8
“ชาติที่แล้วแป๋งคงทำกรรมกับเขา ชาตินี้เขาเลยมาเอาคืน”
ปรียาภัทรหายใจฮึดฮัด “เราก็เป็นซะอย่างนี้ เชื่องมงายแต่กับเรื่องพวกนี้”
“แต่คิดอย่างนี้แล้วมันสบายใจไม่ใช่หรือ” เธอเถียง
“เกิดท้องขึ้นมาจะว่ายังไง” ปรียาภัทรพูดอย่างเหลืออด
“เขาใส่ถุงยางคงไม่เป็นอะไรหรอก...มั้ง” เธออ้างถึงหลักฐานคาตาที่เห็นจากถังขยะ
“แล้วรู้เหรอว่าเขาใส่ตอนไหน”
ปัทมนต์ชะงัก นั่นน่ะสิ ณวัตรใส่ตอนไหน เธอสลบนี่นา
“ปกติคุณไพรัชเขาใส่ตอนไหน เวลาจุด ๆ กับพี่ปรีล่ะ”
“ยายแป๋ง! ถามอะไรลามก” ปรียาภัทรหน้าแดงดุน้องสาว
“ก็...ไม่รู้จริง ๆ นี่ ตอนนั้นเมาจนหลับ” คนตัวเล็กบ่นอุบอิบ
“เอาเถอะ อย่าไปพูดถึงอีกเลย แป๋งมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อไร” เปลี่ยนเรื่องพูด คร้านจะอธิบายเรื่องใต้สะดือให้ฟัง
“ประมาณสามอาทิตย์ก่อน”
คนฟังเอามือทาบอก ตกใจ “ช่วงอันตรายเลยนะนั่น”
เธอสั่งขี้มูกใส่ทิชชู ก่อนเจ็ดหลังเจ็ดอะไรอีกล่ะ ปัทมนต์ไม่เข้าใจ ด้วยไม่ค่อยได้อ่านหนังสืออะไรเกี่ยวกับผู้หญิงหรือความสวยความงามสักเท่าไร กลัวอ่านแล้วติด ต้องเสียเงินซื้ออีก หนังสือพวกนั้นชอบถ่ายรูปเสื้อผ้า เครื่องสำอางสวย ๆ ทำให้เกิดกิเลสอยากได้อยากมี เธอจึงเลี่ยงไม่อ่าน
“รออีกสักเดือนสิ ถึงตรวจได้ว่าท้องชัวร์หรือเปล่า” พี่พึมพำ
“มะ...ไม่หรอกน่าพี่ปรี ซื้อมาตรวจเองก็ได้”
ปรียาภัทรปาดน้ำตาลุกขึ้นยืน “อาจไม่ชัวร์น่ะสิ ไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวอีกเดือนแป๋งต้องไปตรวจว่าท้องหรือเปล่า”
ตอนนี้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าทางกายก่อน เธอไม่ดุ ยุคสมัยปัจจุบันคนส่วนใหญ่มองว่าพรหมจารีไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินชีวิตทั้งหมดของผู้หญิง เธอคิดว่าตัวเองรับได้หากสักวันหนึ่งปัทมนต์ไปมีเพศสัมพันธ์กับใครสักคน แต่น้องควรมีกับคนที่รักจากใจจริง
เธอผ่านวัยสาวน้อยมาด้วยแรงขับทางเพศ เคยพบสังคมหรูและโสมมที่สุดมาแล้ว เธอกร้านและไม่สนใจใครมากไปกว่าน้อง ปรียาภัทรทะนุถนอมเลี้ยงปัทมนต์อย่างสุดกำลัง เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต โลกของน้องสงบ ใส สะอาด แต่วันนี้กลับมาย่อยยับเพราะความแค้นโง่เง่าของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
หญิงสาวไม่คิดไปถึงเรื่องกรรมอย่างที่เจ้าตัวอ้าง เธอเชื่อเรื่องเหตุผลักดันไปสู่ผลต่างหาก ทุกสิ่งเกิดด้วยเหตุ ปรียาภัทรบริภาษตนเอง
ถ้าเธอไม่มัวแต่กังวลเรื่องผู้ชายอย่างไพรัช ถ้าเธอห่วงปัทมนต์สักนิด โทรศัพท์หาสักหน่อยในคืนนั้น เรื่องร้ายกาจเช่นนี้คงไม่เกิด
“แป๋งทำอะไรก็คิดถึงพี่ เรามีกันอยู่สองคนพี่น้อง ต่อจากนี้แป๋งไปสปาหรือไปไหนมาไหนต้องไปกับพี่ พี่ไม่อยากปล่อยแป๋งไว้คนเดียว”
ปรียาภัทรมองปัทมนต์อย่างสำนึกผิด เธอกอดพี่แน่น สายสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดช่างอบอุ่น ไม่ว่ายามทุกข์หรือสุข ดีใจเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นน้องของผู้แสนดีอย่างปรียาภัทร
หนึ่งเดือนต่อมา
ปรียาภัทรทำอย่างที่พูดจริง ๆ ตามติดปัทมนต์ทุกฝีก้าว แม้แต่ตอนไปใส่บาตรเช้า ทุกครั้งเธอจะยกมือไหว้อธิษฐานให้ดวงวิญญาณป้าเพ็ญช่วยคุ้มครอง อย่าให้น้องคิดสั้น
ปัทมนต์เริ่มพูดคุยเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น แต่บางครั้งยังมีอาการเหม่ออยู่บ้าง เธอพาน้องไปสปาด้วยทุกวัน พยายามชี้ชวนดูโน่นนี่ ใช้ช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรเสริมความงามชนิดใหม่ ๆ ให้มีอะไรทำไปวัน ๆ ลดความฟุ้งซ่าน
ตอนกลางคืนก็หอบหมอนหอบผ้าห่มมานอนด้วย สองพี่น้องมักนอนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ดึกดื่นจนผล็อยหลับไปเอง
เช้าวันที่ครบหนึ่งเดือน ปัทมนต์ลุกขึ้นแต่เช้าทำกับข้าวใส่บาตรหลายอย่างจนพี่สาวทัก
“วันนี้มีแต่ของโปรดป้าเพ็ญทั้งนั้นเลย”
“แป๋งใส่บาตรติดสินบนน่ะ” เธอตอบ มือลำเลียงของบรรจุลงตะกร้าหวาย เตรียมไปใส่บาตรตลาดใกล้ ๆ คอนโด
“เรื่องอะไร” ปรียาภัทรเข้ามาช่วยอีกแรง
“ก็เรื่องที่เราจะไปวันนี้ไง” คนอ่อนวัยกว่าก้มหน้างุด ปรียาภัทรกอดปลอบใจ
“พี่บอกไม่เป็นไร มันต้องไม่เป็นไรสิ”
“ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ” ปัทมนต์ถามเสียงอู้อี้ กังวลใจกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
“ถึงตอนนั้นค่อยคิด ตอนนี้อย่ากังวลเลย ไปใส่บาตรกันเถอะ เดี๋ยวพระท่านไปบิณฑบาตที่อื่นเสียก่อน”
ทั้งสองเลือกไปตรวจร่างกายโรงพยาบาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งแถบชานเมือง ระหว่างพยาบาลให้ปัทมนต์ไปปัสสาวะเพื่อตรวจครรภ์นั้น เธอรู้สึกปวดท้องกะทันหัน และบางสิ่งก็ปรากฏออกมา
“พี่ปรี! พี่ปรี!” ปัทมนต์วิ่งหน้าตาตื่นร้องเรียกลั่น
“มีอะไรแป๋ง เรียกซะดังเชียว” ปรียาภัทรเอ็ด มองซ้ายมองขวากลัวเจอคนรู้จัก
“มาแล้ว มาแล้วพี่ปรี” น้องสาวรายงานละล่ำละลัก
“อะไรมา”
“ประจำเดือนแป๋งมาแล้ว”
“แน่ใจนะ”
“อื้อ ตอนนี้กำลังไหลเปื้อนกางเกงในอยู่เลย พี่ปรีมีผ้าอนามัยติดมาสักแผ่นหรือเปล่า”
“ยายแป๋ง! อย่าพูดดังไป” หญิงสาวรีบดึงมือเดินลิ่วไปหาร้านขายของ
ปัทมนต์ไม่เคยรู้สึกรักประจำเดือนตัวเองเท่านี้มาก่อน สงสัยอาหารใส่บาตรติดสินบนป้าเพ็ญจะได้ผล
