ตอนที่สาม เจ้าจะยั่วข้าให้ได้ใช่หรือไม่ (กรุบกริบ)
ตอนที่สาม
เจ้าจะยั่วข้าให้ได้ใช่หรือไม่
ความสงสารที่ก่อเกิดเริ่มพัฒนากลายเป็นความรู้สึกล้ำลึก นานวันเข้าหญิงสาวจึงมักเข้าไปวุ่นวายหาเรื่องใกล้ชิดและข้ออ้างในการปั่นป่วนเพื่อให้เขาต้องเอ่ยปากออกมาสักคำสองคำ
“ชายหญิงไม่ควรอยู่ตามลำพัง เจ้ารีบทำให้เสร็จแล้วรีบกลับไปเสีย” น้ำเสียงเรียบนิ่งยิ่งฟังยิ่งน่ากลั่นแกล้งนัก ไป๋ลี่ซือจึงส่งเสียงหัวเราะดัง
“ฮ่า ฮ่า ข้ามาทำความสะอาด จะนับว่าอยู่ลำพังกันได้อย่างไร หรือท่านจะนอนบนที่นอนเน่าๆ ไปตลอดทั้งเดือนทั้งปี”
แน่นอนว่า คุณชายหนุ่มได้แต่ขบเม้มปากไม่อาจต่อล้อต่อเถียงกับบุตรสาวผู้ใหญ่บ้านผู้กล้าพูดกล้าเจรจาผู้นี้
จากใจที่เริ่มเอนเอียงด้วยรูปร่างหน้าตาที่ชวนมอง กลายเป็นท่วงท่ากิริยาของชายหนุ่มที่ดึงดูดให้หญิงสาวรู้สึกลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นริมฝีปากที่มักเม้มไว้แน่นราวไม่ต้องการกลั่นกรองถ้อยคำออกมา ช่างชวนให้หยอกเย้าเพื่อให้เอื้อนเอ่ยวาจาออกมาอีกสักคำ
ไป๋ลี่ซือจึงถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำให้เขาพูดกับนางให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ชีวิตของเขาเงียบเหงาจนเกินไป
“แม่นางไป๋ เจ้าไม่ควรเข้าใกล้ข้ามากนัก”
“เรียกข้าว่า ‘ซือซือ’ เถิด เรียกเช่นนั้นฟังแล้วช่างแปลกหู ข้าไม่คุ้นเคย”
“เอาล่ะ ซือซือ ข้าขอบใจที่เจ้าหวังดี แต่ข้าเองก็ไม่คุ้นเคยที่มีสตรีแปลกหน้ามาวุ่นวายอยู่ใกล้ๆ เจ้าเข้าใจหรือไม่” เสียงถอนหายใจดังแผ่วออกมายิ่งกระตุ้นความอยากเอาชนะของไป๋ลี่ซือ
“แปลกหน้าที่ใดกัน อย่างพวกเราต้องเรียกว่ารู้จักมักคุ้นกันดี คุณชายเซียง ข้าไม่ได้วุ่นวายสักหน่อย ก็แค่มาช่วยดูแลเท่านั้น”
เซียงซิ่นหลิงถอนหายใจอีกครั้ง แม้เขาจะรู้ดีว่าไม่อาจปฏิเสธข้ออ้างว่าหวังดีของบุตรสาวผู้ใหญ่บ้าน
แต่การที่นางมาวอแวโฉบไปโฉบมา ทั้งยังแสดงกิริยาราวต้องการยั่วยวนอย่างเปิดเผยอยู่หลายคราช่างทำให้อึดอัดใจยิ่งนัก
ความจริงไป๋ลี่ซือนางนี้ก็นับว่างดงามใช้ได้ เพียงแต่อุปนิสัยแปลกประหลาดตรงไปตรงมาจนเกินไปยากจะรับไหว
ช่วงแรกยังพอทนด้วยนางยังเว้นระยะห่างแม้จะพูดมากไม่ได้หยุด แต่หลังจากเขาเริ่มตอบคำจึงกลายเป็นสร้างความได้ใจ
ไม่นานนางจึงฉวยโอกาสพาตนเองเข้ามาเฉียดไปโฉบมาทั้งส่งสายตาวิบวับอย่างไร้ยางอาย
