บท
ตั้งค่า

1.จับโจร

*** ทักทายคร้า***

ท่ามกลางความมืดมิดแห่งราตรีกาล ตำรวจสิบนายซึ่งนำโดยสารวัตรมือปราบชื่อดังของกองปราบปราม เบญจกุล อัครเสนา กำลังซุ่มดูการลักลอบขนย้ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ออกจากโกดังเก็บของของบริษัทไทม์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตสินค้าส่งให้กับบริษัทผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ยี่ห้อดังในเมืองไทย ดวงตาคมกริบของสารวัตรกวาดมองและสั่งลูกน้องบันทึกภาพไว้ทุกนาทีเพื่อเอาผิดกับคนร้าย

“ขนกันง่ายๆ แบบนี้คนในมีเอี่ยวชัวร์ครับสารวัตร”

ดาบชีพเอ่ยขึ้นมาลอยๆ แต่สายตายังจับจ้องชายฉกรรจ์หลายสิบคนที่กำลังช่วยกันแบกรังไม้ขึ้นรถสิบล้อที่จอดอยู่

“ทั้งของทั้งคนอยู่กันครบ รวบตัวเลยไหมครับสารวัตร” จ่าชูชัยที่หลบอยู่อีกข้างหันไปถาม

เบญจกุลยกริมฝีปากขึ้น ใบหน้าคมสันเรียบเฉย หากในความเงียบนั้นดาบชีพและจ่าชูชัยรู้ดีว่า แผนการทุกอย่างถูกประมวลผลอย่างดีด้วยประสบการณ์ของสารวัตรหนุ่ม

“พวกนี้แค่ปลาเล็กปลาสร้อยแหละดาบ รอสักพักเผื่อคนที่เราคาดไม่ถึงจะมาร่วมวงด้วย”

และเป็นไปตามคาด ไม่ถึงสิบนาทีรถกระบะสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนก็เข้ามาจอดเลยประตูทางเข้าไปไม่ไกล ชายร่างสูงใหญ่ใส่แว่นตาดำสามคนเดินลงมาจากรถ สารวัตรเบนหยิบกล้องส่องทางไกลที่ใช้งานได้ดีในช่วงกลางคืนออกมาจากกระเป๋ากางเกง จับภาพชายทั้งสามคนเอาไว้ได้ คิ้วหนาขมวดขึ้นอย่างสงสัยเพราะหนึ่งในสามเขารู้สึกคุ้นหน้าชอบกล ก่อนที่จะลดกล้องลงสายตาก็เหลือบไปเห็นเงาดำที่วูบไหวอยู่ข้างกำแพงอีกด้านหนึ่งของโกดังเก็บของ มือใหญ่ยกกล้องขึ้นมองอีกครั้ง ร่างสูงโปร่งสวมชุดดำรัดรูป ปิดบังใบหน้าด้วยหมวกไหมพรมสีเดียวกับชุด มีเพียงดวงตาคมสวยเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมาให้เห็น

“มีอะไรครับสารวัตร” เมื่อเห็นเจ้านายมองกำแพงอีกด้านนานผิดปกติ จ่าชูชัยจึงถามออกมาอย่างใคร่รู้

“มีคนชุดดำอีกคนแอบอยู่ข้างกำแพงฝั่งโน้น” เบญจกุลบอกพลางส่งกล้องคืนให้ดาบชีพแล้วให้สัญญาณเคลื่อนกำลังเข้าไปใกล้ แต่สายตาคมยังจับจ้องการเคลื่อนไหวของคนชุดดำที่มาใหม่อย่างไม่ให้คลาดสายตา

และร่างสูงโปร่งที่เรียกความสนใจของสารวัตรหนุ่มแท้จริงแล้วคือ กัณหา พงษ์เทวา ผู้บริหารไทม์กรุ๊ปที่ได้ข่าวการลักลอบขโมยของออกจากโกดังจากสายที่อยู่ในโรงงาน ดังนั้นคืนนี้เธอจึงแจ้งไปที่กองปราบเพื่อขอกำลังมาจับกุม ส่วนตัวเองก็แอบเข้ามาสังเกตการณ์เช่นกัน

“ใหญ่กันจริง ขโมยกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้เลยเหรอ”

หล่อนพึมพำกับตัวเองอย่างเคียดแค้น สามปีที่บริษัทขาดทุนเพราะลูกค้าลดออร์เดอร์ลงเนื่องจากสินค้าที่ส่งไปไม่ได้คุณภาพ ทำให้สินค้าหลายตัวถูกตีกลับมา ทั้งๆ ที่สินค้าทุกล็อตฝ่ายตรวจสอบยืนยันว่าสินค้าทุกชิ้นได้มาตรฐาน

เมื่อออร์เดอร์ลดลงรายได้ของบริษัทก็ลดลงและการขาดสภาพคล่องก็ตามมา แต่กัณหาก็พยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าและโปรโมตสินค้าของบริษัทอยู่ตลอดเวลา

สุดท้ายไทม์กรุ๊ปก็มาถึงทางตัน เมื่อแหล่งเงินทุนถอนหุ้นออกไปเพราะไม่มั่นใจในการบริหารงานของผู้บริหารคนปัจจุบันซึ่งก็คือเธอ ทำให้นายตรัยและกัณหาต้องหาคนมาร่วมทุนใหม่ แต่จนแล้วจนรอดคนที่นายตรัยไปเสนอให้ก็ปฏิเสธการช่วยเหลือ มีเพียงทางเอลตาโน่เท่านั้นที่ยังขอศึกษารายละเอียดและรอให้ทายาทอีกคนกลับมาจากเมืองนอกเสียก่อน

“คุณการันต์ร่วมมือกับพวกนี้เองหรอกหรือนี่”

กัณหาตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เมื่อมองเห็นการันต์ผู้จัดการแผนกตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัทเดินเข้ามาพร้อมชายแปลกหน้าอีกสองคน ครั้นพอร่างโปร่งระหงขยับตัว เท้าเล็กก็ถอยไปเหยียบกิ่งไม้แห้งเสียงดังแกร๊ก และเสียงนั้นก็เรียกความสนใจจากพวกมันได้เป็นอย่างดี

“เฮ้ย! มีคนอยู่ตรงนั้น เร็ว! จับตัวมันมาให้ได้” การันต์ตะโกนบอกอย่างตกใจ ชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่รีบตามไปทันที

“จับให้ได้ ไม่อย่างนั้นได้บรรลัยกันแน่งานนี้”

เท้าเล็กวิ่งไปยังบันไดซึ่งพาดกำแพงไว้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ชายร่างใหญ่สบถออกมาแล้วเล็งปืนไปที่ร่างเล็กที่กำลังปีนป่ายกำแพงออกไปข้างนอก เบญจกุลมองเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ชั่วครู่จึงตะโกนออกไปสุดเสียง

“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบและยอมมอบตัวแต่โดยดี” สิ้นเสียงตะโกนบอก พวกมันต่างกระโดดหาที่หลบ จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว ส่วนพวกที่วิ่งตามจับตัวกัณหาก็วิ่งหาที่บังกายและยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

“อ๊าก!” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของชายฉกรรจ์หลายคนดังขึ้นประสานกับเสียงปืน หลายคนล้มตายราวใบไม้ร่วง การันต์มองเพื่อนอีกสองคน ทั้งสามพยักหน้าให้กันแล้วถอยไปด้านหลังของโกดัง เบญจกุลเห็นจึงยิงเข้าใส่ คมกระสุนเจาะเข้าศีรษะคนที่วิ่งตามหลังการันต์แม่นราวจับวาง

การันต์หน้าซีดหันไปมองเพื่อนอย่างตกใจ เหงื่อเม็ดโตซึมออกมาเต็มใบหน้าอย่างกลัวๆ พอจะขยับขาออกวิ่งไป ก็ต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อคมกระสุนเจาะทะลุต้นขาเลือดแดงฉาน

“โอ๊ย” การันต์ร้องอย่างเจ็บปวดและทรุดกายลงกับพื้น แต่ก็ยังรวบรวมกำลังกระเสือกกระสนหาที่ซ่อนกาย กัณหาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ข้างกำแพง มองจ้องไปที่ร่างของผู้จัดการแผนกของบริษัท

เสียงปืนดังอยู่ประมาณสามสิบนาทีก็เงียบลงอย่างยอมแพ้ เมื่อเห็นว่าไม่มีทางรอดคนร้ายหลายคนยกปืนขึ้นเหนือศีรษะเดินออกมามอบตัว เบญจกุล จ่าชูชัยและดาบชีพพาตำรวจอีกหลายนายเข้าจับกุมแล้วเคลียร์พื้นที่ ใบหน้าคมสันกวาดตามองไปรอบๆ อย่างประเมินความเสียหายของฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะมองคนร้ายถูกดันไปยืนเรียงแถวขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเป็นระเบียบ สารวัตรหนุ่มกวาดตามองรอบๆ อีกครั้งเมื่อไม่เห็นใครอีกคนที่เข้ามาร่วมแจมในคืนนี้ ร่างสูงเดินไปยังจุดที่เห็นร่างโปร่งสวมชุดดำยืนแอบอยู่เมื่อสักครู่

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel