บท
ตั้งค่า

ไปไหนมา...

แพทตี้รีบมาเข้างานอย่างเคย ไม่มใครรู้ว่าเธอแต่งงานกับลูกชายคนโตของท่านประธานใหญ่ เธอไม่ใส่แหวนแต่งงาน เธอถูกเขาดึงแหวนแต่งงานออกจากนิ้วทิ้งตั้งแต่หลังจบพิธี พิธีแต่งงานของเธอและเขาไม่ได้จัดอะไรมาก นอกจากครอบครัวเขาและพ่อของเธอ ดังนั้นจึงไม่มีใครมางานแต่งที่โสมมครั้งนี้เธอคิดว่ามันก็ดีเหมือนกันที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และสามีของเธอเขาก็ไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานและไม่เต็มใจที่จะเห็นเธออยู่ในบ้านหลังนั้น แต่แล้วยังไงล่ะไม่ใช่แค่เขาที่ไม่อยากเห็นเธอก็เหมือนกันเธอไม่อยากเห็นเขาและผู้หญิงของเขา ถามว่าเสียใจไหม ตอบตามตรงว่าเสียใจ แต่มากรึเปล่า ไม่มากนะ เพราะเธอไม่ได้รักเขาไง ถ้าเธอรักเขามันก็อีกเรื่องแต่เมื่อคนสองคนที่ไม่ชอบกันเกลียดขี้หน้ากันมาแต่งงานด้วยกัน มันเลยทำให้เธอและเขาเหมือนกับโลกขู่ขนาน....

" แพทตี้จ๋า...วันนี้ตอนเย็นแพทตี้จะไปไหนต่อรึเปล่าจ๊ะ" น้ำขิงถามเพื่อนสนิทในสายงานเดียวกับเธอ วันนี้เธออยากไปเดินตลาดนัดแต่เธอไม่อยากไปเดินคนเดียว เธอเลยอยากชวนแพทตี้ที่รักขงเธอไปด้วย....

" ไปได้ไม่นานน่ะขิง เพราะวันนี้ต้องไปเฝ้าพ่อน่ะ ไปได้แต่ห้ามดึกไม่งั้นไม่มีรถกลับแน่นอน.." อันที่จริงเธอไม่ได้จะไปเฝ้าพ่อหรอกขอโทษนะน้ำขิง แต่เธอไม่สามารถกลับบ้านหลังนั้นดึกได้ เพราะมันไกลและกลัวว่าจะไม่มีรถ เธอไม่อยากให้น้ำขิงรู้ด้วยว่าเธออยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของเธอ

" อ๋อ... ไม่เป็นไรๆ ไปแป๊บเดียว ไม่นาน ขอแค่แพทตี้ที่รักของขิงไปด้วย แค่เสี้ยววินาทีก็มีความสุขแล้ว...คริคริ" น้ำขิงหยอดนิดๆ เธอชอบของเธอนิ แพทตี้น่ารักขนาดนี้ เป็นใคร ใครก็ชอบ

" หึหึ ปากหวานนะคะคุณน้ำขิง ทำงานค่ะทำงาน เดี๋ยวโดนหักเงินเดือน..." แพทตี้ถึงกับส่ายหัวให้กับความขี้เล่นของน้ำขิง น้ำขิงชอบแซวของแกล้งเธอมากๆ แต่ก็ดีนะ จะได้ไม่เหงาดี...

ตกเย็นสองสาวก็พากันนั่งรถไฟ้ฟ้าไปลงที่สถานีที่ใกล้ที่สุด พวกเธอพากันเดินคล้องแขนกันไปหา ด้วยเงินเดือนที่ไม่ค่อยมากนัก แพทตี้เลยต้องคอยคิดคำนวนอยู่ตลอดว่าเธอจะซื้อหรือทำอะไร ต้องคิดหน้าบวกหลัง คอยระวังไม่ให้ใช้เงินเกินกว่าที่เธอกำหนดไว้ในแต่ละวัน ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงแรม แต่งแบบไม่ได้เต็มใจและไม่ได้รักกัน แต่อย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เงินจากเขา หรือจากใครทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคุณลุงภพกูลบอกว่าจะให้เงินเดือนแยกกับเธอ แต่เธอไม่สามารถรับมันไว้ได้หรอก เธอไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น เธอไม่อยากเอาเปรียบท่านไปมากกว่านี้ ลำพังแค่ค่าผ่าตัดค่าโรงพยาบาลมันก็หมดไปเป็นล้านเกือบสองล้านแล้ว เธอยังไม่มีปัญญาที่ไหนจะหาเงินมาใช้หนี้ก้อนนี้เลย... ดังนั้นเธอเลยปฏิเสธที่จะไม่รับเงินของคุณลุงท่าน....

" แพทตี้จ๋า.. กินอันนี้ไหมอ่ะ แบ่งกันกินขิงกินคนเดียวไม่ไหวหรอกมันเยอะมากเลยดูสิ..." น้ำแข็งอยากกินไอ้ของตรงหน้าแต่ดูๆแล้วเธอกินไม่หมดหรอกมันเยอะเกินไป

"อือ เอาสิ ช่วยกันออกคนละครึ่ง งั้นขิงสั่งนะ เดี๋ยวแพทไปซื้อน้ำ เราไปหาที่นั่งกินกันดีกว่า" แพทเลี่ยงไปซื้อน้ำทันที อันที่จริงของที่น้ำขิงอยากกินเธอก็อยากลองนะ มันดูแปลกใหม่ดี เธอยังไม่เคยกิน มันเป็นขาหมูใหญ่ๆทอดอ่ะ ขาหมูเยอรมันไหม รึเปล่าเธอไม่รู้แต่มันเยอะเกินไปเธอก็กินไม่หมดหรอกถ้าให้ซื้อกินคนเดียว

"อุ้ย.. ขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?" ด้วยความซุ่มซ่ามของเธอ ทำให้เธอชนกับใครก็ไม่รู้เข้า ดีที่เขาไม่ล้มและเธอก็ไม่ล้มลงไป...

" ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า? ผมต้องขอโทษด้วยที่เมื่อกี้ไม่ทันได้มองคุณ"

" ไม่ค่ะไม่เป็นไร ขอโทษอีกครั้งนะคะ..." แพทตี้ก้มหัวเพื่อเป็นการขอโทษเขาอีกครั้งจากนั้นเธอก็รีบเดินไปยังโต๊ะที่มีน้ำขิงนั่งรออยู่...

สองสาวนั่งเม้าท์มอยกันอย่างสนุกสนาน และไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนคอยจับจ้องทั้งคู่อยู่...

" กลับกันเถอะเดี๋ยวจะพากันถึงบ้านดึก..." น้ำขิงยกนาฬิกาขึ้นมาดู พร้อมกับเอ่ยชวนให้แพทตี้กลับบ้านกันดีกว่าเพราะตอนนี้มันก็เกือบสองทุ่มไปแล้ว กว่าจะไปถึงปลายทางที่พวกเธอขึ้นรถไฟฟ้าก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงได้ เธอต้องก่ะเวลาให้ดีๆ เพื่อเรียกวินมอร์ไซต์ หรือเรียกแก๊ปอีก ต้องก่ะเวลาให้ถูก และจะได้ไม่เป็นอันตราย

" อืมๆนั่นสิ กลับกันเถอะ แต่วันนี้สนุกมากเลยนะขิง นานแล้วที่แพทไม่ได้ออกมาเดินเล่นตลาดนัดแบบนี้..." มันนานมากแล้วที่เธอไม่ได้มาเดินเล่นแบบนี้เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่เธอได้ออกมาเดินตลาดนัดมันคือช่วงไหน

สองสาวเดินคุยหยอกล้อกันไปตลอดทางจนถึงสถานีรถไฟฟ้า แล้วทั้งคู่ก็พากันหาที่นั่งพร้อมกับคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย ตาคู่หนึ่งจับจ้องทั้งสองอย่างไม่คลาดสายตา มุมปากยิ้มยกขึ้นเล็กน้อย และในที่สุดสองสาวก็ถึงจุดที่ตนเองต้องลงกันแล้ว ทั้งคู่บอกลากันแล้วก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง

เพียงแค่แพทกลับมาถึงบ้านเธอก็พบกับสภาพบ้านที่เละเทะเต็มไปด้วยจานชามข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนบ้านไปหมด เธอไม่รู้ว่าคนพวกนี้เกิดมากันแบบไหนถึงไม่รู้จักทำความสะอาดกันเลยสักนิด

" เหนื่อยจากงานแล้วยังจะมาเหนื่อยเก็บด้วยเหรอเนี่ย โตกันมาแบบไหนถึงได้ทำตัวทุเรศทุรังกันแบบนี้..." มือบางหยิบจับข้าวของไป ปากก็บ่นไปอีกเธอไม่ชอบเลย เธอไม่ชอบให้บ้านมีกลิ่นของอาหารนานๆ หลังจากทำกับข้าวมันมีกลิ่นเธอจะไม่ว่าเลย แต่กลิ่นที่มันยังคงตลบอบอวลอยู่ตลอดเวลาแบบนี้เพราะคนกินไม่ยอมเก็บนี่สิ เธอไม่ชอบเลย...

แพทวางกระเป๋าของเธอเอาไว้ที่เก้าอี้แล้วเธอก็จัดการล้างจานชามและของอย่างอื่นไปจนเกือบจะเสร็จแล้ว อยู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตรงมาหาเธอ...

หมับ!!!

" ไปไหนมาห๊ะ บ้านช่องไม่รู้จักกลับ ไปแรดที่ไหนมาล่ะ ไปหาเหยื่อใหม่เหรอ? เป็นไงเจอรึยัง ถ้าเจอเร็วหน่อยยิ่งดี ฉันจะได้หลุดพ้นจากปลิงดูดเงินอย่างเธอไง..." เอกดนัยที่นั่งรอให้ยัยปลิงดูดเลือดกลับมาเก็บกวาดจานชามและข้าวของที่เขากับแยมสั่งมากิน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มาสักที ชักจะปลีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ

" ถ้าคุณเมาก็ไปนอนเถอะคะ ฉันไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับคุณ " แพทถอนหายใจออกมายาวๆแล้วก็เริ่มลงมือล้างจานชามต่อ..

เพล้ง!!!!

ไม่เคยมีใครเมินใส่เขามาก่อน ยัยตัวทุเรศคนนี้เป็นใครถึงกล้ามาทำเมินใส่เขาแบบนี้...

" คุณเป็นประสาทเหรอคะ? คุณอยากทำรายข้าวของนักก็เชิญค่ะ ดีฉันจะได้ไม่ต้องล้างต้องเก็บมันแล้วดีค่ะ จะได้ไม่เหนื่อย..." แพทถอดถุงมือยางสำหรับล้างจานออกแล้วเธอก็หมุนตัวเพื่อที่จะออกไปจากตรงนี้ทันที....

หมับ!!!

เอกดนัยจับแขนของยัยปลิงดูดเลือดเอาไว้อย่างแน่น... ดวงตาที่แดงกร่ำเพราะความเมาและความโกรธมันผสมปนเปกันไปหมด...เขาไม่รู้หรอกว่าเขาจะโกรธยัยผู้หญิงคนนี้อะไรมากขนาดนี้... แต่เขาก็โกรธไปแล้ว เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel