บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 29 ตระกูลเจี้ยนเฉิง

ตอนที่ 29 ตระกูลเจี้ยนเฉิง

วันนี้ชิงเถากำลังนอนอยู่บนเสื่อใต้ต้นบ๊วย หลังจากเมื่อวานนางเสนอตัวเองตั้งชื่อสกุลของครอบครัวตนเองซึ่งคืนนั้นนางนอนคิดเป็นชั่วยามชั่วยามก็ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ชื่ออะไร ก็ทำไงได้ล่ะในหัวนางถึงจะมีสกุลต่างๆ ให้เลือกสรรแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ซ้ำ หรือจะไปแนวตระกูลี พัค ซอ คิม มันก็อาจจะแปลกหน่อยๆ ดังนั้นเมื่อเช้านางจึงรีบไปตลาดหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับตัวอักษรพร้อมความหมายต่างๆ กับหนังสือเกี่ยวกับการตั้งชื่อเด็กที่ไม่คิดว่าจะมีเหมือนโลกของนาง

เมื่อได้หนังสือมาแล้วนางจึงมานอนอ่านใช้ความคิดอยู่อย่างนี้ ชื่อเพราะๆ ความหมายดีๆ คนก็น่าจะใช้ไปแล้ว จะเหลือก็แต่ชื่อกับความหมายแปลกๆ ที่ยังเหลือรอดอยู่

“หรือจะใช้นามสกุลของเราดีนะ” ชิงเถาพูดกับตัวเองออกมา หลังจากยังไม่ได้ชื่อที่ต้องการ

“ไม่ๆ ตั้งห้าพยางค์ แย่กว่าการตั้งซ้ำกับคนอื่นอีก ไหนจะการออกเสียงอีก” นางยังทะเลาะกับตัวเองอยู่

‘เรื่องแบบนี้เจ้าดูตั้งใจกว่าหาเงินอีกนะ’ เชี่ยนเชี่ยนที่เห็นชิงเถาคิดเรื่องนี้อยู่นานร้องทักขึ้น

‘เจ้าไม่รู้ฉายาเดิมในโลกก่อนของข้าหรอ จริงจังกับเรื่องเล่นๆหน่ะ แต่อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นนะสำคัญพอสมควรเพราะข้าจะต้องใช้มันไปตลอดชีวิต’ ชิงเถาตอบกลับไป

‘งั้นก็แล้วแต่เจ้าเลย ไปดีกว่า เบื่อคนจริงจังกับเรื่องเล่นๆ’ เชี่ยนเชี่ยนเอ่ยล้อเลียนแล้วก็บินหนีออกไป

“คอยดูละกัน สกุลข้าต่อไปต้องเด่นต้องดัง” ชิงเถาร้องตะโกนตามหลังเชี่ยนเชี่ยนไป ถึงนางจะได้ยินหรือไม่ก็ตามเถอะ

“หรือเราจะใช้หลักการของโลกเก่าเราดี” ชิงเถาเริ่มคิดต่อ ประเทศนางนิยมนามสกุลหลายพยางค์ดูเกินความจำเป็น ถ้างั้นนางก็จะใช้หลักการนี้แล้วกัน แต่ปกติสกุลของที่นี่เกือบทั้งหมดมีพยางค์เดียว ถ้านางตั้งเป็นสองพยางค์ก็น่าจะดูเยอะและแปลกแล้วนะ

เมื่อได้หลักการการตั้งชื่อสกุลตนแล้ว ชิงเถาก็เริ่มเอาคำนั้นมาต่อคำนี้ คำนี้มาต่อคำนั้น เลือกความหมายอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วยาม นางก็ได้ชื่อสกุลที่นางพอใจ แม้ว่าพออยู่ด้านหน้าชื่อพวกนางตอนเรียกขาดดูจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่ แต่ถ้าเรียกแค่สกุลก็ถือว่าดูดีความหมายใช้ได้ที่เดียว ดี ดีมากนี่หล่ะต่อไปชื่อนี้จะคือสกุลของพวกนาง

เมื่อได้ชื่อที่นางต้องการ นางก็ไม่รีรอรีบวิ่งไปหามารดาที่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่กับพี่สาวทันที

“ท่านแม่ ท่านพ่อออออ ได้แล้วๆ ข้าคิดชื่อสกุลเราออกแล้ว” ชิงเถาร้องตะโกนเข้าไปหามารดา ไม่ใช่แค่มารดาที่ได้ยิน บิดากับน้องๆ ของนาง ที่พึ่งกลับจากไปหาไม้ฟืนจากป่าหลังจวน (พวกนางให้ช่างทุบกำแพงทำประตูเล็กๆไว้แหล่ะ) พอได้ยินก็เข้ามาฟังพร้อมกันทันที

“ได้ว่าอย่างไรรึเถาเอ๋อร์” นางลี่จูที่กำลังจะชิมน้ำแกงก็ได้หยุดมือมาถามนางก่อน

“ว่า” ชิงเถาเอ่ยอย่างเชื่องช้า นางเริ่มไม่มั่นใจแล้ว ดูทุกคนจะคาดหวังกับนางมาก

“ว่าอะไรที่รอง พวกข้าอยากรู้แล้ว” หมิงเลี่ยนเอ่ยเร่งพี่สาวออกมา หลังเมื่อวานได้ยินว่าพี่สาวคนนี้จะตั้งชื่อสกุลพวกเขาขึ้นมาใหม่ เขาที่ไม่มีสกุลก็อดตื่นเต้นไม่ได้

“เจี้ยน เฉิง เจ้าค่ะ” ชิงเถาเอายออกไปทีละพยางค์อย่างช้าพร้อมมองสีหน้าทุกคนไปด้วย เหตุที่นางเลือกชื่อนี้เมื่อดูความหมายแล้วคือความสำเร็จและสุขภาพดี ซึ่งน่าจะเหมาะกับพวกนาง

“เจี้ยนเฉิง อย่างนั้นรึ เหตุใดจึงมีถึงสองคำ” จิ้นสิงถามออกมาด้วยความสงสัย

“เช่นนี้เจ้าค่ะ แคว้นนี้ผู้คนมากมาย ครอบครัวเยอะแยะ ตระกูลใหญ่เล็กก็มากมี ในเมื่อเราหาชื่อใหม่ๆไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าพวกเขาใช้ไปทุกชื่อแล้วเจ้าค่ะ หากทางที่เราจะมีสกุลไม่ซ้ำใครก็คือเพิ่มจำนวนคำลงไปเจ้าค่ะ รับรองไม่เหมือนใครแน่นอน หากเราลงทะเบียนตระกูลเราในชื่อสกุลนี้แล้วให้เหตุผลนี้กับเจ้าหน้าที่ก็คงไม่มีปัญหาหรอกเจ้าค่ะ อีกอย่างความหมายก็ดีด้วย” ชิงเถาอธิบายเหตุผลของการตั้งชื่อนี้ของนางออกมา

“เจี้ยนเฉิง เจี้ยนเฉิง ข้าชอบชื่อนี้ขอรับพี่ใหญ่” หมิงลู่หลังได้ยินชื่อสกุลที่ชิงเถาตั้งก็เอ่ยสนับสนุนออกมา

“เจี้ยนเฉิงหมิงเลี่ยน เป็นไงขอรับชื่อข้าเพราะหรือไม่” หมิงเลี่ยนรองเรียกชื่อตนออกมาด้วยความตื่นเต้นแล้วถามความเห็นกับทุกคน

“เอาไงดีเจ้าคะท่านพี่” นางลี่จูเอ่ยถามสามีออกมา จริงๆนางตามใจลูกอยู่แล้วเพียงแต่อยากรู้ความคิดของสามีเท่านั้น

“ก็ไม่ได้แย่ เหตุผลฟังได้ดี ตกลงต่อไปเราคือตระกูลเจี้ยนเฉิง” จิ้นสิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากทุกคน

“เจ้าค่ะ//ขอรับ” ทุกคนที่เหลือตะโกนตอบรับอย่างพร้อมเพรียม พร้อมหน้าตาพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเจ้าของความคิดอย่างชิงเถา นางกังวลว่าบิดาจะไม่เห็นด้วยเพราะมันอาจจะแปลกไปเสียหน่อยกับสามัญสำนึกคนที่นี่ แต่ในที่สุดนางก็ยังเป็นลูกรักของพ่อแม่อยู่เช่นเดิม

หลังจากตกลงใช้ชื่อสกุลที่ชิงเถาคิดแล้ว นางก็คะยันคะยอให้บิดารีบไปแจ้งแก่ที่ว่าการเจ้าเมืองทันทีเรื่องการมีอยู่ของพวกนาง พร้อมไปสั่งทำป้ายหน้าจวนพวกนางให้เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งก็เป็นวันรุ่งขึ้นของวันที่นางมาเสนอชื่อนี้แก่ทุกคนนั้นเอง

ไม่ใช่แค่คิดชื่อเพื่อแจ้งแก่ราชการกับไว้ทำป้ายเท่านั้น คืนนั้นชิงเถานางยังจะใช้ชื่อนี้เป็นชื่อตราสินค้าชนิดต่างๆ ของครอบครัวนางที่จะออกขายอีกด้วย ดังเช่นโลกก่อนที่ต้องมีแบรนด์นั่นเอง โดยนางออกแบบร่างลักษณะในกระดาษแล้วไปสั่งให้ร้านที่รับทำตราประทับทำให้ ซึ่งนางจะให้เป็นตัวแทนแสดงถึงสินค้าของร้านนางที่จะมีตราประทับนี้อยู่นั้นเอง โดยนางออกแบบให้ตรงกลางมีคำว่าเจี้ยนเฉิงอยู่ ซึ่งล้อมรอบด้วยลวดลายเถาวัลย์ตามที่นางคิดขึ้นซึ่งจะอยู่ในตราประทับที่เป็นวงกลม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel