บทที่ 3
สุดท้ายหญิงสาวจึงตัดสินใจทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาพี่สาวกลับบ้านแม้จะรู้แก่ใจว่าตนนั้นอ่อนประสบการณ์ในด้านนี้มากก็ตาม
“ฮึก! ทำไมทุกคนทำกับแก้วแบบนี้…ทุกคนเขาเกลียดแก้วค่ะคุณพ่อ! ไม่มีใครรักแก้วจริงๆ เลยสักคนไม่ว่าจะเป็นคุณน้าหรือยัยอร!” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของพี่สาวทำเอาอรดีเงียบนิ่งไปเมื่อได้ยินมันเข้า คำบางคำที่เธอกับผู้เป็นแม่ไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
“ไม่จริงนะคะพี่แก้ว คุณแม่กับอรเราสองคนรักพี่แก้วนะคะ” เธอแย้งออกไปเพราะรู้ว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของคนที่อยู่ในสภาพที่สติไม่ครบถ้วนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นความในใจที่ไม่อาจพูดมันออกมาได้ในยามที่ทุกๆ สิ่งพร้อมสรรพ อะไรทำให้พี่สาวเธอคิดแบบนี้
“ไม่! ทุกคนเกลียดแก้ว…พี่เหนือเองก็เกลียดแก้ว ทั้งๆ ที่แก้วรักเขามาตลอด รักก่อนที่เขาจะได้มาเจอกับอรเสียที! แต่สุดท้ายอรก็แย่งเอาทุกๆ อย่างไปจากแก้วจนหมด ทั้งคุณพ่อ…ทั้งพี่เหนือ” คำพูดที่ตอบกลับมานั้นทำเอาคนฟังอยู่แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อรดีหันไปจ้องมองใบหน้าที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาของพี่สาวอย่างสะท้อนหัวใจ ก่อนจะนึกย้อนไปถึงวันแรกที่เธอและผู้เป็นแม่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน
วันนั้นทุกๆ คนภายในบ้านต่างยินดีกับการมาเยือนของเธอและแม่มากจนพากันลืมว่าวันนั้นคือวันเกิดของแก้วกานดา แม้ว่าพี่สาวเธอจะบอกว่าไม่เป็นไรเมื่อทุกคนพากันจำได้ตอนที่เวลาล่วงเลยไปนานถึงสามวัน แต่ก็มีเสี้ยววินาทีที่เธอแอบเห็นความเศร้าในดวงตาคู่นั้นก่อนที่มันจะหายไปราวกับเธอไม่ต้องการให้ใครได้เห็น
คุณพ่อของเธอเองก็เอาใจใส่เธอในหลายๆ เรื่องเช่นกัน และนั่นมันอาจทำให้พี่สาวของเธอเข้าใจผิดคิดว่าท่านรักเธอมากกว่าทั้งๆ ที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ทุกคนต่างรักเธอกับพี่สาวอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะแม่ของเธอหรือแม้แต่คุณพ่อที่รักเธอทั้งสองคนเท่าๆ กัน
และคนสุดท้าย เหนือตะวัน เธอได้รู้จักเขาเพราะว่าครอบครัวของเขาสนิทกับครอบครัวของคุณพ่อ และนั่นเองมันคือการเริ่มต้นความรักของเธอและเขา รักที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภายใต้ความสุขนั้น มันได้สร้างเอาความปวดร้าวให้ใครบางคนขนานหนัก!
ใครบางคนที่คงเจ็บปวดไม่น้อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้แย่งเหนือตะวันมาจากพี่สาว แต่กะจากเวลาที่ทั้งสองได้รู้จักเธอคาดเอาเองว่าพี่สาวของเธอคงแอบรักเขาข้างเดียวมานานมากแล้ว และเธอก็คือคนที่เข้ามาขวางกั้นความรักนี้ ทำลายความสุขเดียวที่พี่สาวเหลืออยู่ในชีวิตโดยไม่รู้ตัว ไม่เคยรู้อะไรเลยกระทั่งวันนี้ที่ได้ได้ยินด้วยตัวเอง
