ตอนที่ 4
ไคลน์ทิน | 04 เจอหน้าอีกครั้ง
สามวันผ่านไป...
แม้จะผ่านไปหลายวันทว่าความรู้สึกนั้นยังคงตราตรึงภายในใจของหญิงสาว หลายวันที่ผ่านมาเธอเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเพราะกลัวว่าจะบังเอิญเจอเขาภายในบ้าน
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!
เฮือก!!
มินิสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“นายกลับมาแล้วค่ะ นายให้ลงไปทานข้าวด้วยกันค่ะ “
“ทราบแล้วค่ะ เดี๋ยวตามลงไปนะคะ”
มินิสูดหายใจอย่างอยากลำบาก หากพี่ชายเธอกลับมาแน่นอนว่าบอดี้การ์ดของเขาต้องอยู่ที่นี่ หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปที่หน้าจก ก่อนจะสำรวจร่องรอยต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ จางหายไปแล้วหากไม่สังเกตดี ๆ ก็คงไม่รู้ว่าคือรอยอะไร
แกรก!
เฮือก!!
“นายให้ผมมาตามคุณหนูครับ”
มินิอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ทั้งที่หลบหน้าเขามาตลอดหลายวัน แต่กลับเจอเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกจากประตู
“ทราบแล้วค่ะ”
มินิเอ่ยตอบด้วยท่าทีเรียบนิ่ง และพยายามควบคุมสติตัวเองให้นิ่งที่สุด เธอจะทำเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นตามแผนที่เพื่อนของเธอวางเอาไว้
“หลบหน่อยค่ะ หนูจะลงไปแล้ว”
ร่างกายกำยำค่อย ๆ เลี่ยงไปอีกทางเพื่อให้มินิได้เดินออกไปจากห้อง กลิ่นกายประจำตัวหญิงสาวเขาจำมันได้อย่างดี เพียงแค่เดินผ่านภาพในคืนนั้นก็ฉายวนซ้ำเข้ามาในโสตประสาทของเขาและเธอ มินิชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็รีบเดินออกไป เพราะกลัวว่าเขานั้นจะจับได้ว่าเธอนั้น ไม่เคยลืมเรื่องราวเหล่านั้นได้เลยสักวัน....
” มาแล้วค่ะ “
ครูซจ้องมองน้องสาวเพียงคนเดียวด้วยสายตาเรียบนิ่ง เมื่อได้รับรายงานจากสาวใช้ในบ้านว่ามินินั้นไม่ลงมาทานข้าวเลยตั้งแต่เขาไปทำงาน
“ขอโทษที่ให้รอนะคะ”
มินิเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินย่างกรายไปนั่งข้าง ๆ พี่ชายตัวเอง ทว่าอยู่ ๆ บอดี้การ์ดหนุ่มก็เดินมายืนตรงข้ามเธอ พร้อมกับจ้องมองไม่วางตา
ครืด...ครืด...
ครูซตวัดสายตามองน้องสาวตัวเอง ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงดุดัน
“มารยาทบนโต๊ะอาหาร ลืมไว้ที่อิตาลีเหรอ?”
“ขอโทษค่ะ”
มินิกดปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือตัวเองทันที พี่ชายเธอเป็นคนที่เนียบและตรงต่อเวลาทุกอย่างภายในบ้านต้องเปะ บางที่เธอก็อึดอัดไปบ้าง แต่ก็เริ่มเข้าใจเมื่อโตขึ้น
“งานที่นี่เป็นไงบ้าง”
“ก็โอเคนะครับ ไม่มีปัญหาอะไร”
“ไม่ใช่มัวแต่เมา แล้วไปล่อกินนมสาวที่ไหนไม่ทำงานทำการนะมึง”
อึก!แค่ก!!
มินิสำคักข้าวหน้าดำหน้าแดง เมื่อได้ฟังประโยคเมื่อครู่จากปากพี่ชายตัวเอง
“ครับ มีบ้าง”
อึก!
มินิกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก เธอก้มมองอาหารตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มนั้นไม่แม้แต่ปฏิเสธออกไป
“วันนี้หนูจะออกไปชอปปิ้งนะคะ”
“วันนี้ไอ้ไรล์มินมันลา ให้ไคลน์ทินไปแทน”
“หนูไปคนเดียวก็ได้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่ไปลองชุดที่สั่งไว้”
"เฮียเพิ่งชนะการประมูลเกาะมา ช่วงนี้จะอันตรายมาก ถ้าจะไปคนเดียวไม่ต้องไป”
“เผด็จการที่สุด!”
มินิเดินขึ้นไปบนห้องตัวเองด้วยท่าทีหงุดหงิด ก่อนจะเดินลงมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างและโทรศัพท์มือถือคู่ใจ
แวบนึงเธอเห็นสายตาของไคลน์ทินที่จ้องมองมา แต่ก็ทำได้เพียงไม่สนใจเหมือนทุก ๆ ครั้ง เพราะกลัวว่าเขาจะจับได้ ว่าเธอรู้สึกยังไง
มินิเดินย่างกายเข้าไปในรถด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดพร้อมกับนั่งเงียบ ๆ ไม่พูดจาและทำเหมือนว่าเธอกำลังโมโหอยู่ แม้ว่าหัวใจเจ้ากรรมจะกระหน่ำเต้นอย่างหนัก เมื่อได้อยู่กับไคลน์ทินภายในรถแค่สองคนอีกครั้ง
“ห้างเดิมใช่ไหมครับ”
“ค่ะ”
มินิเอ่ยตอบด้วยท่าทีปกติ ก่อนจะนั่งเงียบ ๆ และหันใบหน้าไปที่กระจก
“เรื่องคืนนั้น...ผมขอโทษนะครับ ถึงคุณหนูจะเมา แต่ผมปกติทุกอย่าง ผมไม่น่าทำแบบนั้นเลย”
“ทำอะไรคะ หนูไม่เห็นจำได้เลย”
มินิเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก และแสร้งแกล้งทำว่าไม่รู้เรื่องรู้ราว ทั้งที่ภายในใจไม่เคยลืมสัมผัสของเขา
“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำหรอกครับ เอาเป็นว่าผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ”
“หนูรับคำขอโทษเป็น เค้กไอติมค่ะ”
“แบบนั้นก็ได้ครับ”
ไคลน์ทินเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเด็กสาวนั้นพยายามทำตัวเป็นปกติ ทั้งที่คืนนั้นเธอก็พอจะมีสติอยู่บ้าง
@ห้างสรรพสินค้า
มินิเดินย่างกรายเข้าไปในชอปแบรนด์เนมหรู ตามที่ได้นัดเอาไว้ ไคลน์ทินเองก็ตามไปติด ๆ ในที่สาธารณะ เขาจะคาดสายตาเธอไม่ได้แม้สักนาทีเดียว
“สวัสดีค่ะ คุณมินินตา นะคะ ชุดมาถึงแล้ว เดี๋ยวลองที่ห้องลำลองด้านหลังได้เลยค่ะ”
“ค่ะ”
มินิเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีตื่นเต้น เมื่อชุดที่ตัวเองรอคอยมาถึงร่างบางเดินย่างกรายเข้าไปในห้องทันที ก่อนจะตามด้วยร่างของไคลน์ทินที่ตามมาติด ๆ ซึ่งมินิก็คุ้นชินเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่เด็กจนโตพี่น้องฝาแฝดอย่างไรล์มินและไคลน์ทินก็ตามติดชีวิตเธอมาตลอด
“ฝากกระเป๋าหน่อยนะคะ”
มินิยื่นกระเป๋าราคาแพงให้บอดี้การ์ดหนุ่ม ก่อนจะเดินย่างกรายเข้าไปในห้องเพื่อลองชุด ชุดเดรสเกาะอกทรงรัดเรือนร่างสีดำตัดแดงไวน์ตามที่เธอเลือกไว้ทุกอย่าง มินิจ้องมองชุดด้วยความรู้สึกพอใจในความสวยงามของมัน ก่อนจะจัดการถอดเสื้อผ้าออก เพื่อลองชุด
ใช้เวลาเพียงไม่นานชุดเดรสราคาหลายแสนก็ปรากฏอยู่บนเรือนร่างของเธอดุจเจ้าหญิง มินิหันซ้ายหันขวาเพื่อเช็คความเรียบร้อย จึงคอนเฟิร์มกับทางร้าน
“สวยมาก สมกับราคาที่จ่ายไป”
เด็กสาวเชยชมตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ด้านใน ก่อนจะค่อย ๆ รูดซิบจากทางด้านหลัง แต่เหมือนว่าแขนของเธอสั้นเกินไปทำให้ไม่สามารถรูดเหมือนตอนแรกได้ มินิพยายามอยู่หลายครั้ง แต่เหมือนทุกครั้งมันจะยากมากขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่คะ ช่วยหน่อย”
ทันทีที่เด็กสาวขอความช่วยเหลือไคลน์พุ่งตัวเข้าชาร์จทันที ก่อนจะเห็นว่าเด็กสาวพยายามดึงชุดตัวเองอยู่
“หนูรูดซิบลงไม่ได้ช่วยหน่อยค่ะ”
“ครับ”
ไคลน์ค่อย ๆ วางกระเป๋าของเธอช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมือขึ้นมาที่แผ่นหลังขาวเนียนของเธอ
มือหนาค่อย ๆ ดึงซิบลงช้า ๆ แต่เหมือนว่าชุดของเธอมันพอดีเกินไปส่งผลให้ซิบนั้นกินเนื้อผ้าบางส่วนไป
“อยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนจะรูดซิบลงช้า ๆ ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดแผ่นหลังหญิงสาวเป็นระยะทำเอามินิขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
ไคลน์ทินเองก็เช่นกัน กลิ่นกายของมินิทำเอาบอดี้การ์ดหน้าคมอดจะที่นึกถึงช่วงเวลาที่ได้สัมผัสเธอไม่ได้
ว้าย!!
ทันทีที่ซิบถูกรูดลงส่งผลให้หน้าอกใหญ่ดีดเด้งออกมา มินิรีบคว้าชุดเอาไว้เพื่อปกปิดเรือนร่าง แต่ก็ปิดได้เพียงส่วนล่างไคลน์ทินต้องมองหน้าอกใหญ่ด้วยความบังเอิญ ก่อนจะตกใจกับปลายยอดปทุุมถันที่บวมแดง
“เดี๋ยวครับ”
มือหนาค่อย ๆ หมุนร่างเด็กสาวหันมาเผชิญหน้ากัน ก่อนจะจ้องมองยอดอกสีหวาน ที่ทั้งบวมและแดง ด้วยความที่ห่างเรื่องอย่าว่ามานานหลายปี ทำให้เขาเผลอดูดกลืนเธอรุนแรงตามสันชาตญาณดิบเถื่อนของตัวเอง
” เจ็บมากไหมครับ “
” ไม่ค่ะ ไม่เจ็บ “
มินิเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเขินอายเมื่อถูกจ้องมองหน้าอกใหญ่นานนับสิบนาที
” ขอโทษครับ ที่คืนนั้นดูดนมคุณหนูแรงเกินไป “
อือ...
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”
มินิรีบใช้มืออีกข้างปิดปากคนอายุมากกว่าทันที เมื่อชายหนุ่มเริ่มพูดจาลามกออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไคลน์ทินจ้องมองดวงตาสีนิลครู่หนึ่ง ราวกับต้องมนต์สะกดมินิคือผู้หญิงที่สวยมาก เพียงแต่เธอเด็กเกินไปและสูงส่งเกินกว่าจะมาแปดเปื้อนจากคนอย่างเขา....
