยยยสงสารการ์รันย์ เพื่อนก็เกินไป ลูกพีชก็เกินคน แต่ระวังตัวไว้นะต่อจากนี้ไปคนที่เจ็บปวดไม่ใช่แค่การ์รันย์แน่!!
@มีอีบุ๊คในเมบนะแม่!!
