บท
ตั้งค่า

เข้าวัง

แทนที่แม่ทัพหนุ่มจะรีบเข้านอนเหมือนที่ควรจะเป็น ทว่าเขากลับขมวดคิ้วเข้าหากันราวกับมีเรื่องให้คิดเสียมากมายกว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็เป็นเวลาดึกดื่น เขาถึงได้ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

รุ่งสางของอีกวันบ่าวรับใช้คนสนิทได้เรียกเข้าอยู่หน้าห้องเพราะมีเรื่องด่วน

“มีอันใดหรือ ทำไมถึงมาปลุกข้าตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้” เขาถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“มีคนจากในวังมาขอรับ ฮ่องเต้มีรับสั่งให้ท่านเข้าวัง”

ทันทีที่ได้ยินคำตอบ เขารู้ได้ทันทีว่าวันนี้ต้องเกิดอะไรขึ้น ออกรบครานี้แม้จะได้ชัยชนะกลับมา ทว่าต้องแลกกับชีวิตของทหารมากมายรวมทั้งชีวิตของบิดาเขาด้วยเช่นกัน เห็นทีเข้าวังครั้งนี้คงมีเรื่องไม่ดีมากกว่าเรื่องดีแล้วกระมัง

“เจ้ารีบไปเตรียมตัวเถิด” เขาสั่งหลี่จื้อ จากนั้นปิดประตูห้องเพื่อเตรียมตัวเข้าวังเช่นกัน

ในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความตึงเครียด ขุนนางน้อยใหญ่ต่างถกเถียงกันไปมา มิใช่เรื่องอื่นนั่นคือเรื่องบิดา ผู้ล่วงลับของเขา

“ฝ่าบาท แม้หลิงอี้จะตายไปแล้ว แต่เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของเขาทำให้พวกเราเสียทหารไปนับหมื่นคน หากไม่ลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่างวันข้างหน้าอาจมีคนกระทำผิดซ้ำก็เป็นได้”

“ฝ่าบาท ได้โปรดลงโทษแม่ทัพใหญ่หลิงอี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางเกือบครึ่งเอ่ยพร้อมกัน

“พวกเจ้าจะให้ข้าลงโทษเช่นไร ตอนนี้แม่ทัพหลิงก็ตายไปแล้ว”

“แม้แม่ทัพหลิงอี้จะตาย แต่ลูกชายของเขายังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าจางออกความเห็น ทำให้ฮ่องเต้เริ่มรู้สึกหวั่นใจ ทันใดนั้นเองเสียงของเจิ้งกั๋วกงได้พูดขึ้นกลางท้องพระโรงว่า

“แม้ว่าหลิงอี้จะมีความผิดที่ทำให้ทหารตาย แต่เพราะลูกชายของเขาศึกครั้งนี้แคว้นของเราถึงได้ชัยชนะกลับมา กระหม่อมขอออกความเห็นได้หรือไม่” บุรุษวัยชราถามประมุขที่นั่งอยู่หน้าบนบัลลังก์

“เชิญเจิ้งกั๋วกงพูดมาได้เลย”

“กระหม่อมเห็นสมควรว่าให้ลดตำแหน่งแม่ทัพหลิง เหยียนจากขุนนางขั้นสามเป็นขุนนางขั้นหกดีหรือไม่”

“เจิ้งกั๋วกงพูดเช่นนี้เป็นเพราะตระกูลของท่านเกี่ยวดองกับตระกูลหลิงล่ะสิท่า” ใต้เท้าจางไม่วายพูดเหน็บแนม ในที่นี่มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าหลิงเหยียนผู้นี้เป็นหลานเขยของตาเฒ่าจากจวนกั๋วกง

“ถ้าอย่างนั้นใต้เท้าจางลองเสนอฝ่าบาทเถิดว่าควรลงโทษตระกูลหลิงอย่างไรถึงจะเหมาะสม”

“ออกรบถือว่าเป็นหน้าที่ของบุรุษไม่ใช่กระทำเพราะหวังความดีความชอบ ตระกูลขุนนางอย่างพวกเราใช่ว่าจะไม่ได้ไปร่วมออกรบด้วยเสียเมื่อใด”

“ใต้เท้าจาง ท่านอย่ามัวแต่พูดจาเวิ่นเว้ออยู่เลย ท่านอยากให้ฝ่าบาทลงโทษแม่ทัพหลิงยังไงจงพูดออกมาตามตรงเถิด” รองเจ้ากรมฟ่านที่ไม่อยากทนฟังคำพูดวกไปวนมาของจางเฉวียนแทรกขึ้น

“ควรโบยท่านแม่ทัพหลิงเฉียนร้อยที แล้วเนรเทศให้ไปเฝ้าชายแดนดีหรือไม่”

“ข้ารับราชการมาตั้งนาน เพิ่งจะเคยเห็นคนอำมหิตตามืดบอดที่เห็นแต่ความผิดพลาดของผู้อื่นอย่างใต้เท้าจางก็วันนี้นี่เอง”

“นี่เจ้ากล้าว่าข้าต่อหน้าฮ่องเต้เชียวรึ!”

“เงียบปากกันให้หมด!” เสียงทรงอำนาจเอ่ยเสียงดัง ทำให้คนคนในท้องพระโรงต้องเงียบปากลงอย่างเสียมิได้

“ทำตามที่เจิ้งกั๋วกงว่า แม้ตระกูลหลิงจะมีความผิด แต่ก็มีคุณงามความดีเช่นกัน ข้าจะลดขั้นหลิงเหยียนจากขุนนางขั้นสามเป็นขุนนางขั้นหก และลงโทษให้อยู่แต่ในจวนเป็นเวลาครึ่งปี มีใครจะคัดค้านอีกไหม!”

ขุนนางใหญ่ทั้งหลายต่างก้มหน้าไม่ยอมปริปปากออกมาสักคำ ทำให้ขุนนางชั้นผู้น้อยไม่กล้าออกหน้าท้วงติง เรื่องลงโทษหลิงเหยียนถึงได้จบลงโดยปราศจากเสียงคัดค้าน

ที่เรือนใหญ่เต็มไปด้วยเหล่าคนรับใช้เข้านอกออกในกันจ้าละหวั่น ตามธรรมเนียมหากเจ้าของจวนเสียชีวิตผู้สืบทอดจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่แทนที่เจ้าของเดิม

“ฮูหยิน ข้าวของของนายท่านจะให้เอาไปไว้ที่ใดหรือเจ้าคะ”

“เอาไว้ที่เรือนจงชุ่ยก็แล้วกัน ของใช้ส่วนตัวและสมบัติของท่านพ่อให้ย้ายไปเก็บไว้ที่นั่นให้หมดเลย”

“เจ้าค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel