บท
ตั้งค่า

14 หาเรื่อง!

หลังเลิกเรียน…

“ไปดูหนังกันไหมนิริน วันนี้มีหนังใหม่เข้าเพียบเลยนะ” วดีเอ่ยปากชวน เมื่อกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมตัวเลิกเรียน

“ก็ดีเหมือนกัน ฉันกับแกไม่ได้ไปดูหนังด้วยกันนานแล้ว”

“งั้นแกลองโทรขอพี่หิรัญดูก่อนว่าให้ไปไหม กว่าจะกลับคงดึก ฉันไม่อยากให้มีปัญหากัน”

“ไม่ต้องขอหรอก เขาคงไม่ได้สนใจอะไรฉันอยู่แล้ว” นิรินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ใส่ใจอะไร การได้ออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาในรอบหลายอาทิตย์มันคงดีกว่าการอดอู้อยู่แต่ในห้อง

ที่ผ่านมามีแค่เธอที่เป็นฝ่ายรอให้เขากลับห้อง ถ้าปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายรอบ้างมันคงไม่ผิดอะไร

“พวกแกทะเลาะกันเหรอ?”

“เปล่านิ ไม่ได้ทะเลาะ” คนตัวเล็กพูดพลางหยิบแซนด์วิชขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็ไม่ลืมจะแบ่งครึ่งให้เพื่อนกินด้วย

“แต่จะว่าไปพักนี้แกไม่ค่อยพูดถึงพี่เขาให้ฟังเลยนะ ฉันนึกว่าทะเลาะกันซะอีก”

“ฉันว่าเรารีบไปกันดีกว่า ขากลับแวะกินบิงซูกันด้วยนะ”

“ได้สิ งั้นไปกันเลย” วดีเกาหัวด้วยความงุนงงเมื่อนิรินเปลี่ยนเรื่องคุยเอาเสียดื้อๆ แต่ก็ยอมเดินตามเพื่อนสาวออกมาแต่โดยดี

ห้างสรรพสินค้า…

“นิริน”

หญิงสาวทั้งสองหันไปตามเสียงเรียกปริศนาในขณะที่กำลังยืนซื้อตั๋วหนังรอบค่ำ

“ขุนเขา” ใบหน้าแสนหวานคลี่ยิ้มด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นขุนเขาที่เดินเข้ามาทัก ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะได้เจอเขาที่นี่

“มาดูหนังเหมือนกันเหรอ?”

“ใช่…มาดูกับเพื่อน”

“ใจตรงกันเลยนะ มาดูเรื่องเดียวกันซะด้วย ว่าแต่รินนั่งแถวไหน?”

“อยู่โรง1 แถวA”

“งั้นรอแป๊บนึง เดี๋ยวเรามา”

“มีอะไรหรือเปล่าขุนเขา?” เธอร้องเรียกเมื่อเห็นว่าเขาผลุนผลันเดินออกไป

“ไปซื้อตั๋วใหม่ไง จะได้นั่งแถวเดียวกับริน”

“…..”

“อุ๊ยตาย! พ่อหนุ่มคนนั้นเป็นใครเหรอย่ะ?” วดีสะกิดถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อเห็นว่าขุนเขาเดินออกไปแล้ว

“ชื่อขุนเขา เป็นเพื่อนข้างห้องที่คอนโด เขานิสัยดีนะ ชอบซื้อขนมมาฝากฉันบ่อยๆ”

“แกนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ ขนาดมีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังมีผู้ชายมาขายขนมจีบ”

“…..”

ครืด~ ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องหรูของเธอก็ส่งเสียงร้องดังขึ้น

“ใครโทรมาเหรอ ทำไมแกไม่รับสาย?”

“พี่หิรัญโทรมาน่ะ สงสัยกลับถึงห้องแล้วไม่เห็นฉันเลยโทรหา”

“งั้นแกก็รับสิ เห็นโทรมาหลายสายแล้วนะ ถ้าบอกว่าอยู่กับฉัน พี่หิรัญไม่ว่าอะไรหรอก”

“…..” นิรินเลือกที่จะกดตัดสายทิ้งแล้วปิดเสียงไปในที่สุด วันนี้เธอมาเที่ยวผ่อนคลายไม่อยากต้องคิดเรื่องอื่น

“เอ้า! นิริน ทำไมแกไม่รับสายล่ะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก”

“ไม่เป็นไรหรอก ค่อยกลับไปคุยที่บ้านก็ได้ ตอนนี้ฉันไม่อยากคิดเรื่องอื่น เราไปดูหนังกันเถอะ”

“…..”

คอนโดหิรัญ…

“ขอบคุณมากนะที่มาส่ง แล้วก็ขอบคุณสำหรับบิงซูด้วยร้านที่นายพาไปกินอร่อยมาก” นิรินพูดเสียงหวานเมื่อรถหรูของขุนเขาเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคอนโดของหิรัญ

กว่าจะดูหนังเสร็จก็มืดค่ำ เขาเลยขออาสาเป็นคนขับรถมาส่งนิรินกับเพื่อนของเธอ แถมยังแวะซื้อขนมกับของกินให้เธออีกเพียบเลย

“ถ้าอยากไปอีกก็บอกได้เลยนะ เดี๋ยวเราพาไป”

“โอเค แล้วเจอกันใหม่นะ”

นิรินโบกมือลาแล้วเปิดประตูเตรียมลงจากรถ แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของขุนเขาที่เรียกตามหลัง

“เดี๋ยวก่อนนิริน”

“????”

“ถ้าเราอยากจะขอโทรคุยกับรินบ้างได้ไหม?”

“แต่รินมีแฟนแล้วนะ ขุนเขาก็รู้ไม่ใช่เหรอ?” เธอพูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม ซึ่งขุนเขาก็รู้ดีว่าแฟนของหญิงสาวนั้นเป็นใคร

“คุยกันในฐานะเพื่อน ไม่ได้คุยแบบชู้สาวสักหน่อย”

“ถ้าแบบนั้นก็ได้”

“…..” ขุนเขายิ้มกว้างเมื่อได้รับอนุญาตจากหญิงสาว ถึงเธอจะมีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะเขายังคงรู้สึกดีกับเธอเหมือนเดิม

“งั้นเรากลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆ”

แกร้ก~

“เลิกเรียนตั้งแต่สี่โมงเย็น นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว หายไปไหนมานิริน!?”

ดวงตาเฉี่ยวคมจ้องมองแฟนสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างเอาเรื่อง หิรัญก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นระยะเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว

“ยังไม่นอนอีกเหรอคะ?”

“เมียไม่เข้าบ้าน พี่คงนอนหลับอยู่หรอกมั้ง!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเธอไม่เคยกลับบ้านผิดเวลาแม้แต่ครั้งเดียว จะไปไหนหรือมาไหนมักจะโทรรายงานเขาอยู่เสมอ

“…..”

“ตอบคำถามพี่ด้วย! หนูหายไปไหนมา?”

“ไปดูหนังมาค่ะ”

“ไปกับใคร? พี่โทรหาเป็นร้อยๆ สายทำไมไม่รับโทรศัพท์”

“แบตหมดค่ะ”

“แค่นี้?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อคำตอบที่รอฟังจากปากเธอนานหลายชั่วโมงมีแค่เพียงสองคำเท่านั้น

“ใช่ค่ะ แบตหมด”

“…..”

“ถ้าพี่ไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า ไม่อยากนอนดึกค่ะ”

“คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน หนูไปดูหนังกับใคร?” หิรัญรีบเดินไปขวางหน้าเอาไว้ไม่ยอมให้เธอเดินหนี แต่เธอกลับชักสีหน้าใส่เขาเหมือนรำคาญ

“ไปดูหนังกับวดีค่ะ”

“เอาโทรศัพท์มาให้พี่ดู” ไม่พูดเปล่าแต่ยังยื่นมือเข้าไปหาเพื่อขอโทรศัพท์จากเธอ

แต่สิ่งที่คนตัวเล็กทำคือยืนนิ่งเฉยไม่ยอมยื่นโทรศัพท์ให้เขาเหมือนที่ผ่านมา

“พี่บอกว่าเอาโทรศัพท์มาให้พี่ดู”

“ไม่ค่ะ! นี่มันของส่วนตัวของหนู”

“แต่หนูเป็นเมียพี่! เอาโทรศัพท์มา!”

“ไม่ให้ค่ะ ทีโทรศัพท์ของพี่หนูยังจับไม่ได้เลย”

พรึ่บ! สมาร์ตโฟนเครื่องหรูของหญิงสาวถูกชายหนุ่มกระชากออกจากมืออย่างแรง

“พี่หิรัญ มันจะมากเกินไปแล้วนะ” หิรัญไม่สนใจท่าทางโวยวายของแฟนสาว สิ่งที่เขาทำคือรีบกดปลดล็อกด้วยความลนลานแต่มันกลับขึ้นว่าผิดพลาดเมื่อเธอได้ทำการเปลี่ยนรหัสผ่าน

“เปลี่ยนรหัสผ่านทำไม?”

“…..”

“พี่ถามว่าเปลี่ยนรหัสทำไม!?”

“…..” หญิงสาวสะดุ้งตัวโยนเมื่อถูกแฟนหนุ่มขึ้นเสียงใส่ด้วยความเดือดดาล

“บอกรหัสพี่มาเดี๋ยวนี้นิริน!”

“…..” เธอกัดริมฝีปากอย่างแรงด้วยความชั่งใจ ท่าทางโมโหของคนตรงหน้าเริ่มทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว

“พี่ไม่ไว้ใจหนูเหรอคะ?”

“แล้วดูหนูทำตัวดิ จะให้พี่ไว้ใจได้ยังไง!”

“หนูกลับมาเหนื่อยๆ พี่อย่าหาเรื่องได้ไหม”

“…..”

“ถ้ากลับมาแล้วพี่ชวนทะเลาะแบบนี้ รู้แบบนี้หนูไม่กลับมาดีกว่าค่ะ” สิ้นประโยคนั้นคนตัวเล็กจึงรีบเดินหนีเข้าห้องมา โดยไม่หันหลังกลับไปมองเขาอีก

“เดี๋ยวก่อนนิริน นิริน!”

“…..”

“แม่งเอ้ย!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel