บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

บทที่ 3

บทที่ 03

เขมิกาเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ บ้านของตระกูลไพวรรณ เธอถือช่อดอกไม้กลับเข้าบ้านทุกๆ วัน เพราะเธอจะจัดแจกันในบ้านให้ดูสวยงามและสดชื่นอยู่เสมอ

"เขม.. มาหาแม่หน่อยสิ" แขไขเรียกบุตรสาวคนโตที่กำลังเดินเข้าบ้าน เขมิกาเดินเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอวางกระเป๋าและช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ แม่

"มีอะไรคะแม่" หญิงสาวเอ่ยถามแม่และพ่อที่นั่งทำหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

"เขม..แม่กับพ่อมีเรื่องจะบอก แต่อย่าบอกเรื่องนี้กับน้องนะลูก น้องยังเรียนอยู่ เดี๋ยวจะทำให้น้องเครัยดตามไปด้วย" เธอบอกลูกสาวอย่างกังวล

"ค่ะแม่.. มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ" หญิงสาวเอ่ยถามผู้เป็นแม่

"เขม..ตอนนี้ธุระกิจครอบครัวของเรากำลังแย่นะลูก..เราติดหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้านบาท"

มานพเอ่ยเสียงเครียดหลายวันมานี่เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย เพราะมัวแต่หาทางใช้หนี้อยู่ ยิ่งช้าดอกยิ่งเพิ่มมากขึ้น บริษัทเขาทำเกี่ยวกับพวกอสังหาริมทรัพย์ ขายบ้านขายที่ดิน แต่ปีนี้เศรษฐกิจกำลังแย่ โครงการบ้านจัดสรรของเขาที่กำลังขยายกำลังมีปัญหาหลายอย่าง เขาทั้งกู้ธนาคารคาร กู้นอกระบบ เขาทำมาทุกอย่างแล้ว แต่ยิ่งทำเหมือนมันยิ่งเป็นหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก

"ตายจริง! จริงหรอคะคุณพ่อคุณแม่" เขมิกาถามอย่างตกใจ ไม่คิดว่าพ่อกับแม่เธอต้องเจอปัญหาหนักแบบนี้

"พ่อกับแม่หมดหนทางแล้วลูก" แขไขเอ่ยบอกบุตรสาวเสียงเศร้า

"แล้วเราผ่อนจ่ายไม่ได้หรอคะ เขมพอมีเงินเก็บสักก้อนอยู่ค่ะ" เขมิกาเอ่ยบอกพ่อกับแม่ เธอก็พอมีเงินเก็บในบัญชีอยู่แต่ไม่มาก

"มันไม่ทันแล้วลูก มันเลยกำหนดชำระมานานหลายเดือนแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ได้บอกลูกเอง..." แขไขบอกกล่าวหญิงสาว เธอก้มหน้าร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ครอบครัวเธอกำลังแย่ หากไม่ใช้หนี้บ้านและบริษัทที่ใช้ค้ำประกันก็ต้องถูกยึด เธอไม่อยากให้ลูกๆมาลำบากกับเธอเลย

"โธ่~ แม่คะ.. อย่าร้องไห้นะคะ ถ้ามีอะไรที่เขมช่วยได้ บอกเขมนะคะ.." เขมิกากอดมารดาแน่น เธอสงสารพ่อกับแม่เหลือเกิน

"มีสิลูก..ลูกช่วยพวกเราได้แน่นอน" มานพเอ่ยบอกลูกสาว มันตันแล้วจริงๆ เหลืออยู่วิธีเดียว แม้ว่าเขาจะโดนตราหน้าว่าขายลูกกินก็เถอะ แต่มันจำเป็น..คนไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่เข้าใจหรอก

"อะไรคะ.. ถ้าเขมช่วยได้ เขมจะช่วยแน่นอนค่ะ" หญิงสาวเอ่ยบอกพ่ออย่างมั่นใจ

"คุณคะ...จะดีหรอคะ" แขไขถามสามีอีกครั้ง เธอไม่อยากเลือกวิธีนี้เลย..

"เราไม่มีทางเลือกแล้วนะแข.. หรือคุณจะยอมให้บ้านและบริษัทเราถูกยึด" มานพเอ่ยบอกภรรยา เขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย หากไม่จำเป็นจริงๆ

"ไม่นะคะ.. บ้านเราจะไม่ถูกยึด พ่อกับแม่บอกมาเถอะค่ะ จะให้เขมช่วยอะไร" เขมิกาบอกกล่าวพ่อแม่ เธอจะไม่ยอมให้บ้านและบริษัทที่ครอบครัวเธอสร้างมากับมือพังเด็ดขาด หากเธอช่วยได้จริงๆ เธอจะช่วยอย่างเต็มที่..

"เขมต้องแต่งงาน!" มานพเอ่ยบอกเสียงเครียด เขาก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาลูก กลัวว่าลูกจะเกลียดเขา

"อะ..อะไรนะคะ" เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ เหมือนลมหายใจเธอหยุดไปชั่วขณะ สมองหยุดทำงานเสียดื้อๆ พ่อกับแม่จะให้เธอแต่งงานงั้นหรอ..เธอจะทำยังไงดีนะ แต่เธอคงยอมให้ทุกอย่างพังลงไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่ได้อีก...

"เขมลูก..ถ้าเขมไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องแต่งนะลูก พ่อกับแม่จะไม่บังคับเขม.. ถ้าทุกอย่างมันจะพังก็ให้มันพังไป เราสร้างใหม่ได้นะลูก" แขไขรวบหญิงสาวเข้ามากอดแน่นน้ำตาผู้เป็นแม่ไหลออกมา เธอสงสารลูก ไม่อยากทำร้ายลูกแบบนี้เลย เขมิการ้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอจะทำยังไงดี.. หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เธอตัดสินใจแล้ว..

"พ่อคะ..แม่คะ.. เขมจะแต่งงานค่ะ" หญิงสาวกลั้นใจพูดออกไป เธอทำถูกแล้วใช่มั้ย..

"จะ..จริงหรอเขม..เขมจะแต่งงานจริงๆหรอลูก" แขไขถามลูกสาวให้แน่ชัด เธอไม่ได้บังคับลูกเกินไปใช่มั้ย

"ค่ะ เขมจะแต่งงาน เขมยอมให้บ้านและบริษัทเราถูกยึดไม่ได้หรอกนะคะ กว่าพ่อกับแม่จะสร้างมาได้ขนาดนี้ลำบากเพื่อเขมกับน้องมาตั้งเท่าไหร่ แล้วทำไมเขมจะยอมทำเพื่อพ่อกับแม่ไม่ได้ล่ะคะ.." เธอบอกพ่อกับแม่อย่างหมั่นใจ เธอคิดดีแล้วแหละ คงถึงเวลาที่เธอต้องตอบแทนบุญคุณของพ่อกับแม่ซะบ้าง

"ขอบใจนะเขม ขอบใจมากลูก" มานพกอดลูกสาวอย่างขอบคุณ หากลูกไม่ช่วยเขาก็คงหมดหนทางแล้ว

"ไม่ต้องห่วงนะลูก คนที่ลูกจะแต่งงานด้วยเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อเอง อาชาญวิทย์ลูกจำได้มั้ย" มานพถามลูกสาว ตอนเด็กๆเขาเคยพาลูกสาวไปหาเพื่อนรักอยู่บ่อยๆ

"อ้อ อาชาญ..จำได้สิคะ ตอนเด็กอาชาญรักและเอ็นดูเขมมาก"

เธอจำได้อยู่บ้าง ชาญเอ็นดูเธอเหมือนลูกสาว ครั้งเมื่อตอนภรรยาของเขายังอยู่ ยังชอบพาเธอไปนอนค้างด้วยบ่อยๆ เพราะเขาไม่มีลูกสาว ส่วนลูกชายของชาญวิทย์เธอเองก็ไม่เคยเห็น เพราะตอนนั้นลูกชายของเขาไปเรียนต่อต่างประเทศเลยไม่เคยได้เจอกัน เคยเจออยู่ครั้งนึงตอนงานศพภรรยาของชาญวิทย์แต่ตอนนั้นเธอยังเด็กและยังไม่รู้จัก

"ใช่ลูก ลูกชายอาชาญหล่อมากเลยนะ พ่อเชื่อว่าเขาเป็นคนดี" มานพยิ้มให้ลูกสาวคนสวย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอตัวจริงตอนเป็นหนุ่มของชาตรี แต่เขาก็เชื่อว่าชาตรีจะดูแลลูกสาวเขาได้เป็นอย่างดี

"แม่กับพ่อขอบใจลูกมากๆนะ แม่รักเขมนะลูก" แขไขลูบผมหญิงสาวอย่างอ่อนโยน

"ค่ะ เขมก็รักแม่กับพ่อค่ะ" ร่างบางหอมแก้มพ่อและแม่

"จ๊ะเอ๋!?.. ทำอะไรกันอยู่คะ สามคนพ่อแม่ลูก" เขมิกรเดินเข้ามาก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่

"ไงเรา.. เลิกเรียนแล้วหรอ หืม.." แขไขถามบุตรสาวคนเล็ก

"เลิกแล้วค่ะ ว่าแต่คุยอะไรกันอยู่หรอคะ" ร่างบางเอ่ยถามแม่และพี่สาว

"เขมเขามาปรึกษาพ่อเรื่องที่จะขยายร้านน่ะ ใช่มั้ยเขม" มานพขยิบตาให้เขมิกา ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก

"อ้อ ใช่ๆ พี่มาปรึกษาพ่อกับแม่เรื่องขยายร้านน่ะ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ" เขมิกาหยิบกระเป๋าและช่อดอกไม้ ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว กลัวน้องสาวสงสัยเธอเป็นคนที่โกหกอะไรไม่เก่งอยู่แล้วด้วย

"พ่อข๋าา แม่ข๋าา แขอยากได้รถเบนซ์คันใหม่ค่ะ พ่อกับแม่ซื้อให้แขหน่อยน๊าา" หญิงสาวเดินไปกอดแขนอ้อนพ่อกับแม่ พลางกระพริบตาปริบๆ

"ช่วงนี้พ่อไม่ว่างอ่ะ กำลังยุ่งๆ พ่อไปก่อนนะ" มานพรีบหนีเอาตัวรอด ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

"อ้าว คุณ!.." แขไขเรียกสามีที่ทิ้งให้เธอรับหน้ากับลูกสาวคนเล็กอยู่คนเดียว

"คุณแม่ข๋าา " เขมิกรเรียกแม่เสียงหวาน

"ห้าวว~ ง่วงจังเลย แม่ไปนอนก่อนนะ" แขไขว่าจบก็รีบเดินหนีออกมาทันที ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงซื้อให้อย่างไม่ลังเล แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่..

"แม่อ่าา " ร่างบางทำหน้าบูดบึ้ง ทุกคนเดินหนีเธอหมดเลย ก่อนที่เขมิกรจะเดินออกไป..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel