ตอนที่สี่ ไม่ต้องเสแสร้ง (กรุบกริบ)
ตอนที่สี่
ไม่ต้องเสแสร้ง
ด้วยผู้ใหญ่บ้านได้รับการฝากฝังมาจากบิดาจึงแวะเวียนมาดูแลอยู่บ่อยครา และไป๋ลี่ซือย่อมถือโอกาสติดตามมาด้วยและเกาะแกะวุ่นวายจนน่าเบื่อหน่ายนัก
ข้อดีของนางมีเพียงอย่างเดียวคือทำอาหารรสชาติดี เขาจึงยอมให้นำอาหารมาส่งที่เรือนทุกวัน
ไม่คิดว่าจะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้นางใช้เล่ห์เหลี่ยมแอบใส่ยาปลุกกำหนัดในอาหารเพื่อปลุกอารมณ์ราคะจนเขาไม่อาจต้านทาน
ในเมื่อนางเป็นฝ่ายลงมือก่อนก็อย่าหาว่าเขาแล้งน้ำใจ
‘เซียงซิ่นหลิง’ คุณชายจากเมืองหลวงซึ่งประสบเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลจึงหนีมาซ่อนตัวยังหมู่บ้านห่างไกลครุ่นคิดด้วยความโมโหในความใจกล้าหน้าด้านของหญิงสาวตรงหน้า
ครั้นได้ยินคำเอ่ยห้ามแผ่วเบา คุณชายเซียงจึงยิ่งคิดว่าเป็นการเสแสร้งตัดสินใจไม่ตอบคำเรียกขานแต่ใช้มือดึงกระชากสายรัดเอวบางออกอย่างแม่นยำ
ไม่นานเสื้อตัวนอกของหญิงสาวก็หลุดจากไหล่ลงมากองที่เอวตามมาด้วยเสื้อตัวในเหลือเพียงบังทรงตัวเล็กที่แทบไม่สามารถบังสิ่งใดได้ในเมื่อเม็ดจุกที่แข็งชูชันถูกดันออกมาหลอกล่อให้จ้องมอง
สองตาของชายหนุ่มซึ่งไม่เคยเหลือบแลไป๋ลี่ซือมาก่อนจดจ้องซาลาเปาสองลูกอันอวบอิ่มที่ผลุบโผล่พลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากอันร้อนผ่าว
เหตุใดจึงรู้สึกว่าสองก้อนซาลาเปานั่นช่างน่ากินนัก เม็ดกลางที่ลอยเด่นช่างชวนให้หิวโหยยิ่ง
ต้องเป็นฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดฝีมือนางแน่นอน จึงทำให้ร่านร้อน ทรมาน ร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วกาย
เซียงซิ่นหลิงขยับขาเบียดเข้าหากันอย่างพยายามอดกลั้นเมื่อรู้สึกว่าส่วนกลางกายขยายใหญ่อย่างไม่อาจห้าม ทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนราวมีไฟเผาไหม้อยู่ข้างใน
“ไป๋ลี่ซือ เจ้าช่างชั่วร้ายนัก คิดรวบรัดอยากมีความสัมพันธ์กับข้าเช่นนั้นหรือ อย่าคิดว่า ยอมทอดตัวให้ข้าเชยชมแล้ว ข้าจะยอมรับเจ้า
ในเมื่อ คิดทอดกายแล้วก็อย่าหมายหวังสูง คิดว่าข้าจะชุบเลี้ยงหรือยกย่องเชิดชู สตรีเจ้าเล่ห์ไร้ยางอายเช่นเจ้าก็เป็นได้แค่สตรีอุ่นเตียงที่ต้องถูกเก็บเป็นความลับของข้าเท่านั้น”
แม้ปากจะพูดอย่างรังเกียจ แต่การกระทำกลับตรงข้ามเมื่อชายหนุ่มโผก้มลงงับจุกแข็งที่ตั้งเด่นผ่านผืนผ้าบางแล้วดูดเม้มอย่างแรง
ไป๋ลี่ซือสะดุ้งก้มลงมองริมฝีปากหนาซึ่งกำลังกลืนกินยอดกลางซาลาเปาของตนเองอย่างอยากจะแก้ตัวว่านางไม่ได้ทำ
ครั้นรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่พองตัวแข็งขึ้นเป็นลำซึ่งกำลังทาบทับอยู่บนเรียวขาด้วยความร้อนรุ่มที่อยากจะสอดแทรกตัวตนเข้าไปในร่องอบอุ่นของนางเต็มทีแล้ว
หญิงสาวจึงรีบจับแขนแกร่งหวังผลักให้ห่างออก
“คุณชายเซียง ข้าไม่ได้...”
แม้ไป๋ลี่ซือมักจะทำตัวเก่งกล้าแต่นางเป็นเพียงสาวน้อยร่างบาง เรี่ยวแรงอันน้อยนิดย่อมไม่อาจฝืนสู้กำลังของชายหนุ่มที่กำลังทาบทับอยู่ด้านบนได้ทั้งคุณชายหนุ่มยังเต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรง
เซียงซิ่นหลิงกดขาทั้งสองข้างบังคับไม่ให้เรียวขาเนียนดิ้นหนี ทั้งยังจับแขนทั้งสองข้างกางออกพลางตวัดลิ้นโลมเลียหัวจุกเม็ดใหญ่ที่แลเห็นชัดถนัดตาสลับไปมาสองข้างราวกลั่นแกล้ง
เหตุใดเขาจึงดุดันนัก
“อย่า…” หญิงสาวยังพยายามแม้บัดนี้บังทรงของนางจะเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายพาให้อากาศที่หนาวเย็นเริ่มร้อนระอุขึ้นตามอารมณ์ร้อนแรง
“เมื่อวานเจ้าก็แสร้งเดินเฉียดเพื่อให้ส่วนนี้สัมผัสแขนของข้า ยามนี้จะมาแสร้งเล่นตัวเช่นนั้นหรือ สายไปแล้ว ไป๋ลี่ซือ”
เซียงซิ่นหลิงจำได้ว่าเขาต้องพยายามข่มใจไม่ให้ลุกขึ้นไปจับนางมาเขย่าเอาความไร้สมองออกมาอย่างยากลำบากเพียงใด
แต่ตอนนั้นเขายังมีสติยั้งคิด ไม่เหมือนตอนนี้ที่ยานั่นได้ปลุกราคะเร่าร้อนจนลุกท่วมไปทั้งกายแล้ว
เมื่อสองร่างเบียดกายเข้าหากันได้ไม่นาน ชายหนุ่มจึงไม่อดกลั้นความปรารถนาดึงกระชากบังทรงผืนเล็กจนขาดออกทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี
นางยั่วเขาเอง ไม่อาจบอกว่าเขารังแกได้
สู้อุตส่าห์อดทนอดกลั้น ทั้งที่อดอยากมาหลายเดือน
ในเมื่อนางมาป้อนจนถึงปาก ก็อย่าหาว่าเขากินมูมมามอย่างไร้มารยาท
สายตาหิวกระหายจากฤทธิ์ตัณหาที่ถูกปลุกขึ้นจ้องมองเต้าอวบใหญ่ที่บัดนี้ไร้สิ่งใดบดบังด้วยแววตามืดครึ้ม
ด้วยฟ้ายังไม่มืดนัก สองก้อนอิ่มเอิบยิ่งแลจึงยิ่งปลุกความหิวโหยเร่งให้ใบหน้าคมก้มลงซุกไซ้ดอมดมไปตามลำคอระหง แล้วเลื่อนต่ำคลุกเคล้าดูดดุนขบเม้มจนทั่วก้อนเต้าหู้นุ่มฟู
