บทที่ 4
บทที่ 4
บทที่ 04
ร่างบางระหงยืนเลือกซื้อของตกแต่งภายในร้าน เธอหยิบวอลล์เปเปอร์รูปผีเสื้อตัวเล็กขึ้นมาดู พลางมองอย่างพินิจ มือเรียวอีกข้างเอื้อมหยิบรูปนก ขณะเดียวกันมีมือเรียวของอีกคนเอื้อมมาหยิบวอลล์เปเปอร์รูปนกเช่นเดียวกันกับเธอ เหลือชิ้นสุดท้ายมือบางชักกลับอัตโนมัติ เขมิกาเงยหน้ามองผู้มาใหม่ เธอส่งยิ้มบางๆให้หญิงสาว
"ขอโทษค่ะ.. คุณเอาก่อนก็ได้ค่ะ" เขมิกาเอ่ยบอกหญิงสาวอีกคน
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณมาก่อนคุณเอาไปก่อนเลยค่ะ" หญิงสาวเอ่ยบอกเธออย่างเกรงใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเอาตัวอื่นแทนก็ได้ค่ะ" เขมิกาเอ่ยบอกเธอ เธอไม่ได้ต้องการอะไรมาก
"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" เสียงทุ้มเอ่ยข้างหลังของหญิงสาวก่อนที่มือหนาจะโอบไหล่เธออย่างสนิทสนม
"ไม่มีอะไรค่ะชา พอดีเราบังเอิญอยากได้วอลล์เปเปอร์เหมือนกันค่ะ มันเหลือชิ้นสุดท้ายด้วย" กิ่งเหมยเอ่ยบอกแฟนหนุ่ม เธอหันไปยิ้มให้หญิงสาว
"คุณเอาไปเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันเอาอันนี้ก็ได้ค่ะ" เขมิกาชูวอลล์เปเปอร์รูปผีเสื้อให้เธอดู
"ปะ ได้แล้วก็รีบไปกันเถอะ" ชาตรีเอ่ยบอกแฟนสาว เมื่อเหลือบมองนาฬิกาใกล้เวลาฉายหนัง เขากับแฟนสาวตั้งใจมาเดินเที่ยวเล่นตามประสาคู่รักทั่วไป แต่กิ่งเหมยเกิดอยากได้วอลล์เปเปอร์ไปติดผนังห้องที่บ้านเลยแวะเข้ามาดู
"ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ ไปค่ะชา" กิ่งเหมยเอ่ยขอบคุณหญิงสาวก่อนจะหันกลับไปบอกแฟนหนุ่ม
"เขมิกา!!... ยัยเขม แกจริงๆด้วย" หญิงสาวผมทองเดินเข้ามาหาเขมิกา ก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนม
"อ้าว ยัยฟาง มายังไงเนี่ย" เขมิกาเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน เธอไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ เธอค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง ร่างสูงชะงักกึก เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของหญิงสาว ชื่อเธอคุ้นหูจังแหะ ชาตรีคิดในใจ
"อะไรหรอคะชา" กิ่งเหมยเอ่ยถามแฟนหนุ่ม เมื่ออยู่ๆเขาก็ชะงักไป ชาตรีหันกลับไปมองหญิงสาวที่ยืนคุยกับเพื่อนอย่างออกรส คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากัน
"เปล่าครับ" ชาตรีเอ่ยบอกแฟนสาว แต่ในหัวเขากับคิดเรื่องของอีกคน กิ่งเหมยคล้องแขนชายหนุ่มก่อนจะเดินออกจากร้านไป
เขมิกามองตาชายหนุ่มและหญิงสาว เธอเห็นเขาปลายตามองเธออย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เธอหันกลับมาคุยกับเพื่อนต่อ
"แล้วนี่จะไปไหนต่อมั้ย" ฟางถามเพื่อนสาว
"ไม่อ่ะ แค่มาเดินเล่นเฉยๆอ่ะ" เขมิกาเอ่ยบอกเพื่อน
"งั้นไปกินไปไอศกรีมกัน ฉันเลี้ยงเอง" ฟางบอกกล่าวเพื่อนสาว เธอไม่ได้เจอกันนาน ตั้งแต่เรียนจบเลยก็ว่าได้
"อื้อ ไปสิ" ร่างบางตอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปชำระเงินแล้วเดินออกไป เธอเลือกร้านไอศกรีมเซเว่นเซ่น ทั้งคู่เดินไปนั่งในร้าน เลือกโต๊ะข้างกระจกก่อนจะสั่งไอศกรีมคนละถ้วย
"แล้วนี่แกทำอะไรอยู่หรอ ทำงานที่บริษัทพ่อแกปะ" ฟางเอ่ยถามพลางตักไอศกรีมเข้าปาก
"ไม่อ่ะ เราเปิดร้านดอกไม้เป็นของตัวเองอ่ะ" เขมิกาเอ่ยตอบเพื่อน แม้จะไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว แต่ทั้งคู่ยังคงสนิทสนมกันเหมือนตอนเรียน
"จริงดิ แถวไหนหรอ เผื่อเราจะไปอุดหนุน" หญิงสาวถามเพื่อนสนิท เธอรู้ว่าเขมิกาไม่ชอบงานที่บริษัทมันดูวุ่นวายและไม่เป็นตัวของตัวเอง
"แถว XX น่ะ ว่างๆก็แวะไปนะ" เธอหันไปยิ้มให้เพื่อนสาว
"เคๆ เดี๋ยวเราแวะไป อื้อ แล้วแกมีแฟนยังอ่ะ" มือบางที่กำลังตักไอศกรีมชะงักกึก จริงสิเธอไม่มีแฟน แต่เธอกำลังจะแต่งงาน จะตอบยังไงดีนะ
"ยังเลย เรายังไม่มีแฟน" เธอส่งยิ้มบางๆให้ฟาง เธอเลือกที่จะตอบแบบนี้ เพราะเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าเธออยู่ในสถานะอะไรตอนนี้ อีกอย่างเธอและเขายังไม่เคยเห็นหน้าคร่าตากันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกว่าแฟนเลยสักนิด
"ไม่น่าเชื่อ สวยๆอย่างแกไม่มีใครมาจีบจริงๆหรอ" ฟางยังคงเค้นถามเพื่อนสาวต่อ
"จริงๆ ไม่มีแฟน แต่ก็มีคนมาจีบบ้าง" เธอเอ่ยยิ้มๆ พลางนึกถึงชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่มักจะแวะเวียนมาจีบเธออยู่เสมอ บางคนมาซื้อดอกไม้ทุกวัน ซื้อแล้วก็ให้เธอ ซื้อของเธอให้เธอ มันดูตลกชะมัด
"แน่ๆ จริงอ่ะ" ฟางยังคงแซวไม่เลิก เพื่อนเธอสวยขนาดนี้เป็นไปได้ไงว่าไม่มีแฟน แต่ก็นะ เขมิกาชอบสันโดษ อยู่เงียบๆคนเดียวมากกว่า
"จริงๆ"
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เพราะไม่ได้เจอกันนาน มาเจอกันอีกครั้งเหมือนได้กลับไปเรียนใหม่ โดยไม่รู้ตัวว่ามีชายหนุ่มนัยน์ตาคมยืนจ้องมองอยู่ข้างนอกร้าน เขาบอกแฟนสาวว่ามีธุระด่วนจึงขอปลีกตัวออกมา แท้จริงแล้วเขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวคนนี้ใช่ว่าที่ภรรยาของเขาหรือไม่..
ร่างบางแยกย้ายกับเพื่อนเธอเดินดูของนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับไปที่ลานจอดรถ มือบางค้นกระเป๋าเพื่อหากุญแจรถ
"อยู่ไหนน๊าา อื้อ! " เขมิการ้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมีมือปริศนามาปิดปากเธอไว้จากด้านหลัง เธอดิ้นขลุกขลักๆไปมาอย่างหวาดกลัว
"เงียบ!! แล้วอยู่เฉยๆ ไม่งั้นมึงตาย.." เสียงทุ้มเอ่ยบอกหญิงสาวที่กำลังดิ้นหนีเขาอยู่ ร่างบางชะงักกึกทันที เมื่อรู้สึกถึงของแข็งที่จี้อยู่ที่เอวของเธอ ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต เธอพยักหน้าเป็นเชิงยอม เขาจับเธอหันหน้าไปหาช้าๆ เขมิกาเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้า เขาคือคนที่เธอเจอในร้านวอลเปเปอร์พร้อมผู้หญิงคนนั้นนิ ลมหายใจเธอติดขัดเมื่อใบหน้าคมอยู่ห่างไม่ถึงคืบ
"คะ.. คุณต้องการอะไร" เธอถามเขาเสียงสั่น ดูจากการแต่งตัวและยี่ห้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว คงไม่ได้ต้องการเงินแน่ๆ มือหนาค้ำรถไว้กันเธอหนี
"เธอชื่อเขมิกาใช่มั้ย!" เสียงทุ้มเอ่ยถามเสียงดังจนร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจ
"ชะ..ใช่ค่ะ..มะ..มีอะไร..หรือเปล่าคะ" เขมิกาละล่ำละลักบอกด้วยความกลัว เธอไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัวเลย
"แล้วเธอใช่ลูกของอานพและอาแขหรือเปล่าล่ะ!" ชาตรีเอ่ยถามร่างบางที่ตัวสั่นเทาเหมือนลูกนกที่กำลังหวาดกลัว ดูท่าทางแล้วเธอไม่น่าจะเห็นแก่เงินนะ แต่ทำไมการกระทำมันถึงตรงกันข้าม
ตุบ!!
ชาตรีทุบรถเสียงดังลั่นจนเธอสะดุ้งโหยง น้ำตาเม็ดใสใสไหลออกมาโดยอัตโนมัติด้วยความกลัว แข้งขาเธออ่อนแรงไปหมดแล้ว ชาตรีรวบหญิงสาวไว้ เมื่อเธอทำท่าจะร่วงลงพื้นสะอย่างงั้น
"ชะ..ใช่ค่ะ อึก " เธอตอบเสียงสั่น เขามันน่ากลัวที่สุด ทำไมต้องทำเสียงดุใส่เธอด้วย
"หึ.. อยากรู้จักกูมั้ยล่ะ... เขมิกา!!"
