ตอนที่ 2 ยัยเด็กขี้แย
บ้านไม้หลังใหญ่ท่ามกลางต้นไม้สูงของครอบครัวบริพักพิบูลย์ ตระกูลใหญ่และเก่าแก่มากด้วยบารมี ทว่าสามสิบปีหลังไร้ซึ่งอำนาจบารมีตระกูลเหมือนต้องคำสาปให้ผู้ชายจากไปก่อนวัยอันควรทำให้ภายในบ้านเหลือแต่ผู้หญิงที่รอพึ่งพาแต่สามีไม่รู้จักการทำงานเมื่อสิ้นเสาหลักก็ผลาญสมบัติมาประคับประคองเพื่อเชิดหน้าชูตาในสังคมทั้งที่กำลังจะหมดตัว
ภายในบ้านไม้สักหลังเก่าขัดพื้นเงาวับเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้นจนบ้านโล่งกว้างรอเวลาถูกธนาคารยึด ทวดหญิงหม่อมรื่นรุจี ท่านย่ามัทราลัย คุณแม่เขมจิราและลูกสาวพรายดาวกับพราวฟ้าอาศัยอยู่ในบ้านหลังไม่หลังใหญ่มีเหล่าคนรับใช้เก่าแก่ไม่มีที่ไปทำงานบ้านแลกกับซุกหัวนอนและอาหารให้กินสามมื้อ คนรับใช้สาวสุดในบ้านมีคนเดียวคือหนูดีเด็กกำพร้าถูกรับเลี้ยงโดยบริพักพิบูลย์ซึ่งเติบโตมาอย่างขาดแคลน ทว่าด้วยผลการเรียนดีหน้าตาสะสวยร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียนจึงได้รับทุนการศึกษาจากโรงเรียนในทุกปีจนกระทั่งเรียนจบเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังได้ทุนเรียนฟรีหนูดีจึงได้เรียนต่อทั้งที่ทางบ้านผู้รับเลี้ยงจะให้เธอเรียนแค่ประถมศึกษาปีที่หก
เรือนเล็กบ้านไม้หลังเก่าของเหล่าคนรับใช้ หนูดีเดินสะพายกระเป๋าผ้าสีขาวใบใหญ่ใส่หนังสือและอุปกรณ์การเรียนในนั้นเข้าไปในห้องไม้เล็ก ๆ เก่าทรุดโทรม ร่างเล็กบอบบางผิวพรรณขาวเนียนผุดผ่องจากกรรมพันธุ์ที่ได้ยีนส์เด่นมาทั้งหมดอีกทั้งการดูแลขัดบำรุงผิวด้วยยายแช่ม ยายพึง แม่ครัวประจำบ้านที่ช่วยกันเลี้ยงดูบำรุงผิวพรรณ สอนทั้งงานบ้านงานเรือนอาหารคาวหวานเป็นแม่ศรีเรือนคนหนึ่งงามทั้งกิริยาและใบหน้าเรียวไข่คิ้วเรียงตรงถึงกลางโก่งขึ้นเล็กน้อยดวงตากลมโตหวานหยดขนตาหนางอนยาวเป็นแพรริมฝีปากจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยตามตำราสวยหวานราวกับภาพวาดใบหน้าที่เพื่อนของพรายดาวและพราวฟ้ามักจะเอาไปให้หมอศัลยกรรมดูเป็นตัวอย่างทำหน้าแต่ยังไม่เคยมีใครทำได้เหมือนร้อยเปอร์เซ็นต์
หนูดีหยิบเสื้อผ้าอาบน้ำในห้องน้ำรวมสุดทางของบ้านไม้หลังเก่า ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งลงเตรียมทำรายงานบนโต๊ะเล็ก ๆ หันมองตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลขนาดเท่าฝ่ามือเป็นตุ๊กตาตัวแรกและตัวเดียวที่เธอมีบนที่นอนลูกฟูกแล้วนึกถึงคนให้ของขวัญชิ้นนี้
สิบสองปีที่แล้ว
หนูดีวัยเจ็ดขวบนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นคิดถึงแม่อยู่ริมสระดอกบัวหลังบ้านไม้หลังใหญ่ สักพักเสียงคนเดินเหยียบหญ้าเข้ามาใกล้คือชายหนุ่มผิวเข้มใบหน้าดุดันเดินถือตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลมายังริมสระดอกบัวง้างแขนทำท่าจะเขวี้ยงตุ๊กตาลงน้ำแต่เขาชะงักเหลือบมองเมื่อเห็นเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตาโตขนตางอนยาวตัวผอมแห้งผิวซีดจัดนั่งอยู่ข้างพุ่มไม้ เขาเปลี่ยนท่าทางเดินเข้ามาใกล้เด็กน้อย
“อยากได้ไหม?” มือหนายื่นตุ๊กตาหมีตรงหน้าเด็กน้อยตาแป๋วน้ำตาชุ่มหน้า หนูดีกระพริบตาถี่อยากได้ตุ๊กตาหมีน่ารัก
“เอาไปแล้วเลิกร้องไห้เป็นคนอ่อนแอสักที” เขาโยนตุ๊กตาหมีลงบนตักเด็กหญิงก่อนจะล้วงซองบุหรี่ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน
“หนูดีคิดถึงแม่” หนูดีหน้าเศร้าเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลลงแก้มป่อง
“ก็ไปหาแม่สิ”
“แม่ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ไม่รู้ว่าไปยังไง”
“แม่ทิ้งเธอไปแล้ว ร้องไห้แม่ก็ไม่กลับมาเปลืองน้ำตาเปล่า ๆ” เขาเสียงแข็งจะจุดบุหรี่สูบแต่พอก้มมองเด็กหญิงก็เปลี่ยนใจ
“อยู่ให้ได้แม้ในวันที่ไม่ไหว อย่าหวังพึ่งพาคนอื่นคนที่ช่วยเธอได้มีแค่ตัวเธอเอง” คำพูดทิ้งท้ายสร้างความมึนให้เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบยังไม่เข้าใจความหมายแต่กลับจดจำคำพูดของเขาได้ทุกคำจนเติบใหญ่จึงเข้าใจความหมายของชายหนุ่มเย็นชาคนนั้น คิมหันต์คือชื่อที่เธอจำได้ฝังใจและไม่เคยลืมเลือนใบหน้าหล่อคมคายนั้นเลยตลอดสิบสองปี…….
“หนูดี”เสียงเรียกคุ้นเคยทำให้หนูดีหลุดจากภวังค์ความคิด
“จ้ะยาย”ร่างเล็กลุกเดินไปเปิดประตูห้องเห็นยายแช่ม ยายพึง ป้าพวง ป้าสร้อยยืนยิ้มอยู่หลังจานเค้กชิ้นเล็ก ๆ มีแสงเปลวเทียนสว่างไสว
“สุขสันต์วันเกิดนะลูก” ยาย ๆ ป้า ๆ ส่งเสียงอวยพรให้กับหลานเล็กคนเดียวของบ้านอย่างชื่นบาน หนูดียิ้มแย้มแววตาสั่นไหว
“ขอบคุณค่ะ ยายกับป้าไม่น่าลำบากเลย”
“ไม่ลำบากหรอกลูก ผักหญ้าที่เราปลูกกล้วยเครือใหญ่กับผักบุ้งเต็มหนองน้ำวันนี้ขายได้เงินตั้งหลายร้อย”
“หนูรักทุกคนมากเลย” หนูดีน้ำตารื้นโผกอดยายๆ ป้า ๆ ที่รักและเอ็นดูเธอเสมอ
“ยายกับป้าก็รักหนูดีนะลูก” ยาย ๆ ป้า ๆ ร่วมกันกอดหลานสาวตัวน้อยที่เติบโตมาอย่างดีไม่เลี้ยงง่ายไม่ดื้อไม่ซนอีกทั้งยังขยันรักดีสมชื่อที่แม่ของเด็กตั้งไว้...........
ภายในห้องน้ำคอนโดบานกระจกใหญ่เห็นวิวตึกสูงใจกลางเมือง
คิมหันต์นอนแช่น้ำในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ท่อนอกแกร่งเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยสัก สายตาคมกำลังทอดมองตึกสูงเปิดไฟระยิบระยับ มือหนาหมุนวนเคล้าให้เหล้าในแก้วกับน้ำแข็งก้อนเล็กก่อนจะยกขึ้นมาดื่ม
“หนูดี โตมาสวยเชียวนะยัยเด็กขี้แย” ริมฝีปากหนากระตุกมุมปากสายตากรุ้มกริ่มเมื่อนึกถึงใบหน้าอ่อนหวานน่าทะนุถนอมที่ได้พบเจอเมื่อวันก่อน
“คะ?”แจมหญิงสาวร่างบางทรวดทรงโค้งเว้าหน้าอกอวบอิ่มมีรอยสักเต็มแผ่นหลังนั่งบนขอบอ่างคอยรินเหล้าลงในแก้วไม่ให้ขาดช่วง
“เธอคิดว่าซื้อผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นของส่วนตัวต้องจ่ายเท่าไหร่?”
“ขอคำนวณก่อนนะคะ แจมไม่แน่ใจว่าจะเรียกเงินคุณเท่าไหร่ดี” แจม กระหยิ่มยิ้มย่องดีใจที่นายใหญ่ถูกใจในตัวเธอ
“อย่างเธอแค่ครั้งคราวก็เบื่อ ใครจะไปซื้อ” เขาปรายตามองหญิงคู่นอนแล้วแค่นหัวเราะในความหวังสูง
“อีตัวไหนที่มันทำให้คุณไม่เบื่อ ถึงอยากซื้อมันมาเป็นของส่วนตัว”
“ได้มาอาจจะเบื่อ แต่ตอนนี้อยากได้ โคตรอยากได้” คิมหันต์กระดกเหล้าดื่มลงคอพลางดุนลิ้นสากชนกระพุ้งแก้มแววตามาดหมายราวอินทรีย์เล็งเหยื่อรอจังหวะโฉบมาเป็นของตัวเอง….
