ไม่เคยมีใครตอนรับ
วันพฤหัสบดี
ร่างเล็กลงจากรถยนต์ของตัวเองด้วยความรู้สึกหดหู่ และความรู้สึกเศร้าอยู่ในใจ เมื่อใครบางคนยังคงเฉยชากับเธอราวกับว่าไม่เคยรู้จักกัน แม้จะรู้สึกผิดอยู่ในใจที่เคยทำร้ายจิตใจเขา แต่ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นของเธอมันหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความรู้สึกดีและความห่วงใยที่ติดอยู่ภายในใจในตอนนี้
"รันย์!!"
ดวงตาคู่กลมจ้องมองไปยังหน้าทางเข้าประตูลิฟต์กลับต้องตื่นเต้นและดีใจจนลืมตัว รีบเดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่กำลังยืนรอลิฟต์รวมกับพนักงานของบริษัทประมาณ 3-4 คน อย่างรวดเร็ว โดยไม่แคร์สายตาของใครว่าจะมองเธอเป็นยังไงเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่อยากใกล้ชิดคนที่เธอให้ความสนใจในตอนนี้มากที่สุด
"พรุ่งนี้จะไปเจอเพื่อนมั้ย?"
ด้วยความตกใจการ์รันย์รีบขยับเท้าถอยห่างจากเธอไปไกลขึ้น เพื่อเว้นระยะห่างและการวางตัวให้เหมาะสมในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง เพราะไม่อยากให้เธอตกเป็นขี้ปากของคนอื่น เพียงแค่ลดตัวลงมาพูดคุยสนิทสนมกับเขา
"คงไปไม่ได้ครับคุณพีช พอดีผมมีธุระครับ"
"แต่เพื่อนไปกันครับหมดทุกคนเลยนะรันย์"
ดวงตาคมยังคงกดลงพื้น พลางก้มหน้าต่ำลง เมื่อรู้ดีว่าไม่มีใครนับว่าเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งเลยสักคนเดียว แม้ตอนนี้มันจะผ่านมานานเกือบ 9 ปีแล้วก็ตาม เขายังคงเงียบไม่ตอบคำขอของหญิงสาวที่มีสถานะเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น
"ไปเถอะ!! นะรันย์ ถือว่าไปเจอเพื่อนๆ"
ยังไม่ทันเขาจะตอบอะไรออกไป ประตูลิฟต์เปิดกว้างออกแทรกกลางวงสนทนา การ์รันย์จึงรีบถอยออกห่างเพื่อให้ลูกพีชได้เข้าไป ก่อนพนักงานอีก 3-4 คน จะเดินกรูตามหลังเธอเข้าไป แม้ดวงตากลมคู่สวยนั้นจะมองตามเขาออกมาด้วยท่าทางตกใจเมื่อเห็นว่าเขายังคงยืนนิ่งรออยู่เช่นเดิม
"รันย์เข้ามาสิ!!"
"คุณการ์รันย์ไปพร้อมกันเลยมั้ยคะ?"
"ไปก่อนเลยครับ!!"
รอยยิ้มจางๆ ส่งให้พนักงานสาวที่ยืนกดลิฟต์อยู่ด้านในด้วยท่าทางเกรงใจ ประตูลิฟต์เริ่มเคลื่อนตัวเข้าหากันช้าๆ พร้อมกับหยดน้ำตาที่กำลังไหลลงมาด้วยความเจ็บปวด การ์รันย์พยายามเร่งกะพริบตาถี่ขึ้น เพื่อไล่ความเปียกชื้นนั้นออกไป
เพราะความเป็นจริงเขาไม่มีธุระอะไรกับใครที่ไหนทั้งนั้น เพียงเพราะไม่อยากไปเมื่อรู้ว่าเพื่อนแต่ละคนไม่มีใครอยากต้อนรับเขาสักคน แม้แต่เธอเองก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนในชีวิต เขาจะเป็นส่วนเกินของเธอ และเพื่อนๆ ในกลุ่มเสมอ แต่ตอนนี้เขามีทางเลือกมากขึ้น จึงไม่อยากเอาชีวิตที่เหลือไปผูกไว้กับเธอเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว
'กูไม่เหมาะกับพวกมึงจริงๆ แหละพีช'
ความคิดดังในใจย้อนวนไปวนมา เมื่อนึกกลับไปสมัยเรียนที่เพื่อนๆ ช่วยกันไปทำบุญให้กับบ้านพักสุนัขจรจัด ลูกพีชให้เขาหาทางไปเอง โดยไม่เคยคิดเห็นใจขับรถมารับกันเลยสักนิด ผิดกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่เธอตั้งใจไปรับถึงบ้านด้วยตนเอง จนกระทั่งขากลับยังคงบีบบังคับให้การ์รันต์นั่งหลังรถกระบะเพียงคนเดียวกับแดงร้อนจัดๆ ในสภาวะรถคิดหนักๆ ในช่วงกลางวัน ทั้งที่ภายในรถยังคงเหลือที่ว่างให้เขานั่งได้อีกคนด้วยซ้ำ
'ปล่อยมันเป็นอดีตเถอะการ์รันย์ มึงมันแค่ไอ้กระจอก'
ทุกๆ ครั้งที่เขาไปมหาวิทยาลัย การ์รันย์มักจะเป็นแค่ส่วนเกินเสมอ เพื่อนไปกันเป็นกลุ่มพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข มีแค่เขาคนเดียวที่เดินตามหลัง นั่งห่างๆ เพื่อนคนละโต๊ะเพราะถูกไล่ไปให้ใกล้อย่างกับหมูอย่างกับหมา มีอะไรไม่เคยเรียกเขาไปร่วมกิจกรรมด้วยสักครั้ง นอกเสียจากจะใช้งานกันเพื่อผลประโยชน์เพียงเท่านั้น แต่เขากลับเลือกที่จะทนมาตลอดตั้งแต่ปี 1 จนกระทั่งถึงปี 4 เต็มๆ เพราะความจำเป็นและหัวใจที่เกรอะกรังไปด้วยคราบเลือดเก่าๆ
เวลา 11.00 นาที
ห้องทำงานหัวหน้าการตลาด
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
ร่างเล็กเคาะประตูห้องทำงานของชายหนุ่มเสียงดังลั่นในขณะที่เขายังคงคุยงานกับน้องๆ ในทีมการตลอดทุกคนอยู่ภายในห้อง ด้วยความสงสัยจึงทำให้หนึ่งสมาชิกในทีมรีบตรงไปเปิดประตูกว้างออก เผยให้เห็นร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าและท่าทางตื่นตกใจ เมื่อสายตาของพนักงานทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียว
"สวัสดีครับ/ค่ะ คุณลูกพีช"
"อ้อ!! สะ สวัสดีค่ะ!!”
ร่างใหญ่รีบดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ในทันทีที่เห็นเธอยืนอยู่หน้าห้อง ดวงตาคมยังจ้องมองหน้าของหญิงสาวด้วยความตกใจ เมื่อไม่คิดว่าเธอจะมาที่ห้องของเขากะทันหันโดยที่น้ำฝนไม่ได้โทรแจ้งเขาก่อนแบบนี้
"ประชุมอยู่เหรอคะ?"
"คุณลูกพีชมีธุระคุยกับคุณรันย์เหรอครับ?"
พนักงานชายร่างท้วมเอ่ยถามเธอแทรกขึ้นกลางห้องทำงาน ทำให้หญิงสาวไม่มีทางเลือกรีบหันไปมองการ์รันย์ที่กำลังก้มหน้ากดต่ำลงยังสมุดโน๊ตที่ว่างอยู่บนพื้นโต๊ะเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของเธอ
"อ้อ!! มีแค่นิดเดียวเองค่ะ เดี๋ยวประชุมเสร็จพีชมาใหม่ก็ได้ค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับคุณลูกพีช ประชุมเสร็จแล้ว พวกผมกำลังจะออกไปพอดีเลยครับ"
สิ้นเสียงของเหล่าพนักงาน ทุกคนต่างก้มหัวให้กับตำแหน่งของการ์รันย์และเธอ ก่อนจะรีบกรูกันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ราวกับรู้ว่าทั้งคู่ต้องการเวลาส่วนตัวได้คุยกัน
"รันย์!!"
ดวงตาคมจ้องมองมายังร่างเล็กเพียงแค่ครู่เดียว ก่อนจะกดมันลงต่ำ พลางเก็บปากกาและสมุดโน๊ตเข้าที่วางไว้เช่นเดิม
"คือกูอยากมาคุยกับมึงเรื่องไปกินข้าวพรุ่งนี้?"
"ผมตอบไปแล้วนะครับ"
"มึงช่วยคุยกับกูปกติหน่อยได้หรือเปล่า คุยแบบที่เราคุยกันสมัยก่อนไง"
แม้เธอจะต้องการให้เขาทำเหมือนเดิมที่ผ่านมา แต่การ์รันย์กลับเลือกที่จะเงียบใส่ แถมยังคงนิ่งไม่พูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรสักอย่าง
"ไปเถอะนะรันย์ กูอยากให้มึงไปเจอเพื่อนๆ บ้าง"
"..."
"อย่าเงียบแบบนี้สิ!! พรุ่งนี้มึงต้องไปกินข้างกับเพื่อนๆ กับกูโอเคมั้ย?"
ร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น พลางจ้องหน้าของการ์รันย์ ที่เอาแต่หลบสายตาไม่ยอมมองหน้าเธออยู่ฝั่งตรงข้าม เขายังคงเงียบ และค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ช้าๆ ไร้ซึ่งท่าทางใดๆ ที่จะทำให้ลูกพีชเดาออกเลยสักนิด
"ถ้าไม่ตอบแสดงว่าไปนะ โอเคงั้นพรุ่งนี้ไปกับกู แค่นี้แหละกูไม่กวนมึงละ!!"
การ์รันย์ไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้าก้มตามองยังเอกสารที่เคลียร์ค้างเอาไว้ ปล่อยให้ร่างเล็กของหญิงสาวค่อยๆ เดินออกจากห้องไปช้าๆ ก่อนจะวางปากกาลงบนพื้นโต๊ะ เร่งยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองเอาไว้แน่นกับความตึงเครียดที่ตัวเองกำลังได้รับจากเธอที่เป็นคนประเคนมันมาให้กัน
เวลา 12.00 นาที
หลังจากพนักงานคนอื่นๆ ทยอยกันออกไปทานข้าวข้างนอกกัน เท้าเล็กค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ห้องทำงานของการ์รันย์มากยิ่งขึ้น คอยกวาดตามองทุกๆ อย่างภายในห้อง ก็ยังคงเห็นการ์รันย์นั่งอยู่ในนั้นเฉกเช่นเคย ก่อนที่ร่างใหญ่จะยกกล่องอาหารที่เอามาจากบ้านขึ้นมาทานอยู่หน้าจอคอม พร้อมกับทำงานไปด้วย
'วันนี้เป็นผัดผักบุ้งเหรอ? ไม่มีแม้แต่เนื้อสัตว์สักชิ้น!!'
คำถามแทรกกลางขึ้นภายในจิตใจ ดวงตากลมพยายามเพ่งมองอาหารที่อยู่กล่องของเขา ก่อนที่ความคิดเรื่องราวในอดีตจะย้อนกลับคืนมา
"วันนี้มึงไม่ได้เอาข้าวเน่าๆ คาวๆ มาใช่มั้ยไอ้รันย์"
"อื้ม ไม่ได้เอามา!!"
น้ำเสียงเข้มตอบกลับไปด้วยความกระตือรืนร้น ทุกๆ ครั้งที่เธอถาม ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เขาจะตอบเธอในทุกๆ คำถาม ไม่เคยต้องให้ลูกพีชรออะไรสักอย่างเลยในเรื่องราวของเขา
"งั้นมึงไปซื้อน้ำมาให้เพื่อนๆ หน่อยสิ"
"อืม ได้สิ!!"
"เร็วๆ นะ"
เสียงหวานเร่งรัดให้เขาทำเรื่องทุกอย่างให้เร็วที่สุด แต่ทว่าชายหนุ่มกับนั่งมองเธอด้วยความสงสัย เมื่อลูกพีชไม่ยื่นเงินมาให้เขาเฉกเช่นเคย
"มึงจะรอทำเหี้ยอะไรวะไอ้โง่ กูบอกให้มึงไปซื้อน้ำมาไง"
"แต่เงิ..."
"ไปสิวะ น่ารำคาญจริงๆ เลย"
หญิงสาวตวาดเสียงดังลั่นอีกครั้ง ด้วยความตื่นตกใจ และไม่อยากให้ลูกพีชเกลียดชังกันไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มจำใจต้องยอมทำตามคำสั่งนั่น เขาต้องเอาเงินของตัวเองที่มีอยู่แค่ 50 บาทซื้อน้ำมาให้เพื่อนๆ แทน
"มึงจะไปไหนอีกไอ้กระจอก"
เสียงของพัดเตอร์ตะคอกตามหลังของเขากลับมา ร่างสูงหันกลับไปมองเพื่อนทั้งกลุ่มที่กำลังแสดงออกถึงความโมโหที่เขาเดินหลบออกไป
"กูจะไปกดน้ำ"
"ไปกดน้ำแล้วไปซื้อข้าวให้กูกับอีพีชด้วย"
การ์รันย์พยักเพียงเล็กน้อยให้กับเพื่อนๆ เร่งเท้าเดินหลบไปลับสายตา เพื่อกดน้ำที่ตู้ของมหาลัยประทังชีวิต ก่อนจะกลับมาทำหน้าที่เป็นทาสรับใช้ให้เพื่อนเหมือนเดิม แม้จะหิวข้าวจนท้องร้องสักแค่ไหน เขาทำได้เพียงอดทนนั่งมองเพื่อนๆ กินข้าว ดื่มน้ำอัดลมกันอย่างมีความสุขอยู่อีกโต๊ะ โดยไม่มีใครคิดจะสนใจเขาเลยสักคน
"พีช!! วันนี้มึงขับรถมาใช่ปะ?"
"ใช่ทำไม?"
"กูจะขอติด..."
"มึงไม่ต้องคิดจะขอติดรถไปกับกูเลยนะไอ้รันย์ กูไม่อยากให้ขยะแบบมึงติดรถกูว่ะ"
ยังไม่ทันที่คำขอนั้นจะจบประโยค ลูกพีชกับพูดแทรกขึ้นด้วยถอนคำปฏิเสธที่รุนแรงทำร้ายจิตใจคนฟังอย่างเขาจนต้องเดินถอยหลังออกมา พลางกดตาลงต่ำด้วยความรู้สึกน้อยใจ แต่กลับไม่มีใครอยากรับรู้หรือสนใจเขา มีเพียงเสียงหัวเราะดังสนั่นด้วยความสะใจเท่านั้นเองที่มอบให้เขาแทน
"คนอย่างมึง เหมาะกับรถสองแถวที่สุดแล้วไอ้สัส ฮ่าๆ"
นอกจากจะไม่แคร์ความรู้สึกของเขาแล้ว ยังปล่อยให้การ์รันย์หาทางกลับบ้านเอง โดยที่ไม่มีเงินเหลือสักบาทที่พอจะขึ้นรถสองแถวออกไปจากมหาวิทยาลัยได้ เขาต้องอดทนเดินเท้าตั้งแต่มหาวิทยาลัย จนกระทั่งไปถึงปากทางระยะทางราวเกือบ 3 กิโลเมตร เพื่อรอรถเมย์ฟรีกลับบ้านด้วยตัวคนเดียว ไม่เคยคิดจะบ่นให้เพื่อนๆ เลยสักคำ ได้แต่เก็บความน้อยใจ ความเจ็บปวดทั้งหมดเอาไว้เพียงคนเดียวเสมอมา
ปัจจุบัน
'รันย์'
หยดน้ำตาที่ไหลพรากลงมาอีกครั้งโดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว กระตุ้นทำให้เธอตื่นจากความคิดทั้งหมดลง แต่เมื่อสติกลับมา เธอควรจะไม่รู้สึกอะไรอีก แต่กลับยิ่งทำให้ความรู้สึกผิด และความสงสารเขาจับใจแทบขาด เมื่อเด็กผู้ชายคนหนึ่งต้องมาแบกรับกับความเจ็บปวดในอดีตหนักหน่วงสักเพียงนี้ ถ้าเป็นเธอคงไม่รู้ว่าจะทนมีชีวิตต่อได้ยังไงเหมือนกัน
Talk
งื้ออออออ หนักหน่วง ลูกสาวก็ใจจืดใจดำจังเลย ทำอะไรกับเขาไว้เยอะ พอเขาปกป้องหัวใจของเขาเอง เธอก็มางอแง ลูกเขยฉันก็ทนๆ ทนให้เขาโขกสับอยู่ตั้งหลายปี ต่อไปนี้ไม่ต้องทนแล้วนะการ์รันย์
