๓ คลางแคลงใจ (๑)
๓
คลางแคลงใจ
ความเหนื่อยล้าสะสมจากกิจกรรมเมื่อคืน ทำให้หญิงสาวนอนหลับสนิทกระทั่งตะวันโผล่พ้นเหนือผืนน้ำก็ยังไม่ยอมตื่น นอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มหนาโดยสวมเพียงเสื้อเชิ้ตของคนที่กอดตนจากทางด้านหลัง สัมผัสได้ถึงอกแกร่งที่เบียดกับแผ่นหลังไหนจะแรงรัดแน่นรบกวนการนอนเป็นอย่างมาก
เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ภาพตรงหน้าคือม่านสีขาวพลิ้วไหวไปตามลมเพราะบานประตูระเบียงถูกเปิดออกรับลมเย็น เธอขยับกายเล็กน้อยก่อนจะรับรู้ได้ว่าตัวเองถูกแฟนหนุ่มกอดเอาไว้
คิดถึงสถานะก็ร้อนผ่าวที่ใบหน้า...
ยิ่งคิดว่าเมื่อคืนตนกับเขาทำอะไรลงไปก็แทบจะเอาหน้าซุกหมอนไม่กล้าหันไปสบตากับคนรักหมาดๆ
ไม่คิดว่าตัวเองจะยอมทอดกายให้ชายเชยชมตั้งแต่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายออกปากขอเป็นแฟน แต่ความรักมันล้นหัวใจ คิดถึงและโหยหาจนไม่อาจต้านทานได้จึงยอมตกเป็นของเขาด้วยความเต็มใจ กระนั้นพอคิดถึงการสัมผัสไปทั่วตัว ทั้งยังเสียงครางที่ดังก้องห้องก็ไม่กล้าจะสบตากับคนที่นอนซ้อนหลัง
กระทั่งได้ยินเสียงของเขาถามขึ้น ก็ยังเลือกตอบในลำคอแล้วก็ใช้ผ้าห่มมาบังใบหน้าเอาไว้กว่าครึ่ง
“มีความสุขหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูจนเธอต้องย่นคอหลบ แต่เขาก็ยังเลือกจะซุกไซ้ไปที่ซอกคอขาวหอมกรุ่น ฝังจมูกเอาไว้อย่างนั้นไม่ยอมผละห่างไปไหน นึกชอบในเนื้อตัวของคนที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเอง
ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าหนี้ต้องการตัวเธอไปบำเรอกาม ขนาดเขาที่มั่นใจว่าเกลียดหล่อนนักหนา ยังหลงในรูปโฉม...
ก็แค่หลงเท่านั้นแหละ เขาไม่ได้รักชอบผู้หญิงเจ้ามารยาร้อยเล่มเกวียนหรอก
ที่ทำก็เพื่อแก้แค้นถึงสิ่งที่ตัวเองเคยโดนกระทำในอดีต เธอจะต้องเจ็บเจียนตายยิ่งกว่าที่เขาเคยเป็น รู้สึกปวดร้าวทั่วอกเหมือนที่เขาเคยรู้สึก!
“ค่ะ”
“ทำไมพูดน้อยจังเลย ไหนหันหน้ามาให้พี่ดูหน่อยสิคนสวย” พยายามพลิกกายหล่อนให้หันหน้ามามองกัน จิรัศยาก็ขืนตัวเอาไว้พลางส่ายหน้าไปมาไม่ยินยอมหันมองเขา มือหนาจึงสบโอกาสเลื้อยเข้าไปใต้เสื้อตัวใหญ่ของตนที่เธอสวมเอาไว้ ซึ่งไม่มีชุดชั้นในปิดกายนุ่มสักชิ้น
มือหนาเลื่อนไปกอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่น บีบเคล้นอย่างมันมือแล้วใช้ปลายนิ้วสะกิดปทุมถันจนมันชูชันแข็งเป็นไต เธอครางเสียงแผ่วเมื่อโดนจุดปลุกเร้าอารมณ์ โมกข์ยังไม่หยุดเฉยเท่านั้น กลับใช้มืออีกข้างที่เธอนอนทับเลื่อนไปยังดอกไม้กลีบงามที่เรียบเนียน
“ไม่เอา พี่โมกข์อย่าแกล้ง” บอกเสียงพร่า พยายามจับมือเขาเอาไว้แต่ก็ไม่อาจต้านทานความต้องการส่วนลึกของตัวเองได้
ไม่ใช่แค่เขาที่ต้องการ เพราะเธอเองก็ต้องการชายหนุ่มไม่ต่างกัน
“ไม่ได้แกล้งสักหน่อย...” ขบเม้มที่ติ่งหูนุ่มก่อนไล่เลียมาเรื่อยยังลำคอระหง เธอดิ้นพอเป็นกระสัย สุดท้ายก็โอนอ่อนให้เขาอยู่ดี เมื่อหัวใจทั้งดวงกลายเป็นของชายหนุ่มไปแล้ว และมันเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอดไม่เคยเปลี่ยน
“มาทะเลไม่เห็นจะได้ออกไปเหยียบน้ำทะเลเลย ชวนนอนอยู่ห้องอย่างเดียวแล้วพี่จะพามาทำไมคะ” ขยับหนีไม่ได้แล้วเธอก็เลยยินยอมให้เขาแตะต้องตามใจชอบ พอดีกับที่ลมพัดม่านจนเห็นทะเลด้านนอก เริ่มเสียดายที่ไม่ได้ไปเหยียบน้ำหรือเดินเล่นริมหาด
“ก็พี่อยากอยู่กับเอยนี่น่า เราห่างกันไปหลายปีเลยนะ...พี่ก็คิดถึงของพี่” เขาเลือกจะผละมือจากความเป็นสาวแล้วโอบเอวบางเอาไว้ แต่ความนุ่มนิ่มที่ดอกบัวงามสองข้างทำให้เขาไม่อาจละมือไปไหนได้ จึงขย้ำเล่นด้วยความเพลิดเพลิน
“พี่โมกข์...”
“แค่กอดเฉยๆ เอง พี่เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์แล้วขอนอนกอดเอยไม่ได้เหรอ ถือเป็นการพักผ่อนไปในตัวไง รับรองว่าจะไม่ทำอะไรให้เอยเสียหายหรือเสื่อมเสียเลยครับ” ซุกใบหน้าเข้าที่ซอกคอหอมกรุ่น จุมพิตแล้วสร้างรอยเอาไว้อย่างที่เคยนึกอยากทำในอดีต
แต่ตอนนั้นแค่คบกันแบบเด็กๆ ได้จับมือหล่อนก็ดีใจจนนอนไม่หลับไปหลายวันแล้ว พอบัดนี้ได้ครอบครองทั้งร่างกาย จึงทำทุกอย่างตามสมองสั่ง โดยไม่ยอมใช้หัวใจนำทางอีก!
เขาเจ็บมามากพอแล้วกับการใช้หัวใจรักแล้วต้องพบความผิดหวัง
“ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“คราวหน้า...เรามาทะเลด้วยกันอีกนะคะ” ปลดมือหนาออกแล้วหันมาซุกใบหน้าเข้าที่อกกว้าง กอดเขาไว้แน่นพลางสูดกลิ่นของชายหนุ่มที่ตนเริ่มคุ้นชินเข้าปอด รู้สึกอบอุ่นเป็นทบทวีเมื่อได้อยู่กับคนรักของตัวเอง
“ครับ”
ปากอวบอิ่มยกยิ้มมีความสุข ต่อจากนี้เขาคือความสุขของเธอ
จะรักและภักดีต่อโมกข์ตลอดไป ขอเพียงเขาอย่าได้ใจร้ายกับหล่อนเลย...อยากให้ชายหนุ่มแสนดีเช่นนี้ตลอดไป
ย้ายมาอยู่ห้องใหม่ที่ค่อนข้างสุขสบายกว่าที่อื่น ไม่ต้องหนีเจ้าหนี้หัวซุกหัวซุนอีกต่อไป หล่อนทำงานแปลของตัวเองแล้วส่งเงินผ่อนจ่ายคืนโมกข์ในแต่ละเดือน ถึงตอนแรกชายหนุ่มจะปฏิเสธก็โดนลูกตื้อของหล่อนจนต้องยอมโดยดี
ผ่านไปในแต่ละวันแสนเรียบง่าย ทำงานในห้องแล้วมาอบขนมเพื่อฝากเขาเอาไปให้คนในกองได้รับประทาน แน่นอนว่าโมกข์จ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนทุกครั้ง เธอก็เก็บไว้ในกระปุกไม่ได้เอาออกมาใช้แต่อย่างใด
ดาราหนุ่มทำงานหนักเพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ต้องปิดกล้องละคร ไม่ได้พบหน้ากันเกือบสัปดาห์ กระนั้นเขาก็ยังติดต่อมาเสมอพอคลายใจได้บ้างว่าชายหนุ่มไม่ได้เกเรมองใครนอกจากตน ยอมรับว่าเป็นคนขี้หึงแต่ถ้าเป็นเรื่องงานก็พยายามจะมีเหตุผล
อย่างไรนั่นก็เป็นงานของเขา ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายมากนัก...
“คืนนี้พี่นอนห้องเอยนะ”
อย่างวันนี้เขาก็เดินเข้ามาในห้องของเธอเพราะมีคีย์การ์ดอีกใบ เข้ามากอดหญิงสาวจากทางด้านหลังแล้วเกยคางไว้บนศีรษะมน หลับตานิ่งจนเธอต้องเบี่ยงหัวหลบเขา เพื่อมองดวงหน้าคมแล้วถามถึงสาเหตุ
“ทำไมล่ะคะ”
“อยากอยู่กับแฟน พี่ขาดเอยไม่ได้หรอก ยิ่งช่วงนี้ให้ขลาดสายตาไม่ได้เลย อยากจ้องอยู่อย่างนี้ทั้งวัน” พูดจบก็อุ้มหล่อนขึ้นมานั่งบนตัก ไม่รู้ว่าเธอตัวเล็กไปหรือเปล่าเขาถึงจะยกจะอุ้มก็ทำได้อย่างง่ายดาย โดยที่หญิงสาวก็ไม่ได้ขัดขวาง
ยินยอมทุกอย่างเมื่อผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ตนรัก
“ปากหวานให้ได้ตลอดนะคะ...แล้วพี่จะกินอะไรไหม เอยทำขนมไว้ด้วยจะกินคู่กับนมร้อนหรือเปล่า กินข้าวหรือยังคะ” ยกมือขึ้นลูบตามกรอบหน้าคม แล้วค่อยเล่นผมที่ยาวประบ่า นุ่มสลวยอย่างกับผมผู้หญิงแถมยังมีกลิ่นหอมอีก กลายเป็นชอบโมกข์ในลุคนี้จนมองไม่วางตา
