ตอนที่ 28 จวนเสร็จแล้วแต่ยังขาดป้ายชื่อจวน (จวนของชิงเถาก็คือบ้านหลังน้อยๆ)
ตอนที่ 28 จวนเสร็จแล้วแต่ยังขาดป้ายชื่อจวน (จวนของชิงเถาก็คือบ้านหลังน้อยๆ)
หลังจากงานจัดการงานในบ้านต่างๆ เป็นอันเสร็จแล้ว ครอบครัวชิงเถาวันนี้เดินทางไปตลาดกันทุกคน ตลาดที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของทางใต้ซึ่งสองข้างทางจะมีร้านรวงมาตั้ง ซึ่งด้านหลังร้านตั้งโต๊ะแบบนี้ก็จะเป็นร้านค้าที่ปลูกสร้างอย่างถาวร วันนี้พวกนางจะไปหาทำเลที่ตั้งร้านขายของของครอบครัวพวกเขาอย่างเป็นกิจลักษณะแล้ว ถึงจะไม่ใช่ร้านใหญ่แค่เช่าที่ตั้งโต๊ะขายก็เถอะ แค่นั้นก็ไม่เป็นไรชิงเถานางจะหาวิธีให้น่าสนใจเอง
“ตรงนี้ก็ดีนะลูก ผู้คนเดินผ่านเยอะทีเดียว” นางลี่จูพูดขึ้นเมื่อเดินหาที่จะตั้งร้านมาสักพัก ผ่านมาหลายที่ยังไม่ถูกใจลูกสาวคนเล็กสักที นางก็ไม่รู้ว่าลูกสาวใช้เกณฑ์อะไรกันแน่ในการเลือกที่จะตั้งร้าน
‘ก็ใช้ได้นะ แม่เจ้าก็สายตากว้างไกลใช้ได้’ เชี่ยนเชี่ยนพูดขึ้นกับชิงเถา ชิงเถานางไม่ได้เป็นคนเลือกหรอก ผู้ตัดสินใจตัวจริงคือยัยเทพธิดาหุ่นตุ้ยนุ้ยนี้ไง นั่นก็ไม่ดี นี่ก็มุมอับ โน้นก็ทางผีผ่าน
“ตกลงเจ้าค่ะตรงนี้เลย เราต้องไปติดต่อไหนเจ้าคะ” ชองเถาตอบตกลง พร้อมหันไปถามเพราะทุกที่ต้องมีผู้ดูแลควบคุม ไม่ใช่อยากจะมาขายก็มา
“ตรงกลางตลาดด้านตรงข้ามเรามีสำนักงานเล็กๆ ไว้ดูแลตลาดตั้งอยู่” จิ้นสิงตอบลูกสาวออกมา ตามที่เขาได้สอบถามพ่อค้าตามรายทางที่เดินมา
“เจ้าค่ะ” ชิงเถาตอบรับ ก่อนที่จะไปพากันเดินหาซื้อข้าวของต่างๆ กันก่อน ทั้งข้าวของเครื่องใช้ อาหาร รวมถึงของที่จะนำมาเป็นสินค้าและตกแต่งร้านด้วย
สำนักงานดูแลตลาดทางใต้ของเมืองหลวง พวกชิงเถารอกันอยู่ร้านน้ำชาใกล้ๆ มีเพียงจิ้นสิงและลี่ถิงที่เข้าไปติดต่อ เนื่องจากนางไม่ได้อยากเป็นผู้จัดการในทุกๆเรื่อง จึงให้ผู้อื่นทำบ้าง ง่ายๆก็ขี้เกียจจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่
นั่งรอสักพัก จนพวกนางจิบน้ำชาหมดไปหลายจอก สองแฝดสั่งขนมมาลองชิงหลายจาน ผู้ไปติดต่อเรื่องตั้งร้านก็แล้วเสร็จ พวกนางจึงได้พากันกลับจวน
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ครอบครัวชิงเถายังช่วยงานต่างๆในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทำผลึกสีไว้เตรียมขายตอนเปิดร้านเพราะส่งลูกค้าครบทุกใบสั่งจองแล้ว ใบหญ้าหวานก็ขยายได้หลายแปลงแล้วทำให้ผลผลิตก็เพิ่มมากขึ้น ลานดินหน้าบ้านหลังน้อยพวกนางมีตากอยู่เยอะเชียวหล่ะ น้ำดับกลิ่นกายพวกนางลดการผลิตลงทำไว้แค่ร้อยขวดเท่านั้นเนื่องจากหน้าร้อนใกล้จะหมดไปพวกนางก็กลัวว่าผู้คนจะเลิกใช้ไป แต่งานที่เพิ่มเข้ามาคือรดน้ำผักและต้นไม้ต่างๆ แรกๆ ชิงเถาได้รดก็สนุกดี แต่ผ่านไปหลายวันนางก็เริ่มจะเบื่อจะขี้เกียจ ถ้าไม่เพราะเชี่ยนเชี่ยนบ่นนางเรื่องเป็นตัวขี้เกียจกับเห็นน้องๆรดน้ำกันอย่างตั้งใจ นางก็คงไม่สำนึกหรอกนะ
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่กำแพงบ้านพวกนางเสร็จแล้ว สวยงามตามรูปแบบดั้งเดิมผสมกับรูปแบบกำแพงแบบของนาง ที่บอกได้เลยมาที่นี่ยังไม่มีใครทำแน่นอน ยืนยันอีกเสียงจากนายช่างผู้คุมงาน เมื่อกำแพงเสร็จแล้วนายช่างก็เข้ามาพูดคุยกับท่านพ่อนิดหน่อย จนคำถามที่ว่าพวกนางจะสั่งป้ายหน้าจวนเลยไหมพวกเขาจะทำให้ในราคาพิเศษ
“ป้ายจวนถ้านายท่านสั่งตอนนี้พวกข้าก็จะทำให้ในราคาพิเศษเลยนะ รับรองออกมาสวยดูดีแน่นอน” นายช่างเอ่ยเสนอโน้มน้าวจิ้นสิงออกมาให้สั่งงานชิ้นต่อไป
“เอ่อ เรื่องป้ายจวนก็ถือว่าสำคัญ แต่ไม่รู้จะเขียนป้ายว่าอะไร” จิ้นสิงตอบออกไป
“ก็สกุลของพวกเจ้ายังไงเล่า” นายช่างตอบกลับไปอย่างขัดใจกับสิ่งที่เขาตอบกับตน บ้านไหนๆก็ใช้ชื่อสกุลหรือตระกูลตนเองในการทำป้ายหน้าจวนทั้งนั้น เขาจะต้องคิดอะไรมาก
“พวกเราไม่มีสกุลหรอกเจ้าค่ะ เราเป็นบ่าวมาก่อน จึงไม่ได้สนในเรื่องสกุล” ลี่จูอธิบายออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ
“เช่นนั้นก็คิดสกุลใหม่ก็ได้ แล้วค่อยไปสั่งทำป้ายกับที่ร้าน ข้าจะรอขอรับ” หลังนายช่างได้ยินลี่จูบอกออกมาเขาก็ไม่อยากชวนคุยไปมากความกลัวพวกเขาจะเศร้ากับชีวิตไปกว่านี้
“งั้นข้าจะไปส่งท่านหน้าจวน” จิ้นสิงบอกพร้อมเดินนำนายช่างไปทางประตูของจวนที่ทำจากไม้เปิดเข้ามาด้านใน ข้างบนประตูเป็นหลังคากระเบื้องยื่นออกมาเล็กน้อยเหมือนกับจวนอื่นมีกัน
“ท่านแม่เราไม่มีสกุลหรือเจ้าคะ” ชิงเถาถามด้วยความสงสัย เรื่องนี้นางก็ไม่ได้นึกเอะใจมาก่อน ถึงว่าพวกนางก็มีแต่ชื่อกัน
“ใช่แล้วลูก” ลี่จูตอบรับบุตรสาว
“แล้วสกุลเก่าของท่านพ่อกับท่านแม่ไม่มีหรือเจ้าคะ” ชิงเถาเริ่มซักถามออก คนเรามีพ่อมีแม่จะยากดีมีจนก็ต้องมีสกุลสิ
“ท่านย่าเอ่อ ท่านยายทวดของเจ้าพาท่านแม่เข้ามาเป็นบ่าวรับใช้ตั้งแต่เด็กแล้ว ที่ใช้เรียกก็มีแต่ชื่อ แม่เคยถามอยู่ครั้งหนึ่งว่าสกุลของเราคืออะไร แต่แม่จำไม่ค่อยจะได้ นี่ก็ผ่านมานานแล้ว” นางลี่จูกล่าวถึงเรื่องราวให้ลูกสาวฟัง หลังจากลี่ถิงได้ยินเรื่องที่นางเล่าก็เข้ามาฟังด้วย
“แล้วสกุลอะไรหรือเจ้าคะ” ชิงเถาเร่งถามออกมานางอยากรู้แล้ว
“ไม่ จือ ซื่อ ก็น่าจะสือ น่ะลูก แม่ไม่แน่ใจ” นางลี่จูพูดออกมา ตอนที่ถามท่านย่าของนางก็แก่มากแล้วเสียงที่เปล่งออกมาก็ไม่ชัดเจน อีกทั้งนางก็ยังเด็กทำให้ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
“อย่างนี้นี่เอง แล้วท่านพ่อล่ะเจ้าคะ” ชิงเถายังสอบสวบต่อไป
“พ่อเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน ก่อนที่จะเจ้ามาทำงานในจวนตอนอายุได้ 13 ปี พ่อไม่มีหรอกลูกสกุลหน่ะ” จิ้นสิงที่เดินออกไปส่งนายท่านกลับมาได้ยินบุตรสาวกำลังถามเรื่องตนขึ้นจึงตอบออกไปแทนภรรยาที่กำลังจะเล่า
“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ ดังนั้นเราก็ไม่มีสกุลอย่างแท้จริง” ลี่ถิงเอ่ยขึ้นเนื่องจากทั้งฝ่ายบิดามารดาก็ไม่มีสกุลที่พอจะใช้ต่อได้เลย
“ไม่มีเราก็ตั้งขึ้นเองสิเจ้าคะ” ชิงเถาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“สกุลใช่จะตั้งกันง่ายๆ เสียที่ไหน เกิดไปซ้ำกับตระกูลใหญ่โต เราอาจจะเจอปัญหาใหญ่ได้” จิ้นสิงเอ่ยเตือนออกมา เพราะเรื่องนี้หาใช่เรื่องเล็กที่ไหนกัน หากทำอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ครอบครัวพวกเขาได้เจอเรื่องคิดหนักแน่
“ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ เชื่อมือลูก ให้ลูกสาวคนนี้จัดการนะเจ้าคะ” ชิงถาส่งสายตากระพริบปริบๆ ไปให้ผู้เป็นพ่อแม่ เนื่องจากเรื่องนี้นางอยากคิดเองจริงๆ ชาติก่อนเกิดมาชื่อสกุลก็มีให้แล้ว มาชาตินี้มีเพียงชื่อมีโอกาสได้ตั้งสกุลตัวเองอย่างนี้นางจะพลาดได้อย่างไร
“เจ้าว่าอย่างไรจูเออร์” จิ้นสิงหันไปถามความคิดเห็นจากภรรยา
“ให้ลูกลองดูก็ไม่เสียหายเจ้าค่ะ เราค่อยมาตัดสินใจอีกที” นางลี่จูตอบกลับ เนื่องจากนางเห็นความกระตือรือร้นในตัวลูกสาวคนนี้จึงไม่อยากจะขวางทางนางนัก
“เช่นนั้นก็ตามแม่เจ้าว่า ลองคิดไว้ก่อน พ่อแม่จะตัดสินใจอีกที” จิ้นสิงเอ่ยสรุปออกมา
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านทั้งสองผิดหวัง” ชิงเถาตอบกลับยิ้มๆ ด้วยความเริงร่า
