ตอนที่ 3
ไคลน์ทิน | 03 จูบแรก
“นี่เหรอครับบ้านเพื่อน”
เฮือก!!
มินิสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง ก่อนจะพยายามพยุงร่างกายตัวเองให้ค่อย ๆ หันไปสบตากับเขาช้า ๆ
“ขอโทษที่โกหกค่ะ อย่าบอกเฮียเลยนะ”
“ขึ้นรถครับ”
“สัญญาก่อน ว่าจะไม่บอกเฮีย”
มินิเอ่ยขึ้น ก่อนจะถือวิสาสะใช้แขนทั้งสองข้าง กอดคอชายหนุ่มพร้อมกับจ้องมองสายตาคู่คม ลมหายใจของทั้งคู่รดจรดจมูกของฉันและกัน หัวใจเจ้ากรรมของมินิกระหน่ำเต้นอย่างหนัก เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงที่จะทำแบบนั้น แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ร่างกายค่อย ๆ เสียความควบคุมไปโดยปริยาย
“สัญญากับหนูมาก่อน ว่าจะไม่บอกเฮีย”
“ผมจำเป็นต้องบอกครับ”
“ทำไมต้องบอก แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ได้เหรอ”
“มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากครับ”
อึก!อืม~~
ไม่ปล่อยให้บอดี้การ์ดหนุ่มได้เอื้อนเอ่ยคำพูดใดมากไปกว่านั้น ริมฝีปากของหญิงสาวประกบเข้าหาชายหนุ่มทันที ความไม่ประสีปะสาของเด็กสาวทำเอาบอดี้การ์ดหนุ่มอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อมินิพยายามสอดเรียวลิ้นตัวเองเข้ามาในโพรงปากเขา
“คุณหนู...หยุ~~อืม”
มินิอาศัยจังหวะที่ไคลน์ทินนั้นเผยปากเอ่ยชื่อเธอ ค่อย ๆ สอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากเขาได้สำเร็จ เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในการจูบ แต่ก็พอได้เห็นจากในซีรีส์อยู่บ้าง นานนับสิบนาทีกว่าเด็กสาวจะยอมถอนจูบ
“ถ้าพี่บอกเฮีย หนูก็จะบอกว่าเรายืนจูบกันที่นี่ ตรงนี้”
“นี่คือวิธีปิดปากผมเหรอครับ”
“พี่บีบให้หนูต้องทำ”
“เข้าใจแล้วครับ”
ไคลน์ทินเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยาก่อนจะเปิดประตูรถตัวเองให้หญิงสาว
“หนูไม่อยากกลับบ้าน”
“นายไม่อยู่ครับ ไปมาเก๊าสามวัน”
“ไปกับใครคะ”
“คุณเควินครับ คาดเข็มขัดด้วยครับ”
“ไม่เอาอึดอัด”
มินิเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเมามาย ก่อนที่ไคลน์จะปลดเข็มขัดตัวเองออก และขยับตัวเข้าไปดึงเข็มขัดให้เธอ ทว่าส่งผลให้ใบหน้าของเขาและเธอห่างกันเพียงแค่คืบ มินิรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่เป่ารดลงมาไคลน์ทินเองก็เช่นกัน
สองชายหญิงสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเป็นมินิ ที่เป็นฝ่ายประกบริมฝีปากเข้าหาบอดี้การ์ดหนุ่ม และครั้งนี้เองไคลน์ทินก็ไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป ริมฝีปากหนาบดขยี้เข้าใส่คนใต้ร่างอย่างช่ำชอง เรียวลิ้นตวัดหยอกเย้าแลกน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีใครยอมใคร มืิอหนาค่อย ๆ ปรับเบาะรถให้เอนลง ในขณะที่ริมฝีปากยังคงบดเบียดขบเม้นกลีบปากและเรียวลิ้นของมินิ ใบหน้าคมคายค่อย ๆ ซุกไซร้ลำคอระหงพร้อมกับขบเม้มสร้างรอยรักจาง ๆ ชุดเกาะอกตัวบางค่อย ๆ ถูกกระชากลงไปใต้ราวนม ส่งผลให้หน้าอกใหญ่ที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสดีดเด้งออกมา ไคลน์ทินไม่รอช้าฉกริมฝีปากเข้าหาทันทีก่อนจะดูดกลืนอย่างหื่นกระหายและดุดัน
“อ๊า!!
พรืบบ!!!
เสียงหวานที่ครางระงมออกมา ส่งผลให้บอดี้การ์ดหนุ่มได้สติและผละลำตัวออกจากร่างคนเป็นนายตัวเองทันที
“ผมขอโทษครับ คุณหนูคงเมามาก แต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง เมื่อครู่เขาเกือบได้ทำเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิต แม้จะไม่ได้ถึงขั้นสอดใส่ แต่ก็ถือว่าได้ล่วงเกินเธอไปแล้ว
มินิค่อย ๆ รวบรวมสติก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยดังเดิม
มือบาง ๆ ค่อย ๆ ลูบใบหน้าตัวเองเพื่อรวมรวบสติ ก่อนที่รถสปอร์ตคันหรูจะขับเคลื่อนไปยังคฤหาสน์รามานอส ระหว่างทางไร้ซึ่งคำพูดใดใดจากทั้งสองคน มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังเป็นระยะ
ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงคฤหาสน์รามานอส มินิก้าวลงจากรถทันที โดยไม่พูดจาใดใดออกมา ไคลน์ทินจ้องมองเด็กสาวเพียงนิด ก่อนจะขับรถจากไปในทันที ระหว่างทางเขาเองก็คิดไม่ตก และคิดว่าเด็กสาวคงเมามาก แต่ที่น่าสับสน คือเขานั้นมีสติครบถ้วน ทำไมถึงไม่หักห้ามใจ หากทุกอย่างเลยเถิดไปมากกว่านี้เป็นยังไง
@คอนโดมิเนียมไคลน์ทิน
ทันที ที่มาถึงห้องไคลน์ทินรีบหยิบกระป๋องเบียร์ภายในตู้เย็นมาดื่มทันที เพื่อดับความคิดภายในหัว แต่เมื่อกระป๋องแล้วกระป๋องเล่าก็ไม่สามารถลบภาพจำเมื่อครู่ได้สักที แต่กลับชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ เรือนร่างที่ขาวเนียนบวกกับหน้าอกใหญ่และจุกที่อมชมพูนั้น มันทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มแทบคลั่ง เพราะเธอคือสาวแรกแย้มไม่แปลกที่เขาจะคลั่งได้ขนาดนี้
[ด้านมินิ]
ทันทีที่มาถึงห้อง หญิงสาวก็รีบรวบรวมสติของตัวเองทันที ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ร่องรอยแดงบนลำคอตัวเอง มือบางค่อย ๆ ถอดตัวเองออกช้า ๆ เผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่า เธอก้มมองบริเวณบริเวณปลายยอดปทุมถันของตัวเอง ก่อนจะสัมผัสมันช้า ๆ
“อ๊ะ! เจ็บ”
ร่องรอยขบเม้มของไคลน์ทิน ส่งผลให้ปลายยอดปทุมถันของเธอนั้นบวมเปล่ง และเกิดรอยแดง
“บ้าชะมัด! มินิ เธอทำเรื่องหน้าอายแบบนั้นได้ยังไง”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นกับตัวเองด้วยท่าทีประหม่า เมื่อเผลอทำอะไรขาดสติ และไม่รู้ว่าถ้าผ่านคืนนี้ไปเธอจะกล้ามองหต้าเขาอยู่ไหม
“บ้าชะมัด!”
ครืดดด....ครืดดด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้มินิลืมเรื่องภายในหัวไปชั่วขณะ
“ว่าไงแก”
“เป็นไงบ้าง”
“เดล.... ฮือออ ฉันเมาแล้วรั่วอีกแล้ว เผลอทำอะไรต่ออะไรใส่พี่เค้า”
“อืมม ฉันแล้ว”
“เห็น!”
“เห็นเธอจูบเขาที่ลานจอดรถ”
“เห้อ!!”
มินิถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง ที่เผลอทำอะไรไร้ยางอายแบบนั้นออกไป
“เธอ...ฉันทำไงดี”
“แกล้งลืม? เธอต้องทำเหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“หรอ มันจะโอเคใช่ไหม ฮือออ บ้ามาก ฉันอยากจับหัวตัวเองโขกกับผนัง น่าอายชะมัด”
“แค่จูบเอง ไม่เป็นไรหรอก”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ”
มินิเอ่ยขึ้นอย่างไม่เต็มเสียงนัก ก่อนเสียงตวาดจะดังขึ้นจากคนปลายสาย
“ห๊ะ!! อย่าบอกนะว่าบนรถ.... แกได้กับเขา!!”
“ไม่ใช่....แค่เกือบ!”
“ถึงขั้นไหน!!”
“ก็...จูบ..แล้วก็.ดูดนม”
“มินิ!! ทำไมปล่อยตัวปล่อยใจตัวเองขนาดนั้น!”
เดลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ เมื่อรับรู้ว่ามินิเผลอทำเรื่องน่าอายแบบนั้นต่อหน้าคนที่ตัวเองแอบชอบ
“เขาต้องคิดว่าฉันเป็นคนใจง่ายแน่ ๆ เลย แต่ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้อ่ะ เห้อออ...!! ฉันจะทำยังไงดี”
เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวคิดไม่ตกเกี่ยวกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
“ก็ทำตามที่ฉันบอก ตีมึนไปเลยเขาอาจจะคิดว่าเธอเมา แล้วจำอะไรไม่ได้ก็ได้นะ”
“ฉันจะพยายามแล้วไง เห้อทำไมต้องเกิดเรื่องบ้าอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย”
สองสาวพูดคุยกันต่าง ๆ นา ๆ เหมือนทุกวัน เมื่อเห็นว่ามินิเริ่มรู้สบายใจจึงเดลจึงขอตัววางสายทันที
“เอาวะ! แกล้งลืมไปแล้วกัน”
หลายชั่วโมงผ่านไป....
ร่างบางยังคงขยับตัวไปมาแม้ว่าเธอจะพยามข่มตานอนหลายต่อหลายครั้ง ทว่าภาพเหตุการณ์เหล่านั้น ยังคงฉายซ้ำและวนอยู่ในหัวของเธอตลอดทั้งคืน ภาพของเขาที่สบตาเธอ จูบเธอ หรือแม้แต่สัมผัสลงเนื้อผิวเธออย่างลึกซึ้ง
“กรี๊ดดด!!! หยุดคิดสักทีมินิ”
มินิหยิบหมอนขึ้นมากรี๊ดเพื่อทำลายความคิดภายในหัวตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายแล้วภาพจำเหล่านั้นยังคงชัดเจน.....
