บท
ตั้งค่า

บทที่ 3-1 : ‘เสียสละ’

“ผมขอโทษนะครับแม่... ผมเกือบเอาโควิดไปติดพ่อแม่ติดหลาน...”

[โธ่ลูกตาณ... ไม่เป็นไรนะไม่ต้องคิดมาก แม่ไม่เป็นอะไรจ้ะ คนที่บ้านก็ยังไม่มีใครติดโควิดตรวจกันสองรอบแล้ว ลูกดูแลตัวเองด้วยนะลูก...]

“ครับแม่”

[แล้ว... ลูกควรจะปรับความคิดตัวเองเสียใหม่ หัดมีเมตตาเหมือนที่แม่ดูแลลูกมาจนอายุเท่านี้ด้วยนะลูก ชีวิตคนเราแสนสั้นนะลูกตาณ แม่ให้ลูกโตแค่การศึกษาการเลี้ยงดูของแม่ที่อาจจะมีบกพร่องไปบ้าง แม่จะภูมิใจในตัวลูกมาก ๆ ถ้าลูกเป็นคนดีของสังคมด้วย...]

คุณแม่พูดจาไพเราะถึงกำลังว่ากล่าวสั่งสอนลูกชายก่อนวางสายไปในช่วงหัวค่ำ

ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยอ่อน พอโดนแม่บ่นเสียหูชาเรื่องการทำความดี มีอะไรช่วยเหลือใครได้ก็ควรจะช่วย ยิ่งตัวเขาเป็นลูกคนโตสุดความหวังของบ้าน

เขาไม่ได้เป็นอย่างที่แม่หวัง... ไม่ขาวสะอาดหมดจดใจบุญสุนทานอย่างแม่ขวัญ แต่ก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำจนเกินไป เขาทำบุญพอประมาณโดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

ตาณวีร์แค่คิดว่าเขาเป็นฝ่ายให้มามากแล้ว พ่อและแม่บอกเสมอ ๆ ว่าเป็นพี่ต้องให้น้องก่อน และเขาก็ทำมันมาตลอดจนเรียนหนังสือจบปริญญาจากอังกฤษ มีงานมีการทำก็ย้ายมาประกอบธุรกิจกับเพื่อนฝูง พำนักอาศัยอยู่เมืองพัทยาถึงสิบห้าปี

ทุกวันนี้ไม่อยากเสียสละให้ใครอีก เขาให้น้องชายมาทั้งชีวิตแล้วจึงไม่อยากที่จะให้อะไรใคร

ก็แค่นั้น...

“หน็อย... ยัยแสบ... ยัยขี้ฟ้อง”

พายุโทสะลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นในอกที่หักไปแล้วรอบหนึ่งเพราะหญิงสาวช่างไร้เยื่อใยต่อกัน เธอยังอุตส่าห์สร้างวีรกรรมเพิ่ม มือหนากำโทรศัพท์แน่นตาจ้องเพดานเขม็ง

เขาไม่ได้โมโหเรื่องติดโรคมาจากเธอหรอก แต่คับแค้นใจหลังจากที่เธอไม่ติดต่อมาเป็นเดือน ๆ ยังคิดว่าเธอจะชอบพอกันบ้างเสียอีก อย่างน้อยหายป่วยแล้วก็ควรพูดถึงเรื่องจูบคืนนั้น ไม่ใช่ทำเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิด

ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกในรีสอร์ตโอบล้อมด้วยทะเลสีมรกต ติดกับสระว่ายน้ำสามารถมองเห็นท้องฟ้าเปิดโล่งและหาดทรายสีขาวในชั้นล่าง ที่นี่ตกแต่งด้วยลักษณะเหมือนบ้านของเขาในกรุงเทพฯ ทว่าเขาตัดสินใจที่จะเช่าพักมากกว่าซื้อ อาจเพราะวันหนึ่งเขาจะไปจากเมืองนี้...

ตาณวีร์คิดฟุ้งซ่านอยู่นาน ค่อยลุกเข้าห้องน้ำไปจัดการกับตัวเองก่อนหยิบชุดนอนมาใส่ ประจวบเหมาะกับที่เลขานุการประจำบริษัทติดต่อมาหาเรื่องโรงงานที่จำต้องปิดตัวลงชั่วคราวเพราะมีพนักงานติดเชื้อ ชายหนุ่มวุ่นวายกับการจัดการปัญหาต่อให้มีหุ้นส่วนอีกหลายชีวิต

“ปิดก็ปิดนั่นแหละ กำไรเรายังเหลือพอจ่ายเงินเดือนพนักงานอีกเป็นปี ตอนนี้ทำได้แค่สาขาในเมืองนอกก็ทำไป”

ในสิงคโปร์และประเทศใกล้เคียง บริษัทยังส่งออกสินค้าได้แม้อาจล่าช้าไปสักหน่อย ชายหนุ่มหัวเสียใส่โทรศัพท์ที่วาง ไม่ลืมกลับไปดูรายจ่ายของเดือนนี้

ธุรกิจติดลบแต่กินบุญเก่ายังไงก็เหลือ ๆ เขาควรบริจาคเงินอย่างแม่ว่านั่นแหละ

แม่รักลูกทั้งสามคนเท่ากันนะลูกตาณ...

เสียงหวานของแม่ก้องดังเข้ามาในหัว หัวใจของเขาชุ่มชื้นขึ้นเพราะความรักของแม่

ตอนนี้แม่กำลังจะมีหลาน แม่มีความสุขดีในกรุงเทพฯ กับน้องชายของเขาทั้งสองคนคือเตชินและตฤณภพ มีลูกสะใภ้กำลังอุ้มท้อง สมใจแม่ที่อยากมีหลานจนตัวสั่น

ก็คงไม่ต้องการลูกชายคนโตอย่างเขาแล้วสินะ...

ตาณวีร์เคยผ่านงานหาคู่จากแม่เมื่อนานมาแล้วตอนเขาอายุสามสิบต้น ๆ ได้ ไม่เชิงว่าคลุมถุงชน เมื่อตัวเขาเองก็เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อแม่ เขาเป็นเด็กดีเป็นลูกรักของทั้งพ่อและแม่ ประสาลูกคนรวยที่เลี้ยงดูลูกชายทั้งสามคนเป็นอย่างดีจนเติบใหญ่

บางคนก็ว่าบ้านเขาเป็นลูกแหง่ติดแม่ ซึ่งชายหนุ่มไม่ปฏิเสธในข้อนั้น เขารักแม่ขนาดว่ายอมตกลงจะแต่งงานกับสาวคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แค่พ่อแม่บอกว่าดี ทว่าผลตรวจร่างกายทำให้ทุกอย่างพังทลายลง

เขาเป็นหมัน...

ความรู้สึกน้อยใจ เสียใจ ระทมทุกข์ถึงเพียงนี้มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ก๊อก ๆ แก็ก ๆ

เสียงตะกุกตะกักดังผ่านประตูห้องนอนของรีสอร์ตหรูที่ถูกเหมาไว้ทั้งหลัง แปลว่ามันไม่ควรมีใคร ทำชายหนุ่มมองขวับ เขาลุกขึ้นเดินไปดูต้นเสียงนั้นด้วยความสงสัย แต่คงไม่ถือโทษโกรธหากมีใครโผล่มา

อาจเป็นแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดสองวันครั้ง เป็นคนส่งอาหาร พนักงานรักษาความปลอดภัยหรือจะเป็นยัยเปม

ทุกอย่างผิดคาดเมื่อเปิดประตูอ้าออกกว้าง ปรากฏสัตว์ตัวเล็กกระจ้อยร่อย เจ้าเหมียวหน้าตาน่าสงสารร่างผอมโซ ขนของมันเป็นสีดำเสมอกันทั้งตัวเว้นแต่...

“ใส่ถุงเท้าขาวด้วย แกหลงมาได้ยังไงกันนะ นึกว่าจะมีแค่ฉันซะอีก..”

อาการคอตกอย่างเดรัจฉานที่หิวจนต้องงอท้องของมันเอาไว้ให้พ้นจากความเจ็บปวด อยู่ในสายตาของชายหนุ่ม เขานั่งยองลงเอื้อมมือไปลูบหัวมัน

“หิวหรือไง? เจ้าเหมียว...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel