บท
ตั้งค่า

บทที่ 20 สังหาร

อา....อา....ฮึม...ฮึม....

เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น พร้อมกับเสียงเดินจนพื้นดินสะเทือนราวกับทหารยกกันมาทั้งกองทัพ ชายหนุ่มชักดาบของเขาออกมาทันทีที่มองเห็นตัวอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางแสงสลัวข้างล่าง

กรร! กรร! ฮึม! ฮึม!

เสียงคำรามดังก้อง พร้อมๆ กับร่างของมันปรากฏขึ้น สำหรับนีโอแล้วการต่อสู้กับปีศาจเป็นเรื่องธรรมดา แต่สตรีสูงศักดิ์อย่างเรเชลนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้เจอของจริง

“นี่มันตัวอะไรกัน?” เรเชลถามเสียงสั่น เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าของบ้านถึงได้บอกให้พวกเธอออกจากที่นี่ นักโทษเหล่านี้ถูกนำมาเป็นอาหารของเจ้าปีศาจตนนี้นั่นเอง

มันมีรูปร่างสูงใหญ่ สูงจนเกือบจะเท่าหลังคาบ้าน ศีรษะเรียวแหลม ดวงตาแดงฉานและมีเลือดสดๆ หยดลงมาจากเบ้าตา ฟันและเขี้ยวแถวบนยาวออกมาจนถึงหน้าอก เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเหมือนผ้าขี้ริ้ว ทั้งเลือดและน้ำหนองไหลเยิ้มทั่วร่างกายน่าสยดสยอง

“มิน่ามันถึงกินคนทั้งหมู่บ้าน มันเอาเลือดไปซ่อมแซมร่างกายมันนี่เอง” นีโอผลักเรเชลให้ถอยออกจากหน้าต่างแล้วเปิดมันออก พอดีกับที่เจ้าปีศาจตนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วแสยะยิ้ม

“แหม...เพิ่งมาถึงก็จะให้ข้าออกกำลังเลยเรอะ! ดูทำหน้าเข้าสิ...ทุเรศเป็นบ้า น่าขยะแขยงชะมัด ถ้าคิดจะกินคนหล่อๆ อย่างข้า นีโอคนนี้ก็ไม่ปรานีแล้วล่ะนะ”

ร่างสูงกระโดดลงจากหน้าต่างไปยังหลังคาบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ต่ำกว่า เพื่อที่จะได้มองหน้ามันได้ถนัดๆ เจ้าปีศาจตนนี้พลังชีวิตต่ำมากและท่าทางว่าจะหิวจัดเสียด้วยถึงได้มองเขาตาขวางอย่างนั้น

ฮา.....ฮึม!

มันตวัดแขนออกมาหมายจะคว้าตัวเขา เลือดและน้ำหนองหยดไหลเป็นทางยาวส่งกลิ่นเหม็นคาวคลุ้งจนชายหนุ่มต้องใช้ชายผ้าคลุมไหล่ปิดปากไว้ ตัวเขากระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้านอีกหลังหนึ่ง วิ่งอ้อมไปด้านหลังแล้วเหินตัวตวัดดาบฟันเข้าที่ลำคอของมันจนคอขาดกระจุย

ศีรษะของมันกลิ้งหลุนๆ ไปตามพื้นถนนร้องโหยหวน ก่อนร่างที่โชกไปด้วยเลือดจะหันไปหาชายหนุ่มยืนจังก้าอยู่บนหลังคาบ้านอีกหลังหนึ่ง แล้วทุบกำปั้นลงไปโดยแรง!

ครืน!!

โครม!!

บ้านทั้งหลังพังลงในพริบตา ทว่านีโอก็สามารถกระโดดม้วนตัวตีลังกาหลบได้ทัน เขาหลบอยู่ข้างหลังมันก่อนจะวาดดาบฟันฉัวะ! เข้าที่ข้อเท้าทั้งสองข้างจนร่างสูงใหญ่นั้นล้มตึง ฝุ่นคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มไม่รอช้าใช้ปลายดาบกรีดลงไปที่กลางลำตัวของมันทันทีจนร่างนั้นแยกออกเป็นสองท่อน

“อ้อ! ที่นั่นเองสินะ แหวะ...เหม็นชะมัด!” เขามองเข้าไปในตัวของมัน ร่างนี้ไม่มีตับไตไส้พุงเหมือนอย่างมนุษย์ เป็นเพียงก้อนเนื้อที่มีเลือดหล่อเลี้ยงร่างกายกับหัวใจแดงฉานที่เต้นตุ้บๆ บอกให้รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป

“แกคงทรมานมากสินะ งั้นข้าจะช่วยให้แกพ้นทุกข์เอง!”

นีโอยกดาบขึ้นสูง แล้วทิ่มลงไปใจกลางหัวใจของมัน พลันเมฆดำทะมึนและเงามืดที่ปกคลุมท้องฟ้าอยู่สลายไป เสียงพสุธาดังสะเทือนเลือนลั่น เกิดลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ควันสีดำพวยพุ่งออกจากร่างของเจ้าปีศาจ ดวงจิตของคนตายลอยขึ้นไปตามลำแสงสีขาวนั้นเข้าสู่ดินแดนแห่งความตาย ร่างอันน่าเกลียดน่ากลัวของมันค่อยๆ ไหลเข้ามาเชื่อมต่อกันอย่างช้าๆ กลายเป็นชายชราคนหนึ่ง ก่อนที่จะสลายกลายเป็นฝุ่นผงไปในที่สุด

ชายหนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่แจ่มใส บรรยากาศวังเวงหายไปเหลือเพียงภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ย้อนกลับคืนมา เสียดายเหลือเกิน เสียดายที่สองปีนั้นเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ต้องประสบชะตากรรมที่โหดร้ายอย่างนี้

เรเชลปรบมือเสียงดังอยู่ข้างบนหน้าต่าง พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เขา ขณะที่พวกชาวบ้านก็เริ่มทยอยเปิดประตูออกมาเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองชายหนุ่มหน้าสวยด้วยความรู้สึกขอบคุณที่ทำให้หมู่บ้านนี้กลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง

มาทิลดา

คารินมองสายน้ำที่ไหลเอื่อย หลังจากเอรอสล่องแพผ่านน้ำตกมาได้อย่างปลอดภัย แม่น้ำสายเล็กๆ นี้มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองท่าติดทะเล ซึ่งอาจใช้เวลาถึงสองวันกว่าจะไปถึงที่นั่น

พลบค่ำ เอรอสก็นำแพเข้าหาฝั่งที่ดูปลอดภัยพอที่จะพักค้างแรมได้ เขาหาไม้ไผ่มาทำโครงหลังคาและใช้กิ่งไม้มาพาดบังน้ำค้าง ปูพื้นด้วยกิ่งไม้ตามด้วยผ้าผืนหนา

หญิงสาวเป็นคนก่อกองไฟอันเป็นงานที่เธอถนัดที่สุด แล้วหักกิ่งไม้เดินท่อมๆ ไปที่ริมแม่น้ำ เอรอสผละจากงานเดินตามไปด้วยความสงสัย จนเมื่อเห็นเธอยืนก้มๆ เงยๆ ใช้กิ่งไม้แทงลงไปในน้ำและได้ปลาตัวโตติดขึ้นมา เขาก็ยืนกอดอกมองอย่างสนใจ

เธอดึงปลาออกจากกิ่งไม้ หันซ้ายหันขวาไม่รู้ว่าจะเอามันไปไว้ตรงไหนก่อน กระทั่งหันมาเห็นชายหนุ่มยืนมองอยู่ด้านหลังจึงยิ้มกว้างออกมาแล้วโยนเจ้าปลาที่แสนโชคร้ายให้เขาทันที ก่อนจะมุ่งมั่นกับการหาปลาอย่างตั้งใจ จนเมื่อคิดว่าน่าจะพออิ่มท้องสำหรับคืนนี้แล้ว เธอก็ขึ้นจากน้ำ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เธอจะมาอาบน้ำแต่เช้าและล่ามันอีกครั้ง

เป็นคืนแรกที่พวกเขาได้กินปลาย่าง แม้จะอยู่บนเกาะกลางทะเล แต่ปลาน้ำจืดก็หาได้ยากมาก เพราะไม่มีใครกล้าพอที่จะดั้นด้นเข้ามาในป่าลึก

“เพิ่งรู้ว่าเจ้าชอบกินปลาย่าง พรุ่งนี้ข้าจะจับตัวที่ใหญ่กว่านี้ให้ ตากแห้งเผื่อไว้ก็ดีเพราะต้องเดินทางอีกไกลกว่าจะถึงท่าเรือ”

“เอ...รอ...รอส...ชอบ...ไหม”

“อื้อ” เขาตอบส่งๆ ไป “กินส่วนของข้าอีกสิ ข้าอิ่มแล้วล่ะ”

หญิงสาวจำต้องกินส่วนของเขาด้วย เขาคงไม่ค่อยชอบปลาจึงกินเพียงไม่กี่คำ แต่ต้องตอบเพื่อรักษาน้ำใจของเธอ อันที่จริงตั้งแต่ร่วมทางกันมาเธอไม่ค่อยเห็นเขากินอาหารมื้อใหญ่ๆ เลย ตอนที่อยู่เคอร์เซอร์ก็ด้วย

เลโกลัสก็เหมือนกัน นานๆ เขาจึงจะนั่งกินข้าวกับเธอครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่จะกินแต่ผักกับผลไม้ที่ปลูกไว้ในสวน แต่ถึงอย่างไรเขาก็มักจะเอาปลามาฝากเธอเสมอ

หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้วหญิงสาวก็อาสาที่จะเฝ้ายามอีกครั้ง และตั้งใจว่าครั้งนี้จะไม่เผลอหลับไปอีกเป็นอันขาด

“ขอดูแผลเจ้าหน่อยสิ” เอรอสนั่งคุกเข่า ดึงขาเล็กๆ ของเธอยืดมาข้างหน้าแล้วเปิดผ้าพันแผลออก ไม่มีแผลอักเสบ เหลือเพียงรอยช้ำจางๆ เท่านั้น

“เจ็บหรือเปล่า?” เขาใช้มือบีบเบาๆ เมื่อหญิงสาวสั่นศีรษะเขาก็เพิ่มแรงบีบขึ้นอีก จนกระทั่งคิดว่าเธอหายดีแล้ว เขาจึงค่อยๆ แกะผ้าออกจนหมด

คารินเหลือบมองร่างสูงที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้าเธอ ผมของเขาลุ่ยลงมาปิดวงหน้า แม้ริมฝีปากนั้นจะเม้มสนิทเกือบตลอดเวลาและไม่เคยยิ้มเลย แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของเขา และอยากจะรู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไรที่เกาะมาทิลดาแห่งนี้ ที่สำคัญคือเขากำลังจะไปไหน การที่เขาต้องพาเธอไปด้วยคงเป็นภาระอันหนักหน่วงของเขาเลยทีเดียว

“เอ...รอส...เรา..จะ...ไป...”

“หือ? เจ้าออกเสียงได้บ้างแล้วนะ” เขาพูดเสียงนุ่ม เมื่อเห็นความพยายามของเธอแม้จะยังพูดตะกุกตะกักไม่เป็นคำก็ตาม ก่อนจะตอบคำถามของเธอ

“ยังไม่รู้เหมือนกัน...แต่ไปให้พ้นจากเกาะนี้ก่อนดีที่สุด เจ้าไปนอนเถอะ ที่นี่ไม่มีอันตรายหรอก” เขาถอยกลับมาโยนฟืนเข้ากองไฟ

“นะ...นอน...” หญิงสาวชี้ไปที่เบาะนอน

เอรอสถอนหายใจเบาๆ คิดว่าหากเขาไม่นอน เธอเองก็คงไม่สบายใจ ดังนั้นเขาจึงดึงแขนเธอให้ลุกขึ้นไปด้วยกันแล้วล้มตัวลงนอนก่อน เหลือพื้นที่ให้เธอครึ่งหนึ่ง

“มานอนเถอะ...ข้าใส่ฟืนไว้เยอะแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel