บทที่ 2
บทที่ 2
บทที่ 02
ชาตรีเดินกลับเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาได้ขอแฟนสาวแต่งงาน และเธอก็ตอบตกลง..เขาดีใจมากสั่งทำแหวนพิเศษเฉพาะ ที่สลักชื่อเขาและเธอในแหวน ชายหนุ่มเดินฮัมเพลงผ่านห้องโถง
"ชาตรี! " ชาญวิทย์เรียกบุตรชาย ร่างสูงชะงัก ก่อนจะเดินเข้ามาหาผู้เป็นพ่อ ดีเหมือนกัน เขามีข่าวดีจะบอกพ่อยู่พอดี
"ครับพ่อ.. เรียกผมมามีธุระอะไรครับ" ชาตรีเดินไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับพ่อ
"แกอายุเท่าไหร่แล้ว" ชาญวิทย์ถามเสียงเรียบ
"ห้ะ..อะไรกันพ่อ ผมก็จะสามสิบแล้วไงอีกไม่กี่เดือน พ่อจำไม่ได้หรอ" ชาตรีถามขำๆ พ่อเขาสงสัยจะแก่จนเลอะเลือน
"ฉันจำได้.." สีหน้าของชาญวิทย์เรียบนิ่ง ไม่มีอารมณ์ขันเลยสักนิด
"อ้าว แล้วพ่อถามทำไม.. เออพ่อ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก..คือว่า.."
"เรื่องของแกเอาไว้ก่อน ฉันมีเรื่องของแกที่สำคัญมากกว่า" ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ชาญวิทย์ก็พูดแทรกขึ้นมา ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย เรื่องของเขาที่สำคัญ เรื่องอะไร..
"อะไรพ่อ.." ชาตรีถามชิลล์ๆ พลางยกชาขึ้นจิบ คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เขากำลังจะแต่งงานหรอก แต่ประโยคต่อมาก็ทำให้เขาสำลักพร่วดทันที
"ฉันจะให้แกแต่งงาน! " ชาญวิทย์บอกกล่าวเสียงเรียบ แม้อายุจะมากแล้วแต่ใบหน้ายังดูหล่อเหลาเหมือนตอนหนุ่มๆไม่มีผิด
"พะ..พ่อรู้ได้ไง ใครบอกพ่อ" ชาตรีถามอย่างแปลกใจ เขาพึ่งจะไปขอหญิงสาวแต่งงานมาวันนี้เอง พ่อเขารู้ได้ไง แต่ยังไงเขาก็ดีใจอยู่ดี
"อะไรของแก" ชาญวิทย์ถามอย่างสงสัย ลูกชายเขาพูดอย่างกับรู้ว่าจะให้แต่งงานกับใครอย่างงั้นแหละ
"ก็งานแต่งงานไงพ่อ พ่อรู้ได้ไงว่าผมกำลังจะแต่งงาน" ชาตรีบอกกล่าวอย่างดีใจ ไม่คิดว่าพ่อจะรู้เร็วขนาดนี้ แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้เขาชะงักกึกทันที
"แกรู้ได้ไงว่าฉันจะให้แกแต่งงานกับหนูเขมิกา! " พ่อเขาเอ่ยเสียงดังฟังชัด แต่ชายหนุ่มกลับหูดับไปชั่วขณะ จนต้องถามซ้ำอีกครั้ง
"วะ..ว่าไงนะพ่อ..ตะ..แต่งงานกับใครนะ!!" ชาตรีโพล่งถามเสียงดังลั่น อะไรกัน..เขานึกว่าพ่อรู้ว่าเขาจะแต่งงานกับกิ่งเหมยซะอีก นี่อะไรให้เขาแต่งงานกับใครก็ไม่รู้!!
"ฉันจะให้แกแต่งงานกับหนูเขมิกา ลูกสาวของอามานพ! และแกก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วย..เพราะฉันตอบตกลงเขาไปแล้ว!" ชาญวิทย์บอกกล่าวบุตรชายด้วยเสียงดังไม่แพ้กัน
"พ่อ!! พ่อก็รู้ว่าผมคบกับกิ่งเหมยอยู่!! และผมก็ขอเหมยแต่งงานแล้วด้วย!!" ชายหนุ่มตะเบ็งเสียงตอบอย่างไม่ยอมแพ้ พ่อทำแบบนี้ได้ยังไงกัน ทั้งๆที่รู้ว่าเขาคบกับกิ่งเหมยอยู่!
"ฉันไม่เคยให้แกคบกับผู้หญิงคนนั้น!! ฉันบอกแกตั้งแต่แรกแล้วแกไม่ฟังฉันเอง!!" ชาญวิทย์โพล่งตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขาเกลียดคนบ้านนั้น ถือว่าเป็นศัตรูของเขาเลยก็ว่าได้
"ทำไมอ่ะพ่อ!! เพียงเพราะว่าเหมยเขาเป็นลูกสาวของบริษัทคู่แข่งกับพ่องั้นหรอ!! พ่อกับลูกเขาคนละคนกันนะพ่อ! แยกแยะหน่อยสิ!"
ชาตรีตะคอกเสียงดัง เขาทราบดีว่าพ่อเขากับพ่อของกิ่งเหมยไม่ถูกกัน แต่มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยสักนิด เขารักกับกิ่งเหมยมาตั้งสองปี จะให้มาพังง่ายๆหรอ ไม่มีทาง! เขาไม่ยอมเด็ดขาด!!
"ไม่รู้แหละ ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูเขมิกา!!"
"ผมไม่แต่ง!! ยังไงผมก็ไม่แต่ง!! ถ้าพ่ออยากแต่งพ่อก็แต่งเองเลย! ผมไม่แต่ง!!" ชาตรีตะโกนเสียงกร้าว เขาจะไม่ยอมโดนจับคลุมถุงชนเด็ดขาด นี่มันยุคไหนแล้ว
"ชาตรี!! แกอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ!! ฉันเป็นพ่อแก แกมีหน้าที่ฟังฉัน ไม่ใช่มายืนเถียงฉันฉอดๆ!!" ชาญวิทย์ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห
"ผมจะแต่งงานกับเหมยเท่านั้น!! กับคนอื่น ผม ไม่ แต่ง!!" ว่าจบร่างสูงก็เดินพรวดพราดขึ้นบันไดไปทันที โดยไม่รอฟังคำทักท้วงอะไรทั้งสิ้น
"ไอ้ชาตรี!! ชาตรี!!!" ชาญวิทย์ตะโกนตามหลังบุตรชายที่บัดนี้เดินหนีออกไปแล้ว เขาทรุดนั่งลงที่โซฟาอย่างหมดแรง ทำไมไอ้ลูกคนนี้มันหัวดื้อขนาดนี้นะ วันนี้ที่บ้านตระกูลไพวรรณเข้ามาหาเขาที่บ้าน มานพเพื่อนสนิทและแขไขภรรยาของมานพมาขอความช่วยเหลือจากเขา เนื่องจากว่าบริษัทกำลังจะล้มละลายและโดนยึด เขาจำเป็นต้องแบกหน้ามาหาเพื่อนสนิทให้ช่วยเหลือ แลกกับการยกลูกสาวให้ ซึ่งเขาก็ยินดีที่จะช่วย ลูกสาวเขาก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนดี เรียบร้อย เหมาะที่จะมาเป็นภรรยาของลูกชาย เขาคิดดีที่สุดแล้วมือหนายกขึ้นลูบหน้าอย่างกังวล จะทำยังไงให้ลูกชายยอมแต่งงาน
"คุณช่วยให้ลูกยอมแต่งงานด้วยนะทิพย์.."
ด้านชาตรีเมื่อขึ้นมาบนห้องแล้ว มือหนาก็กวาดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะร่วงลงพื้นหล่นกระจายอย่างโมโห ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ
"โธ่เว้ยย!! "
ร่างสูงตะโกนลั่นห้องอย่างโกรธแค้น ชีวิตเขามีเหลือแค่พ่อคนเดียว เพราะแม่เขาเสียไปตอนเขาอายุ 19 ปี เขาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อมาโดยตลอด อยากได้อะไรพ่อไม่เคยขัด ที่บ้านเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบ สถาปนิก ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ทั่วประเทศเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จึงไม่แปลกที่บริษัทเขาจะมีคู่แข่ง ที่ผ่านมาเขาทำงานดีมาโดยตลอดไม่เคยเสเพเลยสักครั้ง แล้ววันสำคัญที่สุดในชีวิต เขาอยากจะเลือกเอง แต่กลับเป็นพ่อที่เลือกให้
"เขมิกา!!" ชายหนุ่มพึมพำเสียงกร้าว
ร่างสูงหุนหันเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเปิดฝักบัวให้สายน้ำไหลมาอาบชะโลมจิตใจที่ตอนนี้กำลังร้อนรุ่มดังไฟเผา มือหนากำแน่นก่อนจะทุบไปที่กำแพงแรงๆ อย่างเคียดแค้นผู้หญิงที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า
"เขมิกา.. เดี๋ยวจะได้รู้ว่านรกเป็นยังไง! "
มือหนาเสยผมแรงๆ อย่างระบายอารมณ์ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกจากห้องน้ำไป
ครืด~~ ครืด~~ (กิ่งเหมย)
"ฮัลโหลครับ" เสียงทุ้มเอ่ยไปตามสาย
"ทำอะไรอยู่คะ" เสียงหวานใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มอย่างอารมณ์ดี
"ผมพึ่งจะอาบน้ำเสร็จครับ เหมยล่ะ ทำอะไรอยู่" เขาถามหญิงสาวพลางเช็ดผมไปด้วย
"กำลังคิดถึงชาอยู่ค่ะ" เสียงหวานส่งเสียงหวานมาตามสาย
"ผมก็คิดถึงเหมยครับ" ชายหนุ่มตอบกลับ พลันก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับพ่อเมื่อสักครู่ เขาสะบัดหัวไล่ความคิด เขาจะให้เหมยรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เธอต้องเสียใจแน่ๆ
"ยังไม่นอนหรอคะ"
"กำลังจะนอนแล้วครับ...เอ่อ.. เหมยแค่นี้ก่อนนะผมปวดหัวน่ะ" เขาปดออกไป
"เป็นอะไรมากมั้ยคะ"
"ไม่ครับ.. แค่นี้ก่อนนะ ฝันดีครับ"
"ฝันดีค่ะ"
ชายหนุ่มกดวางสายก่อนจะล้มตัวลงนอน มือหนายกก่ายหน้าผาก พลางใช้ความคิด...
