บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เกลี้ยกล่อม

บทที่ 2 เกลี้ยกล่อม

จางเหวิ่นชิงที่โกรธจัดจนเนื้อตาสั่นเทิ้ม ดวงตาแดงก่ำบ่งบอกถึงความอดทนที่ถึงขีดสุด เขาเงื้อมมือขึ้นอีกหนอย่างไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีก

“ท่านพี่...มีเรื่องอันใดก็ค่อยๆ คุยกันก่อนเถิด เหตุใดต้องลงโทษลูกเช่นนี้กัน” เซี่ยเหมยที่เพิ่งก้าวเข้ามาภายในห้อง นางเร่งฝีเท้าเข้ามารั้งแขนจางเหวิ่นชิงไว้ ก่อนจะรีบปรี่เข้าไปประคองร่างของจางหมินเย่วในทันที

“เย่วเอ๋อร์เจ้าเจ็บหรือไม่ เจ้าอย่าถือสาพ่อของเจ้าเลยนะ พ่อของเจ้าเพียงเป็นห่วงเจ้ามากเกินไปเท่านั้น” เซี่ยเหมยพูดพลางลูบหลังจางหมินเย่วไปมา พร้อมหันไปหาจางเหวิ่นชิงสามีของตน “ท่านพี่ก็ใจเย็นก่อนเถิด เย่วเอ๋อร์ยังเด็กนักจึงได้คิดทำตามอำเภอใจมากไปหน่อย ไว้ข้าจะพูดกับนางเอง” เซี่ยเหมยรีบหว่านล้อมจางเหวิ่นชิงในทันที ก่อนจะหันไปส่งสายตาปลอบใจจางหมินเย่วและพยักหน้าส่งสัญญาณให้จางหมินเย่วกลับห้องตนเองไปก่อน

“ข้าไม่กลับ วันนี้ข้าต้องคุยกับท่านพ่อให้รู้เรื่อง” จางหมินเย่วยังคงยืนกรานด้วยท่าทางที่หนักแน่นจริงจัง

“เจ้าดู...เจ้าดูลูกบังเกิดเกล้าของเจ้าสิ” จางเหวิ่นชิงถึงกับกระทืบเท้า นิ้วมือชี้ไปตรงหน้าจางหมินเย่ว พร้อมหันไปตะคอกใส่เซี่ยเหมย “เป็นเพราะฮูหยิน...เพราะเจ้าทีเดียวที่ตามใจลูกจนเสียคนเช่นนี้” จางเหวิ่นชิงยังมิวายหันมาโทษเซี่ยเหมยอย่างหาเรื่อง

“เหตุใดท่านพ่อต้องพาลต่อว่าท่านแม่ด้วยเล่า นับจากท่านแม่ของข้าจากไป ท่านแม่ก็คอยดูแลข้ามาโดยตลอด ท่านพ่อทำเช่นนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย” จางหมินเย่วร้องแหวออกมาเมื่อเห็นบิดาของตนพาลใส่มารดาเลี้ยงอย่างไม่เป็นธรรม

เซี่ยเหมยเป็นฮูหยินคนปัจจุบันของจวนสกุลจาง เดิมทีนางเป็นสาวใช้คนสนิทของฟางม่านเอ๋อร์ มารดาของจางหมินเย่ว ฟางม่านเอ๋อร์ตบแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินของจวนสกุลจาง นางได้รับความรักและความโปรดปรานจากจางเหวิ่นชิงเป็นอย่างมาก แต่เวลาผ่านไปกว่าสามปี ฟางม่านเอ๋อร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตั้งครรภ์ทายาทสกุลจางเสียที แม้ว่าจางเหวิ่นชิงจะไม่คิดถือสาหรือรังเกียจอันใด แต่ด้วยหน้าที่ของฮูหยินสกุลจางทำให้ฟางม่านเอ๋อร์คิดหาอนุเพื่อมารับใช้จางเหวิ่นชิง และเพื่อให้สกุลจางมีทายาทสืบทอดต่อไป

ตัวเลือกที่ฟางม่านเอ๋อร์พึงพอใจจึงตกไปที่เซี่ยเหมย นางยกสาวใช้คนสนิทขึ้นเป็นอนุของจางเหวิ่นชิง หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานเซี่ยเหมยก็ตั้งครรภ์ขึ้นมา นำพาความดีใจมาสู่คนสกุลจางอย่างถ้วนหน้า และเพียงสี่เดือนต่อมาสกุลจางก็ได้รับข่าวดีอีกครั้ง เมื่อฟางม่านเอ๋อร์ได้ตั้งครรภ์ในที่สุด จางเหวิ่นชิงทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจที่ภรรยาทั้งสองได้ให้กำเนิดบุตรแก่เขาในที่สุด

เซี่ยเหมยให้กำเนิดบุตรสาวคนโตของสกุลจาง นั่นคือจางเซี่ยโยว ส่วนฟางม่านเอ๋อร์ให้กำเนิดบุตรสาวคนรองคือจางหมินเย่ว หลังจากฟางม่านเอ๋อร์คลอดนางได้นาน ร่างกายของฟางม่านเอ๋อร์ก็อ่อนแอลงไปทุกวันๆ สุดท้ายฟางม่านเอ๋อร์ก็จากไปในที่สุด จางเหวิ่นชิงโศกเศร้าเป็นอันมากที่ภรรยาสุดที่รักจากเขาไปเร็วเช่นนี้ นับแต่นั้นจางเหวิ่นชิงก็มิได้รับอนุคนใดเข้ามาในจวนอีกเลย อีกทั้งยังยกเซี่ยเหมยขึ้นเป็นฮูหยินคนใหม่ของจวนสกุลจางอีกด้วย

เซี่ยเหมยรับหน้าที่ดูแลบุตรสาวทั้งสองคนให้เติบใหญ่ขึ้นมาพร้อมกัน เซี่ยเหมยค่อนข้างเอาใจใส่และตามใจจางหมินเย่วมากเป็นพิเศษ ทำให้นางมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส ค่อนข้างเอาแต่ใจตนเองและอารมณ์ร้อน ผิดกับจางเซี่ยโยวที่เซี่ยเหมยมักจะเข้มงวดกวดขันจนเรียกได้ว่าแทบไม่ผ่อนปรน ทำให้จางเซี่ยโยวค่อนข้างดูสุขุมและใจเย็น

จางเหวิ่นชิงถึงกับชะงักไปเมื่อได้ยินคำพูดของจางหมินเย่ว เขาทั้งรู้สึกละอายใจต่อฟางม่านเอ๋อร์และรู้สึกผิดต่อเซี่ยเหมย จางเหวิ่นชิงหันมองหน้าเซี่ยเหมยด้วยสายตาขอลุแก่โทษ

“เอาละๆ พวกท่านสองพ่อลูก ตอนนี้หากยังคงถกเถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เย่วเอ๋อร์เจ้ากลับไปที่เรือนก่อนไว้...เชื่อแม่” เซี่ยเหมยรีบกล่าวแก้สถานการณ์ที่ดูจะบานปลาย ก่อนจะดันตัวจางหมินเย่วให้ออกจากห้องไป นางยังมิวายแอบกระซิบข้างหูของจางหมินเย่ว “ไว้แม่จะเกลี้ยกล่อมพ่อเจ้าเอง เจ้ากลับไปรอฟังข่าวที่เรือนเจ้าก่อนเถิด”

จางหมินเย่วได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจยิ่งนัก นางหันมายิ้มกว้างพร้อมส่งสายตาขอบคุณมารดาเสียยกใหญ่

หลังจากที่จางหมินเย่วออกจากห้องไป เซี่ยเหมยก็ปิดประตูห้องอย่างแน่นหนา ก่อนจะก้าวเข้ามาคล้องแขนจางเหวิ่นชิงอย่างออดอ้อน “ท่านพี่...ท่านมานั่งพักให้คลายเหนื่อยก่อนเถิด” เซี่ยเหมยไม่พูดเปล่า นางประคองร่างสามีมานั่งที่โต๊ะ ก่อนจะรินน้ำชาให้เขาอย่างเอาใจ

จางเหวิ่นชิงที่ได้รับการปรนนิบัติจากภรรยาเช่นนี้ก็มีท่าทีอ่อนลง เขายกน้ำชาขึ้นจิบเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขายังคงมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ไม่หาย

เซี่ยเหมยขยับกายมานั่งด้านข้าง ก่อนจะยกมือขึ้นกอบกุมมือใหญ่เอาไว้ “ท่านพี่...ท่านก็รู้ดีว่าเย่วเอ๋อร์ดื้อรั้นเพียงใด หากท่านยังคงแข็งขืนเช่นนี้มิเท่ากับผลักให้ลูกของเราทำเรื่องราวไม่เกิดควบคุมหรอกหรือ” เซี่ยเหมยพูดพลางจ้องมองหน้าจางเหวิ่นชิงพลางอย่างรอให้เขาทบทวนคำพูดนาง

“อันที่จริงข้าก็ได้ยินเรื่องของใต้เท้าซ่งฟู่หลงอยู่บ้าง เขาทั้งหนุ่มแน่นแถมหน้าตาบุคลิกก็ไม่เป็นรองผู้ใด เรื่องตำแหน่งขุนนางนั้นหากได้ใต้เท้าซ่งเข้ามาเป็นเขยสกุลจาง ท่านเองก็สามารถส่งเสริมให้เขาก้าวหน้าได้อย่างไม่มีปัญหา เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านยังมีสิ่งใดต้องกังวลใจอีกหรือ” เซี่ยเหมยโน้มน้าวสามีอย่างเป็นเหตุเป็นผล

จางเหวิ่นชิงมองหน้าเซี่ยเหมยอย่างชั่งใจพลางถอนหายใจหนักออกมา แม้ว่าคำพูดของเซี่ยเหมยจะฟังดูมีเหตุผลชวนให้คล้อยตาม แต่เขาก็ยังคงขัดเคืองในตัวบุรุษผู้นี้อยู่เช่นเดิม “ฮูหยิน...ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี แต่หากม่านเอ๋อร์รู้ว่าข้าหาสามีที่ต่ำต้อยเช่นนี้ให้เย่วเอ๋อร์ นางคงนึกตำหนิข้าน่าดูทีเดียว” จางเหวิ่นชิงพูดพลาง ทอดสายตาเหม่อลอยคิดถึงหญิงสาวบนฟากฟ้าที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ทุกวี่วัน

เซี่ยเหมยชะงักค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ นางยิ้มหวานให้จางเหวิ่นชิงพร้อมลูบหลังมือไปมา “ท่านพี่...ข้ากลับคิดว่าหากนายหญิงรู้ว่าท่านสนับสนุนให้เย่วเอ๋อร์ได้สมหวัง นางจะต้องขอบคุณท่านเป็นแน่ทีเดียว”

“เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ ความสุขของเย่วเอ๋อร์ ย่อมต้องเป็นความสุขของนายหญิงเจ้าค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel