บท
ตั้งค่า

๓ คลางแคลงใจ (๒)

เธอทำขนมเตรียมไว้ให้เขาเสมอและยังเป็นขนมสำหรับคนลดน้ำหนัก รู้ดีว่าชายหนุ่มต้องรักษาหุ่นตลอดเวลา จึงพิถีพิถันในการทำอาหารให้แฟนเป็นพิเศษ แถมยังใส่ความรักลงไปเพื่อให้เขาหลงเธอไปไหนไม่รอด

เหมือนที่ตอนนี้หล่อนเองก็หลงเขาจนไม่อาจมองชายอื่นหล่อกว่าโมกข์ได้...

“ยังไม่ได้กินอะไรเลย ช่วงนี้รีบถ่ายละครใกล้ปิดกล้องแล้ว พี่หิวจังเลย...” กอดร่างบางเอาไว้แน่นเหมือนเดิม หลับตาลงซึมซับความอบอุ่นที่ได้จากเธอ ชั่วขณะเขาหลงลืมว่าตัวเองกำลังทำอะไร ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังก่อนคิดได้ว่าต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้

ห้ามวอกแวกหรือเปลี่ยนใจเป็นอันขาด!

“งั้นเอยไปทำสเต็กเนื้อให้พี่ดีกว่า เอาสลัดด้วยดีไหมคะช่วงนี้พี่กำลังลดหุ่น...” เกยคางไว้บนไหล่บาง จุมพิตที่ลาดไหล่เนียนผ่านเนื้อผ้า

“อะไรที่เอยว่าอร่อยพี่กินหมด” คำหวานของเขาทำให้เธอยิ้ม ก่อนชะงักเมื่อคิดถึงสิ่งที่พูดกับเพื่อนเมื่อหลายวันก่อน แต่ยังไม่ได้พูดกับเขาจริงจังเพราะชายหนุ่มทำงานหนักไม่ได้แวะกลับมาที่ห้องนี้เท่าไหร่ อย่างมากก็คุยผ่านข้อความแชททางโทรศัพท์

“พี่โมกข์คะ...” ผละห่างจากเขาเล็กน้อยแต่ก็ยังนั่งอยู่บนตักแกร่ง มองดวงหน้าคมแล้วเรียกเขาเพื่อจะเกริ่นเข้าเรื่องที่ตัวเองต้องการทราบ ขณะที่โมกข์ก็ตอบรับอยากรู้ว่าหญิงวาวกำลังจะพูดเรื่องอะไร ดูสีหน้าเคร่งเครียดกว่าปกติ

“ครับ”

“พี่กับภวิกา...เป็นอะไรกันเหรอ” พูดถึงบุคคลที่สามซึ่งเป็นข่าวกับเขาอยู่บ่อยครั้งว่ากำลังคบหากัน

โมกข์ตอบปฏิเสธตลอดแล้วเธอก็เชื่ออย่างนั้น กระทั่งเมื่อหลายวันก่อนได้คุยกับเพื่อนสนิทอย่างมีนา ถูกถามถึงเรื่องนี้จึงเกิดข้อสงสัยจนเลือกถามคุยกับเจ้าของเรื่องให้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่

‘เธอกลับไปคบพี่โมกข์เหรอ’ บอกเล่าเรื่องราวการกลับมาคบกันอีกครั้งของตนและพระเอกคนดัง เพื่อนสนิทที่เหลืออยู่คนเดียวค่อนข้างตกใจแต่ก็คิดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้

มีนาอยู่กับเธอมานานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ทราบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี รู้ว่าเหตุใดจิรัศยาจึงต้องบอกเลิกแฟนที่รักมากด้วยความจำเป็นบางประการ

โมกข์คือผู้ชายคนเดียวที่เพื่อนของเธอรักมาโดยตลอด...จนวันนี้ที่ได้กลับมารักกันอีกครั้ง

‘ใช่! เขาไม่โกรธเรื่องในอดีตเลยนะมีนา แถมยังเป็นห่วงฉัน ช่วยฉันใช้หนี้ยังให้ที่พักลดราคาอีกต่างหาก แต่ตอนนี้เขาบอกไม่คิดให้อยู่ฟรี แต่ไม่เอาหรอก...ฉันว่าจะจ่ายเงินให้เขาหลังจากได้รับเงินค่าแปลหนังสือ’ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสดใส ไม่หดหู่เหมือนเมื่อก่อนจนคนฟังพลอยยิ้มไปด้วย

เหมือนได้เพื่อนแสนเจื้อยแจ้วคนเดิมของตัวเองกลับมาอีกครั้ง

‘เหมือนฝันเลย ได้กลับมาคบกัน...เขาไม่โกรธไม่ถามถึงเรื่องในอดีตอีกต่างหาก เหมือนว่าที่เธอพาฉันไปขอพรเรื่องความรักจะประสบความสำเร็จแล้วล่ะ ว่างวันไหนไปขอบคุณพระแม่กันนะ’ หลุดหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เธอเพิ่งพาเพื่อนสนิทไปขอเรื่องความรักจากเทพที่ตัวเองเคารพนับถือ เมื่อเห็นว่าจิรัศยาครองตัวโสดมานานจึงอยากให้มีคนข้างกายบ้าง แต่ใครจะรู้ว่าได้คนเก่าที่แสนรักกลับมา เพียงแค่หล่อนยังมีข้อกังขาบางอย่าง

‘อือๆ แต่เหมือนว่า...’

‘ว่าอะไร’

‘คนวงในเขาพูดกันว่าพี่โมกข์คบกับคุณภวิกาหลานสาวเจ้าของช่อง แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จแค่ไหนนะ เขาแค่ลือกันเพราะเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันบ่อยน่ะ’ พยายามพูดเพื่อไม่ให้เพื่อนคิดมาก เคยเห็นสองคนนั้นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ทว่าชายหนุ่มก็ตอบนักข่าวเสมอว่าเป็นแค่เพื่อนสนิท

มีคนเชื่อแต่อีกหลายคนก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ กระนั้นก็ไม่มีคำตอบเพราะชายหญิงไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาสักคน

นอกจากบอกว่าเป็นเพื่อน...

‘ยังไงเธอก็ถามพี่เขาให้แน่ใจล่ะกัน...แต่ฉันดีใจนะที่เธอมีความสุขกับเขาซะที’

‘อือ! ได้เรื่องยังไงจะเล่าให้ฟัง’ จากเสียงที่เคยสดใสก็สลดลงเล็กน้อย ทำให้ต้องไปหาข่าวของคนรักกับผู้หญิงที่ชื่อภวิกามาอ่านอย่างละเอียด จึงได้ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใครและยิ่งใหญ่มากแค่ไหน

ภวิกา ศาตพรหลานสาวของผู้บริหารช่อง บิดาก็เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญทั้งยังมีธุรกิจในมืออีกหลายอย่าง เรียนจบทางด้านศิลปะจากต่างประเทศ ตอนนี้ทำงานเป็นบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่น ถือเป็นหัวแรงสำคัญอีกคนและทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นเป็นอย่างมาก

ประวัติของคนที่เป็นข่าวกับเขาเรียกว่าเธอเทียบไม่ติดด้วยซ้ำ ยิ่งอ่านก็ยิ่งห่อเหี่ยวจนนั่งซึมอยู่หลายวัน จึงเลือกจะถามเขาตามตรง แล้วรอฟังคำตอบของชายหนุ่มอย่างใจจดจ่อ ดวงตากลมจ้องหรอบหน้าคมตาไม่กระพริบ

“คุณภวิกาเป็นเพื่อนของเพื่อนน่ะ คุยกันบ้างตอนเจอตามงานแต่ก็เป็นแค่เพื่อน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น...เอยถามทำไมเหรอ” น้ำเสียงราบเรียบกับคำตอบที่ไม่พบพิรุธทำให้เธอเชื่อเขาจนหมดหัวใจ พยักหน้าตามคำบอกเล่าแล้วกอดลำคอหนาเอาไว้ ซุกหน้าที่อกอุ่นอยู่อย่างนั้นค่อยตอบคำถามของเขา

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”

“พี่มีแค่เอยนะ” กอดเอวบางเอาไว้แล้วจุมพิตที่ศีรษะมน กลายเป็นว่าเขาก็เริ่มเสพติดการสัมผัสจากหล่อน แค่ได้กอดครั้งเดียวก็อยากกอดไปทุกครั้งเมื่อได้มองดวงหน้าสวย รู้สึกหวงแหนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ทั้งที่บอกตัวเองว่าทำทุกอย่างก็เพื่อแก้แค้น...

“เข้าใจแล้วค่ะ...พี่โมกข์อย่าซน” จับมือเขาเอาไว้เมื่อมันเริ่มเลื้อยเข้ามาในเสื้อของตน แต่เขากลับไม่ยอมหยุดแล้วลูบไล้แผ่นหลังเนียน เรื่อยมายังตะขอเสื้อชั้นที่ถูกปลดอย่างง่ายดายในสองวินาที เธอเบิกตากว้างแล้วตีอกหนา

“ไม่ได้ซน พี่แค่คิดถึงเอยมากไปหน่อย”

“พี่โมกข์ เอยจะไปกับข้าว พี่ไม่กิน อื้อ” ปากอวบอิ่มถูกปิดไว้ทันที เขาจุมพิตเป็นการปิดกลั้นเสียงของเธอที่กำลังจะเอ่ยถาม ทั้งยังเลาะเล็มชิมความหวานจากปลายลิ้นอุ่นจนพึงพอใจจึงปล่อยร่างบางเป็นอิสระ กระนั้นก็ยังจดจ้องดวงหน้าสวยไม่วางตา

“ไม่กินข้าวล่ะ พี่อยากกินเอยมากกว่า” ว่าจบก็อุ้มเธอด้วยท่าเจ้าหญิงตรงไปยังห้องนอน ขณะที่จิรัศยาไม่ได้มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด เพราะหล่อนเองก็คิดถึงชายหนุ่มเช่นเดียวกัน เลือกจะกอดคอเขาไว้อย่างนั้นไม่ให้ตัวเองตกลงพื้น

“อาหารจานนี้...น่ากินกว่ากันเยอะเลย”

วางร่างแบบางลงบนเตียง แล้วมองอาหารอันโอชะที่อยู่ตรงหน้าตน เริ่มกินอย่างละเมียดละไมผสมกับเสียงครางหวานดังข้างหู เป็นความอิ่มเอมใจจนเขาได้นอนหลับสนิทโดยมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขน ไม่ต้องนอนฝันร้ายเหมือนคืนที่ผ่านมา

โมกข์ยังคงทำงานหนักและให้ความสุขกับผู้คนผ่านทางการแสดงของเขาเหมือนเดิม มีแฟนคลับอยู่ทั่วประเทศ ไปไหนใครก็รู้จักและเมื่อปีก่อนก็ได้ได้โหวตขวัญใจมหาชนอันดับที่สาม ซึ่งเขาก็ค่อนข้างพอใจแม้ตัวเองจะไม่ได้ที่หนึ่งก็ตาม รู้ดีว่าวงการนี้การแข่งขันค่อนข้างสูง แค่ขึ้นมาติดท็อปสามก็ดีมากเท่าไหร่แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel