9.ดั่งดวงใจที่หลุดลอย EP3.
“ นายให้เตรียมรถ นายจะไปไหนจ๊ะ..”
ส้มหวานเอ่ยถาม เมื่อเห็นเขาก้าวตรงออกมายังรถจิ๊บสีดำ
“ จะไปที่บริษัท..”
“ แล้วไร่นี่ล่ะคะนาย..”
“ อธินจะมาดูแลแทนฉัน..”
“ แล้ว..”
ส้มหวานพูดได้เพียงแค่นั้น ร่างสูงใหญ่สง่างาม โดดเด่นของเขาก็หายเข้าไปในรถจิ๊บสีดำพร้อมกับขับเคลื่อนออกไปจากที่นั่น
“ นายไปแล้วหรือส้มหวาน..”
“ จ๊ะป้า..คุณอธินจะมาดูแลแทน..”
“ อ้าว..แล้ว..”
ส้มหวานหันมาพร้อมกับยกนิ้วชี้แตะที่ปากของป้านุ่มเบา ๆ
“ ฉันก็พูดได้แค่นี้แหละ แล้ว แล้วนายก็หายขึ้นรถขับออกไปอย่างที่เห็น..”
ป้านุ่มถอนหายใจเบา ๆ
“ ขิงก็รา ข่าก็แรง..”
“ สมควรจะสงสารใครล่ะป้า นายหญิงหรือว่านาย..”
ป้านุ่มส่ายหน้าไปมาช้า ๆ
“ ไปสักกี่วัน..”
“ คงนานมั้งป้า ก็ให้คุณอธินมาแทน..”
“ แล้วนายหญิงรู้หรือยัง..”
“ ไม่รู้เหมือนกันป้า เธอจะดีใจหรือเสียใจนะป้า ที่นายไม่อยู่..”
“ ไม่รู้เหมือนกัน ไปทำงานต่อเถอะ..”
ใช่ ..ภาวมาลาไม่รู้ว่าเขาไม่อยู่ เขาไปจากที่ไร่แล้ว เพราะไม่อยากทนเห็นเธอในสภาพที่เขาไม่อาจทนได้ แต่ความเจ็บปวดในห้วงลึกของหัวใจมันทำให้เขารับไม่ได้ แล้วก็ไม่สามารถจะปล่อยเธอให้ไปจากเขาได้เช่นกัน
ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ให้เขาหลีกไปสักพัก ไม่พบเธอสักพัก แต่เธอนั้นเล่า เมื่อหลายวันผ่านไป ไม่เห็นเขามาอยู่ใกล้ ๆ คอยชำเลืองแลหรือคอยพูดจากระแทกแดกดัน มันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
บ่อยครั้งที่เธอเงยหน้าจากงาน แล้วเหลียวมองไปรอบตัว และที่สำคัญ มีหลายครั้งที่เธออยากจะถามถึงเขาจากคนงานใกล้ ๆ แต่ก็ไม่กล้าพอ
“ ผมตามหาคุณซะแย่ ที่แท้ก็..”
น้ำเสียงที่ฟังผ่าน ๆ มันเหมือนน้ำเสียงของเขานัก แต่กลับไม่ใช่ ทำให้เธอหันขวับมาตามเสียง แต่แล้วก็แอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ มาอยู่ตรงนี้นี่เอง..”
อธิน ชายหนุ่มอายุมากกว่าเธอสามปี หยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ เธอ พลางสำรวจเรือนกายที่ดูผ่ายผอมของเธอนิ่ง
“ ดูคุณซูบไปนะ ผิวเป็นสีแทนหมองคล้ำ หน้าตาเรียบนิ่ง ปราศจากรอยยิ้ม..”
อธินสอดมือลงกระเป๋ากางเกงสีดำ ก่อนจะถอนหายใจเฮือก แล้วก้าวเดินห่างจากร่างบางของเธอไปเล็กน้อย
“ ไม่อยากรู้หรือครับ ว่าผมมาทำไมที่นี่..”
ภาวมาลายังคงนิ่งเงียบ
“ ถ้าหากว่า ผมเป็นเจ้าบ่าวของคุณ แล้วเจ้าสาวทำแบบที่คุณทำกับพี่ของผม คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะผมไม่ใช่เจ้าชายทางด้านธุรกิจกาแฟที่โด่งดัง รูปหล่อ ร่ำรวยเพียบพร้อมอย่างพี่ธี..”
เขาหันหน้ากลับมาหาเธออีกครั้ง มองจ้องดวงหน้าที่งามละเมียดของเธออย่างพิจารณา
“ หากคุณเลือกผม คงไม่เกิดปัญหาแบบนี้ใช่ไหม นั่นเพราะคุณไม่เลือกผม..”
ภาวมาลาช้อนสายตางามมองสบตาคมของอธิน
“ คุณสงสัย แต่ไม่กล้าถามใครใช่ไหมว่า พี่ธีของผมหายไปไหน..”
ภาวมาลานิ่งแทนคำตอบ พร้อมกับหันด้านข้างให้อธิน แทนการเผชิญหน้ากับเขา
“ นี่ก็หลายเดือนแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าคุณท้อง ย่อมแสดงว่า ว่าที่น้องเขยของคุณเขาไม่ได้ทำอะไรคุณ..”
ภาวมาลานิ่ง เมื่ออธินเอ่ยถึงเรวัต ผู้ชายที่ต้องตายเพราะเธอ
“ อินทุพา เสียใจแทบบ้า ที่รู้ว่าคนรัก พาพี่สาวหนีจากคืนวันส่งตัว แล้วต้องตายเพราะพี่สาวคนดี..”
ภาวมาลาหลับตานิ่ง เมื่อนึกถึงน้องสาวคนเดียว ซึ่งเป็นคนรักของเรวัต เขาสองคนรักกันมาก ซื่อสัตย์ต่อกัน แล้วจู่ ๆ เรวัตก็ต้องมาตาย เพียงแค่คำขอร้องของเธอให้เขาพาหนีจากงานคืนนั้น
“ คุณลืมนึกถึงผลพวงที่จะตามมา ปัญหามันจึงมากมายมหาศาล ครอบครัวของคุณ..”
เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ ระส่ำระสาย..”
เธอหลับตานิ่งก่อนจะค่อย ๆ ลืมขึ้นมาอย่างช้า ๆ
“เป็นความาผิดของภาเองที่ไม่รอบคอบ ไม่นึกถึงผลเสียที่ตามมา..”
เธอมองหน้าเขาอีกครั้ง
“คุณพ่อ คุณแม่และอินเป็นอย่างไรบ้างคะ..”
“ดูเปลือกนอกก็เหมือนสบายนะครับ แต่ว่าในใจคงป่วย โดยเฉพาะอินทุพา..”
อธินมองสบตาของเธอนิ่ง
“บอกเหตุผลให้ผมรู้ได้ไหมว่าเพราะอะไรคุณถึงทำแบบนั้น ผมรู้ว่าคุณรักพี่ธีมาก แล้วพี่ธีก็รักคุณมากด้วย คุณมีเหตุผลอะไรครับภา..”
“เพราะเขาหลอกลวงภา เขามีสุคนธาอยู่แล้วทั้งคน..”
“มันเป็นอดีตครับภา ไม่มีผู้ชายคนไหนที่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์จนถึงวันส่งตัวเข้าหอหรอกครับ..”
“ไม่ใช่อดีตค่ะ มันเป็นปัจจุบัน เขาสองคนยังมีความสัมพันกันอยู่ ภาเห็นมากับตา..”
อธินจ้องหน้าเธอนิ่งก่อนจะระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ผมไม่เชื่อว่าพี่ธีจะทำแบบนั้น ต้องมีอะไรสักอย่าง ผมอยากให้คุณไตร่ตรองให้ดี..”
“มันหมดเวลาแล้วค่ะ..”
เธอพูดจบก็เดินจากไปเงียบ ๆ ทิ้งที่อธินได้แต่มองตามหลังร่างบางของหญิงที่เขาปักใจรักแล้วก็รักอยู่จนถึงเวลานี้ไปด้วยหัวใจที่ปวดร้าว
หากเขารู้ว่าการที่เขายอมถอยแล้วทำให้เธฮต้องเจ็บปวดขนาดนี้ เขาจะไม่ยอมหลีกทางให้พี่ชาย เขาจะช่วงชิงเธอมาเป็นของเขาให้จงได้ แม้จะต้องทนอยู่กับเธอที่มี่มีใจให้เขา แต่มันคงจะดีกว่าที่จะต้องเห็นเธอเจ็บปวดแบบนี้
วันนั้นทั้งวัน ภาวมาลาไม่เป็นตาทำอะไร คำพูดของอธินทำให้เธอต้องคิด ครอบครัวของเธอพ่อ แม่ และน้องสาวก็ทำให้เธอยิ่งปวดใจ เพราะเธอมีกันแค่สองคนพี่น้อง เท่านั้น
ฝ่ามือเรียวยกขึ้นปิดหน้าไว้ชั่วครู่ เมื่อนึกถึงน้องสาวคนเดียวกับความรู้สึกสูญเสีย ชายคนรักที่แสนดีอย่างเรวัต เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของพี่สาวอย่างเธอ
“อินทุพา ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง พี่ขอโทษ..ขอโทษจริง ๆ หากย้อนเวลาได้ คนที่ตาย ควรจะเป็นพี่ ”
หยาดน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากดวงหน้าที่คมออกหวานของเธอ ซึ่งบัดนี้ มันฉายแววเศร้าสร้อยออกมาจนเด่นชัด
“ เรวัต ครอบครัวของคุณอีก..”
เธอหลับตาลงเบา ๆ แล้วก็ต้องลืมขึ้น เมื่อใบหน้าคร้ามคมของตัถย์ธีราโดดเด่นขึ้นมาแทนที่ทุก ๆ คน เธอนึกย้อนถึงการกระทำของเขาที่แสดงต่อเธอ จนเธอหลงรักเขาจับใจแล้วยอมที่จะรับรักเขา ยอมหมั้น จนในที่สุด เรื่องแต่งงานก็เกิดขึ้น
เขาเป็นผู้ชายที่ดีพร้อมทุกเรื่อง ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยพบมา แล้วตัดสินใจเลือกรักเขา เลือกเขาเป็นคู่ชีวิตท่ามกลางความเห็นชอบของพ่อ แม่และน้องสาวของเธอ
จนกระทั่ง วันงานถูกกำหนด เธอก็ยิ้มระรื่นชื่นใจ ยินยอมเข้าพิธีแต่งงานกับเขา จวบจนวันหนึ่ง ก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน เธอไปหาเขาที่ทำงาน แล้วเห็นเขากับสุคนธากำลังมีสัมพันธ์รักกันอย่างดูดดื่ม
ทำให้เธอตัดสินใจฉับพลัน คนที่เธอนึกถึงเป็นคนแรก ว่าจะต้องช่วยเธอได้ก็คือเรวัต เธอเดินลงจากห้องทำงานของเขาด้วยหัวใจที่เหม่อลอย ทำให้สุคนธาตามมาทัน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่า เจ้าหล่อนทำไมถึงตามเธอมาเร็วนักทั้ง ๆ ที่กำลังอยู่กับเขา
เจ้าหล่อนพูดจากับเธอ ในวันนั้น ทำให้เธอแน่ใจว่า จะต้องไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตัถย์ธีราอย่างเด็ดขาด เรื่องทั้งหมดจึงเกิดขึ้น เธอเล่าเรื่องราวที่พบเห็น รวมทั้งคำพูดของสุคนธาให้เรวัตฟังจนหมด ทำให้เขายอมที่จะช่วยเหลือเธอ
ภาวมาลา กำมือแน่น เมื่อทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ จึงทำให้เธอรู้ว่าหากสุคนธาไม่แทรกแซง ระหว่างเธอกับเขา เรื่องมันต้องไม่เกิด และหากเธอไม่หูเบาเชื่อคนง่ายเธอคงไม่ต้องอยู่ อย่างนี้
เธอกำมือแน่น นัยน์ตาคมออกหวาน ฉายแววดุดันแล้วตั้งใจมั่นออกมา เมื่อนึกถึงใบหน้าที่สวยซึ้งบาดใจของสุคนธาลอยเด่นอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ สุคนธา..หากฉันรู้ว่ามันเป็นแผนการของคุณที่ทำร้ายฉัน ฉันจะไม่ให้อภัยคุณเลย..”
ภาวมาลาเอ่ยปากออกมาเบา ๆ แต่ว่าเป็นน้ำเสียงที่หนักแน่น จริงจัง..
“ คุณธีแล้วนี่คุณหายไปไหนนะ..”
ความเคียดแค้นสุคนธาค่อย ๆ จางลงเมื่อใบหน้าคร้ามคมขรึม หล่อสะอาดของเขาผุดขึ้นมาแทนที่
“ ถ้าฉันเป็นคุณ คนที่รักหนีไปกับชายอื่นฉันคงเสียใจแทบบ้าเหมือนที่คุณเป็น..”
เธอยกมือ กุมขมับ
“ ทำไมนะ ความผิดพลาดของฉัน มันถึงลุกลามใหญ่โตขนาดนี้ ฉันจะมีทางแก้ปัญหานี้อย่างไรดี..”
เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ซึ่งบัดนี้ พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงมามากแล้ว เธอไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งนั้น เธอลุกขึ้น ก้าวเดินเรื่อยมา โดยไม่รู้ว่า เส้นทางที่เธอเดินมานั้น มันถึงที่ไหนแล้ว กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็แว่วได้ยินเสียงเหมือนมีคนร้องเรียกอยู่ทางด้านหลัง
“ จะไปไหน..แล้วมาทำไมที่นี่..”
คำถามที่เปล่งออกมาจากชายฉกรรจ์หลายคน ทำให้เธอนึกกลัวขึ้นมาจับจิตจับใจ
“ ฉัน ฉัน..”
เธอก้าวถอยห่างออกไป เมื่อชายฉกรรจ์หลายคนตรงเข้ามาหาเธอ เธอก็ก้าวถอยไปเรื่อยอย่างรนรานด้วยความหวาดกลัว จนถอยไปชนกับร่างของใครคนหนึ่ง ทำให้เธอหวาดผวาอย่างมาก เมื่อหันกลับไปมองหน้าเขา
“ โอ๊ะ!..”
ดวงหน้าหวานเผือดซีด ก่อนจะแน่นิ่งทรุดกายลงกับพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าที่เขียวขจี
