บท
ตั้งค่า

11.วันที่น้ำตาร่วงดั่งสายฝน EP 2

ภาวมาลานั่งเงียบกริบมาในรถเก๋งคันหรู ด้วยหัวใจที่ร้อนรน เธอบอกตัวเองไม่ถูกว่าจะกล้าสู้หน้าน้องสาวหรือไม่ เมื่อเจอหน้าพ่อกับแม่เธอจะทำอย่างไร ท่านจะมีปฏิกิริยากับเธออย่างไรบ้าง ตลอดระยะทางหลายชั่วโมง เธอนั่งมองเส้นทางที่ทอดมาจากภาคเหนือของประเทศ จนย่างเข้าเขตใจกลางกรุง

จนในที่สุด รถก็แล่นมาจอดยังหน้าคฤหาสน์สถานที่กว้างใหญ่ ซึ่งเธอได้อาศัยอยู่ในสถานที่นี้ตั้งแต่เกิด เธอบอกให้คนขับรถหยุด อยู่หน้าบ้าน เธอนั่งนิ่งอยู่นานกว่าจะยอมก้าวลงจากรถที่คนขับเปิดประตูออกให้

“ ขอบใจนะจ๊ะ..”

“ งั้นกระผมกลับไร่เลยนะครับคุณหนู..”

“ จ้ะ..”

ภาวมาลามองตามหลังรถ แล่นไปจนไกลพอสมควร จึงหันกลับมายังบานประตูขนาดใหญ่ที่สูงตระหง่าน พร้อมกับก้าวไปยังกริ่งหน้าบ้าน พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึก

“ คุณภา ดีใจจริง ๆ ค่ะ..”

สาวใช้เอ่ยทักด้วยใฝบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เมื่อมองเห็นเธอที่ยิ้มรับก่อนจะก้าวเดินเข้ามายังบ้าน เดินเข้าไปยังห้องโถงกว้าง แล้วเธอก็ต้องหยุดกึก เมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเธอนั่งอยู่กับมณีมณฑ์พี่สาวของตัถย์ธีรา

สายตาทั้งสามคู่หันมาจ้องมองเธอนิ่ง แต่ทว่า ทั้งสามคนมองเธอด้วยสายตาที่แตกต่างกัน พ่อของเธอท่านก็นิ่งขรึมตามแบบฉบับของท่าน ส่วนคุณแม่ก็ฉายแววดีใจเหลือเกิน ส่วนมณีมณฑ์เจือแววเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด

“ ลูกภา ภาวมาลา..”

“ คุณแม่ขา..”

ภาวมาลาก้าวตรงไปหาแม่ของเธอ พร้อมกับก้มลงกราบที่ตักของท่าน ก่อนจะยกมือไหว้บิดา แล้วมณีมณฑ์ ที่นอกจากหล่อนจะไม่รับไหว้แล้ว ยังเมินหน้าหนีเสียอีก

“ แม่ดีใจเหลือเกินที่ลูกกลับมา..”

“ ไปพักก่อนเถอะลูก..”

ภาวมาลามองหน้าบิดา ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน หมายจะเดินขึ้นห้องของเธอ

“ ยังอยู่อีกหรือ”

มณีมณฑ์เปล่งเสียงเอ่ยทัก เมื่อตวัดสายตามองหน้าเธอตรง ๆ ด้วยสายตาที่ฉายแววดูแคลนอย่างชัดเจน

“นอกจากใจกล้าแล้ว ยังหน้าด้านอีกด้วย เธอนี่มันแน่จริง ๆ การศึกษาคงบ่มเพาะสันดานแบบนี้ให้เธอ มิหน้าถึงได้เรียนจบสาขานี้มา การวิจัย ทำให้เธอปรับสภาพของจิตใจและใบหน้าจนหนา ถึงได้ไม่รับรู้อะไรเลย..”

ภาวมาลายังคงนั่งนิ่ง

“หากฉันเป็นเธอ กล้าทำเรื่องเลวร้ายถึงขนาดนี้ ฉันคงฆ่าตัวตายไปแล้ว ไม่อาจหาญมากพอที่จะกลับเข้ามาอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อีก แต่เธอนี่มันแน่จริง ๆ..”

มณีมณฑ์หัวเราะเบา ๆ

“ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะเอาการ์ดเชิญมาแจกให้พ่อกับแม่ของเธอ..”

มณีมณฑ์ เอ่ยออกมาพร้อมกับหยิบการ์ดสีชมพู ออกจากกระเป๋า ถือ วางลงยังโต๊ะกลาง แล้วลุกขึ้นยืนเดินเฉียดมาหาเธอ

“ จะได้จบ ๆ กันไปสักที..”

“ เรื่องอะไรคะ..”

มณีมณฑ์ หัวเราะล่วน

“ ยังไม่รู้หรือจ๊ะ อดีตน้องสะใภ้..”

ภาวมาลาหันไปมองหน้ามารดาของเธอ แล้วมองหาบิดา ที่ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างไม่ใส่ใจที่จะฟัง

“ ก็น้องชายของฉัน ตัถย์ธีรา เขากำลังจะแต่งงานกับสุคนธา คนรักเก่าของเขายังไงล่ะจ๊ะ เหมาะสมกันยังกะอะไรดี สมัยนี้นะ เกียรติมันกินไม่ได้ เงิน สมบัติเท่านั้นแหละที่ทำให้อยู่รอด..”

หญิงสาวเมินหน้าไปทางอื่นด้วยหัวใจที่ปวดร้าว มันเหมือนมีใครเอาของแหลมแล้วร้อนแรงมาทิ่มแทงหัวใจของเธอก็ไม่ปาน

“ หวังว่าเธอจะไปร่วมในงานแต่งของน้องชายฉันนะจ๊ะ..”

เจ้าหล่อนยิ้มหยัน

“ฉันอยากให้เธอได้เห็นถึงความเหมาะสมของบ่าวสาว ที่ทุกคนในครอบครัวของฉันเห็นพ้องว่าคู่ควรกับตัถย์ธีรา..”

พูดจบมณีมณฑ์ ก็หมุนร่างเดินห่างออกมา แต่เหมือนนึกอะไรได้ หล่อนจึงเดินหันกลับไปหาเธออีกครั้งพลางมองสำรวจตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า

“ ความสวยงามของเธอ มันไม่มีค่าแล้วสินะ ในสายตาของตัถย์ธีรา เพราะไม่หลงเหลืออะไรให้เขาได้ภาคภูมิใจได้อีก ..”

ภาวมาลาขบฟันแน่น

“ พูดจบหรือยังค่ะมหาเศรษฐี ถ้าการที่คิดว่า มีเงินร่ำรวยแล้วเดินบนหัวคนได้โดยไม่ใส่ใจขนบประเพณี และความรู้สึกของคน มันย่อมหมายถึงการบ่มเพาะสันดานดิบที่ เลว..ระยำ..”

มณีมณฑ์ อ้าปากกว้าง ไม่เพียงแต่หล่อนเท่านั้น มารดาผู้อ่อนโยนอย่างคุณ พรรัมภา ที่เป็นแม่แท้ ๆ ของภาวมาลาก็ต้องอึ้งกับกิริยาและคำพูดของลูกสาว ที่เคยเรียบร้อยอ่อนหวานเสียนักหนา

“ ใช่คนอย่างฉันเลว สกปรก แต่ขอบอกตรง ๆ ว่าผู้หญิงที่ร่ำรวย ทำตัวราวเทพธิดาบนหอคอยอย่างคุณแต่กลับดูไม่มีสกุลรุนชาติหาค่าในตัว และค่านอกตัวไม่ได้แม้แต่น้อยนิด ในวงสังคมชั้นสูง คุณร่ำรวย หน้าตาสะสวย แต่ขอโทษ..ผู้ชายในสังคมเขามองคุณเหมือนอีตัวที่แฝงตัวอยู่ในคราบคนมีเงิน..”

“ กรี๊ด ดดดดดดดดดดดดดดด...”

“ หยุด ถ้าอยากจะส่งเสียงบ้า ๆ ไพล่ สถุลแบบนี้ ไปที่บ้านของคุณ ไปในสังคมของคุณ แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่สถานที่นี้ไม่ต้อนรับผู้ดีในคราบโสเภณี ที่เอาเรือนกายเน่า ๆ แลกคำชมอย่างคุณ...”

ปลายนิ้วเรียวสวยสะอาดชี้ไปยังประตูหน้าบ้าน ทำให้คุณพรรัมภาที่นั่งเงียบ เกือบจะเป็นลมล้มพับ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวที่หล่อนเลี้ยงมา จะกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้

“ออกไปจากบ้านนี้ ไปให้พ้น..”

“ แกกล้าไล่ฉัน..”

“ ใช่..ฉันเองก็ทนคุณมานานมากแล้ว มณีมณฑ์ ฉันทนเพราะว่าการบ่มเพาะของสันดานฉันไม่เหมือนคุณ แล้วอีกอย่าง น้องชายของคุณคือชายที่ฉันรักและเทิดทูน แต่ผู้หญิงที่มีลักษณะหิวกระหายในคาวโลกีย์อย่างพวกคุณ ทำให้ฉันสุดจะทน แล้วหมดความเกรงใจอีกต่อไป ..”

มณีมณฑ์กำมือแน่น พร้อมกับเม้มปากไว้ พลางยืดคอขึ้นอย่างผยอง

“..ไป ไสหัวไปจากบ้านนี้แล้วอย่ากลับมาอีก..”

“ แกจำไว้นะ ชาตินี้ฉันจะไม่ขอเห็นหน้าแก ไม่ขอเกี่ยวข้องกับคนอย่างแก..”

“ หึ เสียใจ ของสิ่งใดที่ควรเป็นของฉัน มันก็ย่อมจะต้องเป็นของฉันอยู่วันยังค่ำ..”

เธอมองสบตากับมณีมณฑ์ อย่างไม่สะทกสะท้าน มณีมณฑ์เองก็พูดไม่ออก ไม่เคยคิดว่า ภาวมาลาจะเปลี่ยนแปลงกร้านโลกได้ถึงขนาดนี้

“ ฉันไม่นึกว่าแกจะกล้าพูดกับฉันถึงขนาดนี้..”

“ ต้องขอขอบคุณ ครูดีอย่างน้องชายคุณ ที่พร่ำสอนฉันทุกคืนวันในไร่กาแฟ เขาสอนฉันอย่างดูดดื่ม ให้ด่าคุณแบบนี้ ฝากขอบคุณเขาด้วยก็แล้วกัน..เชิญ..”

เธอพูดจบก็หันหลังเดินหนีขึ้นบ้านไปอย่างไม่ไยดี ทำให้มณีมณฑ์สุดแค้น แต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะมีสายตาของสาวใช้หลายคู่ที่จ้องมองดูด้วยความสะใจ

“ ฝากไว้ก่อนเถอะ..ฉันจะต้องเอาคืนให้ได้..”

หล่อนพูดแล้วก็รีบก้าวฉับ ๆ ออกจากบ้านหลังนั้นไป

“ แม่ไม่คิดว่า ระยะเวลาไม่กี่เดือน จะทำให้ลูกสาวที่แสนจะเรียบร้อยอ่อนหวานของแม่ มีนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากมายขนาดนี้ ..”

เธอเงยหน้ามองมารดา เมื่อหล่อนตามเข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอ

“ เมื่อเราอยู่เฉย ก็เท่ากับว่าเราเป็นฝ่ายรับ และก็รับทุกเรื่อง ทุกปัญหาที่คนเหล่านี้เป็นคนก่อขึ้น แต่ตอนนี้ ภาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเป็นฝ่ายรุกบ้าง เราจะงอมืองอเท้าตกเป็นเบี้ยล่างของคนที่ไม่มีจิตใจเป็นคนได้อย่างไรคะ..”

คุณพรรัมภา มองหน้าของเธอนิ่ง

“ อะไรทำให้หนูเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้..”

“ ความผิดพลาดไงคะแม่..”

เธอจับมือเรียวที่นุ่มนวลอบอุ่นของแม่ไว้แน่น ก่อนจะซบใบหน้าลงไปหา

“ แม่ขา ภาผิดมากที่สุดในชีวิต ผิดที่ใจร้อนวู่วาม แล้วก็ผิดที่หลงเชื่อคนง่าย จึงตกหลุมพรางคนเลว ๆ พวกนี้..”

“ หนูหมายความว่าไงลูก..”

คุณพรรัมภา เชยคางของเธอขึ้นมองอย่างพิจารณา

“ เพราะความใจร้อนของภา และความไม่เชื่อใจ ทำให้ภาต้องสูญเสียเขา ทำให้เขาต้องเสียใจ เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นต้องการจะจับเขา หล่อนต้องการแย่งเขาไปจากภา เป็นแผนการของหล่อน ไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะภาไม่รู้จักคิด..จึงต้องสูญเสีย”

เธอหลับตานิ่งเมื่อนึกถึงตัถย์ธีรา ชายที่เธอรักสุดหัวใจ

“ภาไปหาเขาที่บริษัท เห็นเขาอยู่กับสุคนธาในห้องทำงาน ภาเห็นทางด้านหลัง เข้าใจว่าเขากำลังมีอะไรกันอยู่ ภาจึงหันหลังกลับออกมา แต่ว่า..”

“ อะไรลูก..”

“ เพียงแค่ภาหันหลังมายังไม่ถึงรถ สุคนธาก็มาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของภา หล่อนออกมาเร็วมากทั้งที่กำลังอยู่กับคุณธี แล้วบอกกับภาว่า ..”

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก พลางหลับตานิ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้น

“ หล่อนท้องกับคุณธี ลูกในท้องเป็นลูกของคุณธีค่ะ..”

“ ตายจริง ..”

“ ภาเสียใจมากที่สุด ภานึกถึง..”

เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อนึกถึงเรวัต คนรักของน้องสาวคนเดียว ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ

“ เรวัต..”

“ โกหก ..คนหลอกลวง..”

แต่เสียงที่แทรกมาทำให้ทั้งคุณพรรัมภาและภาวมาลาต้องเบิกตากว้าง เมื่ออินทุพา เดินเซแซด ๆ เข้ามา พร้อมกับขวดเหล้าในมือ ท่าทางเมามายแทบไม่ได้สติ

“ อิน ทำไมพูดกับพี่เขาแบบนี้ล่ะลูก..”

“ ไม่ค่ะแม่..ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่พี่สาวที่แสนดีของอินอีกต่อไป..พี่สาวของอิน ..ตายไปแล้ว..ผู้หญิงคนนี้มันคือแม่มด มัจจุราช นางเพศยา ผู้หญิงที่ไม่อิ่มในผู้ชายเพียงคนเดียว อยากจะเปลี่ยนรสชาติ ร่านอย่างน่าสะอิดสะเอียนแล้วมาสร้างเรื่องให้ตัวเองดูดีขึ้น สารเลว..”

“ หยุดนะอินทุพา แม่ขอนะลูก หยุดก้าวร้าวพี่ของหนูเดี๋ยวนี้นะ..”

อินทุพาจ้องมองดวงหน้าที่งามกระจ่างของภาวมาลานิ่ง ด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น ก่อนจะกระดกขวดเหล้าเข้าปากอย่างไม่สนใจสายตาของคนที่เป็นแม่

“ ลูกทั้งสองเป็นทายาทของคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และเป็นลูกของพ่อกับแม่ ต้นตระกูลของเราอบรมสั่งสอนลูกหลานให้เป็นคนดี มีการศึกษา เป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว..”

“ แต่ผู้ดีอย่างผู้หญิงคนนี้ มันเป็นผู้ดีที่แหกคอก แย่งกระทั้งคนรักของน้อง แล้วก็ฆ่าเขาตาย แถมยังทำร้ายผู้ชายอีกคนที่รักเธอจนหมดหัวใจ ทำเอาเขาแทบบ้า ..”

อินทุพาวางมือลงที่อกของตัวเอง เมื่อมองหน้าภาวมาลาด้วยนัยน์ตาที่ไหวระริก

“แล้วฉันอีกคน ฉันต้องเสียผู้เสียคน ไปไหนได้มีแต่คำถาม ฉันอายเขา อาย..ได้ยินไหม ฉันอับอาย อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ที่พี่สาว แย่งคนรักไปในคืนส่งตัวกับชายอีกคน แถมเป็นสาเหตุให้เขาต้องตาย ให้ผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่งต้องแทบบ้า นางสารเลว กลับมาทำไม ไปตายซะ ไปตายซะ”

..เพี๊ยะ..

ฝ่ามือบางของคุณพรรัมภาตวัดไปยังใบหน้าของอินทุพา ที่ปรี่เข้ามาหมายจะทำร้ายภาวมาลา ทำให้อินทุพา ถึงกับหน้าหัน หล่อนร้องไห้ออกมาเมื่อหันมามองหน้าแม่ ที่เผือดซีด

“อิน!”

ภาวมาลารีบก้าวไปขวางหน้าแม่เอาไว้ พร้อมกับมองหน้าน้องสาวคนเดียวนิ่ง

“ พี่ผิด อินทุพา พี่ผิดจริง ๆ ด่าพี่เถอะ โกรธเกลียดพี่เถอะนะน้อง พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง เธออยากจะด่าพี่ ทำอย่างไรกับพี่ก็ได้ พี่ยอมเธอแล้วอินทุพา..”

อินทุพายิ้มกว้างก่อนจะกลายเป็นเสียงหัวเราะ

“ เอาคุณเรวัตคืนมาสิภาวมาลา เอาชีวิตของเขาคืนกลับมา แล้วเอาพี่เขยคนนั้นกลับมาให้ฉันสิเขาเป็นคนดี มีปัญญาไหมล่ะ. .เอาคุณเรวัตกลับมาให้ฉัน แล้วเธอก็พาพี่ธีกลับมาเป็นพี่เขยของฉัน ทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า มีปัญญาไหม ”

อินทุพายิ้มหยัน

“แน่จริงทำให้ได้สิ ให้คุณเรวัตฟื้นขึ้นมา ให้พี่ธียอมรับเธอเป็นภรรยา ถ้าเธอทำได้ ฉันจะยอมอภัยให้แล้วจะเรียกเธอว่าพี่อีกครั้ง หากทำไม่ได้ อย่าอยู่ที่นี่ จะไปตายที่ไหนก็ไป..ไปให้พ้น..”

ภาวมาลานิ่งอึ้ง

“ พี่คงทำไม่ได้แล้ว เขาก็เกลียดพี่เหมือนที่น้องเกลียด พี่จะเอาเขามาได้อย่างไร..แล้วยังคุณเรวัตอีก”

อินทุพาหัวเราะลั่นอย่างสาแกใจ

“ ใช่สิ ใครเขาจะกล้าเอา ผู้หญิงที่สกปรกเปรอะเปื้อน เพียงแค่ข้ามคืน คนอย่างเธอก็เสียชาติเกิดมาเป็นคน นี่คงเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิตของเธอสินะ ที่สามารถทำได้ ภาวมาลา...ทำให้ชายที่แสนดีกลายเป็นฆาตกร ทำให้ชายอีกคนที่เป็นเพื่อนรัก ต้องตายจาก เธอมันเลวบัดซบ ไม่น่าเกิดมาร่วมท้องกับฉัน หรือคนที่ผิดคือฉัน ไม่น่าเกิดตามเธอมาเลย ภาวมาลา”

อินทุพาพูดจบก็เดินเซกลับออกไปจากห้องของภาวมาลา ..ปล่อยให้เธอนั่งนิ่ง หยาดน้ำตาพร่างพรูไหลหลั่งออกมาอย่างไม่คาดสาย

“ โถ หนูภาของแม่..”

คุณพรรัมภากอดเธอเอาไว้แน่น และรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแรงสะอื้นไห้ของเธอ

“ แม่เลี้ยงลูกมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่ลูกของแม่จะต้องเสียน้ำตาขนาดนี้..”

“ แม่ขา ภาผิด ภาผิดอย่างไม่น่าให้อภัย สมควรแล้วที่น้องจะโกรธจะด่าภา..”

“ อินทุพาพูดแรงเกินไป ไม่สมควรที่อินจะพูดกับภาแบบนี้ เพราะอินเป็นน้อง ต้องเคารพภา แม่จะสั่งสอนน้องใหม่ แล้วจะไม่ให้อินพูดจาแบบนี้กับหนูอีก แม่สัญญา แต่หนู อย่าโกรธน้องเลยนะลูก น้องกำลังเสียใจ”

เธอเช็ดน้ำตาแล้วจับมือเรียวของแม่เอาไว้แน่น

“ไม่โกรธหรอกค่ะแม่ขา ภาไม่โกรธใครทั้งนั้น คนที่ภาควรจะโกรธคือตัวเอง ที่หูเบา ใจเร็ว ภาผิดคนเดียว..”

“แล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะจ๊ะ..”

“ ภาจะทำในสิ่งที่ภาอยากจะทำ ภาจะไม่อ่อนแออีกต่อไป แม่ขาดูแลตัวเองให้ดีนะคะไม่ต้องห่วงภา ตอนนี้มีผู้ใจดีสองท่านรับภาเป็นลูกบุญธรรม ภามาที่นี่ก็เพื่อยอมรับผิดกับแม่ กับน้อง กับคุณพ่อ มาดูว่าทุกคนสบายดี ภามาเพื่อบอกให้รู้ว่า ภายังมีชีวิต ทุกคนไม่ต้องห่วงภา..”

“ หมายความว่าอย่างไรลูกจ๋า จะไปไหนนี่บ้านของเรานะลูก..”

“ แม่ขา ภาแยกครอบครัวแล้วนะคะ แต่ไม่ได้สร้างชื่อเสียงในทางที่ดีให้วงศ์ตระกูลเลย ภาเสียใจ ขอเพียงแค่ทุกคน..”

หญิงสาวถอนใจยาว แล้วหยุดคำพูดของเธอเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้าของมารดา แล้วลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู

“ หนูภา..”

“ภาไปนะคะไม่ต้องห่วงภา..ภาขอให้คุณแม่ และคุณพ่อ รักษาสุขภาพให้ดี อย่าให้ภาเป็นกังวลนะคะแม่ ..สัญญานะคะแล้วภาจะกลับมาเมื่อภาเสร็จธุระของภาค่ะ..”

คุณพรรัมภา พยักหน้าช้า ๆ

“ แม่กับพ่อ และน้อง จะรอวันที่ลูกกลับมา..”

เธอยิ้มน้อย ๆ ให้แม่ แล้วก้าวออกไปจากคฤหาสน์ที่ใหญ่โต ที่เคยอาศัยอยู่มายี่สิบกว่าปีด้วยความสุขและความอบอุ่น แต่การก้าวออกไปครั้งนี้ของเธอ ทำให้เธอไม่แน่ใจว่า จะมีโอกาสได้กลับมาอีกไหม..

“ แม่จะรอวันที่หนูกลับมานะลูก..”

คุณพรรัมภา เฝ้ามองดูเธอก้าวออกไปจากบ้านจนสุดสายตา โดยมีสามีของหล่อนยืนอยู่ไม่ห่างกันนักและลึกเข้าไปในบ้าน น้องสาวคนเดียวที่เคยรักกันนักหนาก็ยืนร้องไห้มองดูเธอเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel