เสียใจรู้มั้ย 1
2
เสียใจรู้บ้างมั้ย
เรากลับกรุงเทพฯ หลังจากวันหยุดยาวจบลง และกลับมาตั้งหน้าตั้งตากับโปรเจกต์ไฟนอลก่อนจบเทอมหนึ่งของปีสุดท้าย และมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนเทอมสองเราก็ต้องทุ่มเทกับการฝึกงาน
เพื่อนๆ ทั้งสามของฉันหาบริษัทฝึกงานได้แล้ว ซึ่งก็คือบริษัทวินวันแอดเวอร์ไทซิ่งของครอบครัวพี่เลโอนั่นเอง และพี่เขาก็นั่งตำแหน่งกรรมการบริหารควบตำแหน่งผู้บริหารงานโฆษณา (Account Management)
ส่วนฉันยื่นใบสมัครขอฝึกงานบริษัทเดียวกับเพื่อนๆ แต่ฉันไม่ผ่านอยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่ผลการเรียนของฉันตั้งแต่ปีหนึ่งยันปัจจุบันคือปีสี่เทอมหนึ่ง ฉันมีเกรดเฉลี่ยดีกว่าทุกคน
มันไม่มีเหตุผลอื่นเลย นอกจากเพราะฉันไม่สวย รูปร่างไม่ดีเหมือนเพื่อนๆ ไม่เหมาะที่จะไปฝึกงานกับบริษัทโฆษณาระดับต้นๆ ของเมืองไทย เสียใจไม่พอยัยเนเน่ยังมาซ้ำเติมอีก
หรือไม่...ก็เพราะพี่เลโอ ไม่อยากเห็นหน้าฉัน เพราะตั้งแต่กลับจากหัวหิน ซึ่งก็นานนับเดือนแล้ว ฉันก็ไม่เคยเจอพี่เขาอีกเลย ไม่แม้แต่จะส่งข้อความมาหา หรือไม่เคยจะโผล่หน้ามาหาลีน่าที่มหาวิทยาลัยเหมือนที่เคยทำ
ฉันรู้อยู่หรอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่หัวหิน มันคืออะไร และฉันก็ไม่เคยคาดหวังว่าพี่เขาจะมาเป็นแฟน เพราะแค่เรานอนด้วยกันคืนเดียว แถมเกิดขึ้นเพราะเขาทนพิษยาปลุกเซ็กซ์ไม่ไหว และไม่อยากมีอะไรกับเนเน่เพราะกลัวถูกจับแต่งงาน
แต่แค่เขาทำตัวปกติ...เช่นโผล่หน้ามารับลีน่าไปกินข้าวบ้าง เพื่อให้ฉันได้เห็นหน้าของเขาเหมือนที่เคยเป็น
ทว่า...พี่เลโอเงียบหายไปไม่ต่างจากสายลม
เขาคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นคืนนั้น หรือบางทีอาจรู้สึกสะอิดสะเอียนกับการได้นอนกับผู้หญิงอ้วนๆ ไม่สวยเซ็กซี่อย่างฉัน
ฮือๆ ใจร้ายที่สุดในโลก
ก่อนหน้านั้น...ฉันคิดมาตลอดว่าการได้มีอะไรกับพี่เลโอคืนนั้นเป็นความโชคดี เพราะมันจะเป็นความทรงจำที่หล่อเลี้ยงหัวใจของคนแอบรักมานานอย่างฉันได้
แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันโชคร้ายที่สุด ไม่ใช่เพราะเสียดายความบริสุทธิ์ที่มอบให้เขา แต่เพราะความทรงจำนั้นมันเหมือนยาพิษ ที่พอคิดถึงแล้วมันก็ทั้งหวานและเศร้าจนน้ำตาซึม
มันจะไม่เป็นแบบนี้หากว่า...ค่ำคืนนั้นจะไม่เกิดขึ้น
ไม่มีความทรงจำที่ทั้งหวานและเร่าร้อนให้นึกถึงบ่อยๆ โดยเฉพาะในยามที่เขาหายหน้าหายตาไปแบบนี้
ฮือๆ ฉันจะทำยังไงดีกับความรู้สึกที่แสนเศร้าของตัวเองในตอนนี้ เพราะสิ่งแรกที่ฉันควรทำไม่ใช่มานั่งร้องไห้ แต่ฉันควรหาบริษัทโฆษณาเพื่อฝึกงานให้ได้เสียก่อน
เมี้ยวว
เจ้ากระปุกร้องครางอยู่ข้างๆ ก่อนมันจะเอาตัวมาซุกที่ลำตัวของฉัน ที่นั่งหมดอาลัยตายอยู่ปลายเตียง
ฉันเช็ดน้ำตาและอุ้มมันขึ้นมานั่งบนตักแล้วลูบแผงคอมันเบาๆ
“แกหิวอีกแล้วเหรอ”
เมี้ยว
เสียงร้องตอบแบบนี้ ฉันก็รู้ว่ามันหิวอีกแล้ว กินจุไม่ต่างจากฉันเลย และรูปร่างก็อวบระยะสุดท้ายเหมือนกัน
ฉันลุกไปหยิบถุงอาหารเม็ดรสแซลมอนที่เจ้ากระปุกโปรดปราน เทใส่บนชามพาสติกของมัน และรินน้ำดื่มบนถ้วยข้างๆ ชามอาหาร
กระปุกวิ่งไปยังชามอาหาร และก้มหน้ากับอาหารของมันอย่างเอร็ดอร่อย
มันแมวไทย พันธุ์อะไรไม่รู้ มีสามสี ลวดลายบนตัวสีน้ำตาลปนดำแซมด้วยขาว เป็นแมวหน้าตาดีสุดๆ หน้ากลม ตาสีเหลืองมีจุดดำ มันกินจุ เคลื่อนไหวเชื่องช้า และเป็นแมวไม่ชอบคลอเคลีย แถมไม่ชอบให้คนแปลกหน้าจับตัว
แต่มันเป็นแมวที่พูดรู้เรื่อง เช่นเวลาฉันเรียก มันจะเดินมาหา บอกให้นั่ง และตบมือลงบนเบาะ มันก็ทำตาม
เป็นแมวหลงมาจากไหนไม่รู้ เจอมันอยู่ระเบียงหน้าห้องพัก
ห้องพักที่ฉันเช่าอยู่ เป็นตึกสีขาวสองชั้นเล็กๆ ที่มีระเบียงยาวด้านหน้าห้องไปสุดห้องพัก บนชั้นสองมีห้องพักทั้งหมดสามห้องเท่านั้น ฉันอยู่ห้องกลาง ส่วนห้องหนึ่งและห้องสามนั้นไม่มีคนพักอยู่ ส่วนชั้นล่างมีแม่ค้าขายน้ำมะพร้าวกับพ่อค้าขายผลไม้รถเข็นเช่าอยู่พร้อมกับครอบครัวของพวกเขา
เจ้าของห้องพักคือป้านี แกที่มีบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน เวลาฉันไม่อยู่ มันก็ขลุกอยู่กับป้านี และตอนไปหัวหินฉันก็ฝากอาหารของเจ้ากระปุกไว้กับป้านี
"""""""""""""""""
